ชิคาโก--5 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์
เบิร์ก ฟาร์มา (Berg Pharma) บริษัทเวชภัณฑ์ในเมืองบอสตัน นำเสนอข้อมูลใหม่ล่าสุดที่เป็นความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์มะเร็ง ณ การประชุม AACR ประจำปีครั้งที่ 103 ในวันที่ 4 เมษายน 2555 ในการประชุมครั้งนี้ บริษัทได้นำเสนอผลงาน 5 หัวข้อ ได้แก่ ชีววิทยาของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ที่มีความสัมพันธ์กับการที่เซลล์มะเร็งสร้างหลอดเลือดใหม่มาเลี้ยงตัวเอง, mitochondrial flux ในเซลล์มะเร็งเพื่อรักษาโรคมะเร็งขั้นต้น, การเสริมฤทธิ์ของยา BPM 31510, ยารักษาโรคมะเร็งที่เบิร์กกำลังพัฒนาร่วมกับยา gemcitabine และการใช้ Interrogative Biology(R) สำหรับชีววิทยาระบบมะเร็ง ปัจจุบัน ยา BPM 31510 กำลังอยู่ระหว่างการทดลองขั้นที่ 1 เพื่อใช้รักษามะเร็งชนิดเป็นก้อนที่ลุกลามและไม่ตอบสนองต่อการรักษา และบริษัทกำหนดไว้ว่าจะทำการทดลองขั้นที่ 3 ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับมะเร็งเซลล์สความัส (squamous cell carcinoma) ในปีนี้
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120404/CL82745LOGO)
นายแพทย์เซธ คอรีย์ (Seth Corey, MD) ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาตัวยาแห่งศูนย์วิจัยชิลเดรน เมโมเรียล และศูนย์มะเร็งโรเบิร์ต เอช ลอรี่ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น กล่าวว่า ชีววิทยาระบบเป็น “เทคโนโลยีที่มีการปฏิวัติรูปแบบมากที่สุดในวงการแพทย์ปัจจุบัน” เขายังกล่าวอีกด้วยว่า “เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับความแตกต่างและความซับซ้อนของมะเร็ง ชีววิทยาระบบและกระบวนการเมตาบอลิซึมของมะเร็งนับเป็นหนทางที่น่าเชื่อถือที่สุดอันจะนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ทีมวิจัยใช้แพลตฟอร์ม Interrogative Biology(R) ซึ่งเป็นการสร้างแบบจำลองทางชีววิทยา โดยระบบจะจำลองแบบร่วมกับภาวะก่อกวนและปัจจัยย่อยของโรคตามขั้นตอนวิธี AI-Bayesian algorithms จากนั้นผลลัพธ์ที่ได้จะเผยลักษณะเฉพาะตามปกติของโรค ซึ่งสะท้อนถึงพยาธิวิทยาของโรค “เหล่านี้จะถูกใช้พิสูจน์และระบุตัวบ่งชี้ทางชีวภาพและเป้าหมายการรักษา เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนายาให้เร็วขึ้น วิธีการใหม่จากเทคโนโลยี Interrogative Biology(R) ของเบิร์ก จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการค้นพบเอนไซม์ kinase ซึ่งไม่เคยมีการระบุคุณสมบัติเฉพาะมาก่อนจนกระทั่งบัดนี้ และสำหรับการศึกษาพยาธิสรีระของมะเร็ง” วิเวก วิษณุดาส์ (Vivek Vishnudas) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการวิทยาศาสตร์ กล่าว
เบิร์ก ฟาร์มา อุทิศตนให้กับการวิจัยการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากขั้นต้นจนถึงขั้นปลาย และสร้างความแข็งแกร่งในการทำความเข้าใจว่า วงจรและความผิดปกติในกระบวนการเมตาบอลิซึมของไมโทคอนเดรีย อาทิ ปรากฏการณ์วอร์เบิร์กเอฟเฟกต์ ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ความตึงเตรียด และการอักเสบ ส่งผลให้เกิดลักษณะของโรคอย่างมะเร็ง เบาหวาน และโรคระบบประสาทส่วนกลางได้อย่างไร “เบิร์กพยายามจัดการกับกระบวนการของโรคเหล่านี้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและผลผลิตใหม่ๆจากแพลตฟอร์มของเรา เพื่อนำความรู้ทางชีววิทยามาปรับใช้ในการรักษาและวินิจฉันอย่างชาญฉลาด” ไนเวน อาร์ นาราอิน (Niven R. Narain) ผู้ร่วมก่อตั้ง กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของเบิร์ก ฟาร์มา กล่าว
ทฤษฎีหลักของแพลตฟอร์มเกี่ยวข้องกับการอ่านผล "multi-omics" แบบบูรณาการ อันประกอบไปด้วยกิจกรรมของเอนไซม์ kinase, การเปลี่ยนแปลง phospho-proteomes และการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีน ต่อด้วยการอนุมานปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลที่กล่าวถึงข้างต้นตามขั้นตอนวิธี Bayesian algorithms ทั้งนี้ รังกา ซารังการาจัน (Ranga Sarangarajan) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย กล่าวว่า “การพิสูจน์และให้เหตุผลโดยปราศจากอคติโดยใช้วิธีการทางชีววิทยาดังกล่าว ก่อให้เกิดวิธีการรักษาโรคต่างๆที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเมตาบอลิซึมของไมโทคอนเดรียที่ผิดปกติ”
เกี่ยวกับ เบิร์ก ฟาร์มา
เบิร์ก ฟาร์มา เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ในเมืองบอสตัน และเป็นบริษัทแม่ของ เบิร์ก ไบโอซิสเต็มส์ และ เบิร์ก ไดแอกนอสติกส์ การวิจัยของเราเน้นไปที่การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเมตาบอลิซึม ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรค เราได้ค้นพบข้อมูลที่ลึกซึ้งในเรื่องปัจจัยควบคุมกระบวนการเมตาบอลิซึม รวมถึงแจกแจงองค์ประกอบต่างๆตามสมมติฐานวอร์เบิร์ก บริษัทมีเทคโนโลยีขั้นต้นมากมายในการรักษาโรคระบบประสาทส่วนกลางและโรคที่เกี่ยวกับกระบวนการเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นส่วนเติมเต็มกิจกรรมการทดลองทางคลินิกขั้นปลายในด้านการรักษาโรคมะเร็งและการป้องกันภาวะเคมีบำบัดเป็นพิษ บริษัทมีแพลตฟอร์มที่สามารถแปลงผลผลิตทางชีวภาพเป็นการรักษาอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นแหล่งรวบรวมตัวบ่งชี้ทางชีวภาพได้ ทั้งนี้ เบิร์ก ฟาร์มา ก้าวเดินอย่างมั่นคงไปสู่อนาคตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น
ติดต่อ:
แอชลีย์ พ็อตส์ (Ashley Potts)
โทร: +1-617-939-1071