เจนีวา--7 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เฟิร์สต์คอลล์ / อินโฟเควสท์
แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ มีลูกค้าบัญชีกระแสรายวันเพิ่มขึ้น 3 เท่า หลังเปิดตัวบัตรเดบิตเทคโนโลยีไบโอเมตริกบัตรแรกของเวียดนามซึ่งใช้ระบบ TEMENOS T24 Biometric โดยสามารถใช้บริการได้ที่ตู้เอทีเอ็มของเอ็นซีอาร์ทั่วประเทศเวียดนาม
เทเมนอส (Temenos) (SIX: TEMN) ผู้นำด้านซอฟต์แวร์สำหรับธนาคาร ประกาศเปิดตัวบัตรเดบิตแบบสแกนลายนิ้วมือบัตรแรกของเวียดนาม ที่ธนาคารแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ (Mekong Development Bank) โดยทางธนาคารได้เลือกใช้ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ Temenos T24 Biometric เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวเวียดนามที่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถเข้าถึงบริการต่างๆของทางธนาคารได้ ทั้งนี้ แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ใช้ระบบ T24 ทั่วทั้งธนาคารแล้ว ถือเป็นการอัพเกรดขั้นพื้นฐานด้วยการผนวกเทคโนโลยีไบโอเมตริกเข้าสู่ระบบอย่างแนบเนียน
ระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกช่วยลดความเสี่ยงการฉ้อโกง ขณะเดียวกันก็ทำให้ประชาชนเวียดนามทั้งในเมืองและชนบทได้รับบริการที่สะดวกสบายกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันมีชาวเวียดนามเพียง 20% จากทั้งหมด 86 ล้านคนที่มีบัญชีธนาคาร และนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน ปรากฏว่าลูกค้าบัญชีกระแสรายวันของแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่ดุลเงินฝากต่อบัญชีบัตรเดบิตก็สูงกว่าบัญชีทั่วไปที่ไม่มีบัตรเดบิตถึง 2 เท่า ทั้งนี้ แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ จะบันทึกลายนิ้วมือของลูกค้าตอนที่เปิดบัญชี จากนั้นลูกค้าสามารถใช้บริการได้ที่ตู้เอทีเอ็ม NCR SelfServ(TM) ทั้งหมด 33 จุดทั่วเวียดนาม และจะมีการขยายจุดบริการเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับปณิธานของแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในด้านต่างๆ
นิโคลัส ชี (Nicholas Chee) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจผู้บริโภค ธนาคารแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ กล่าวว่า “การเป็นธนาคารแห่งแรกในเวียดนามที่นำระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยลายนิ้วมือเทคโนโลยีไบโอเมตริกมาใช้ เป็นเครื่องยืนยันว่าแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การทำธุรกรรมที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง เทเมนอสนำศักยภาพอันทันสมัยมาให้เราภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน โดยทำให้ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ Temenos T24 ทำงานร่วมกับระบบธนาคารพื้นฐานที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่ายดาย และการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับตู้เอทีเอ็ม NCR SelfServ(TM) ทั่วเวียดนาม ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างราบรื่นทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผลการสำรวจเบื้องต้นพบว่า ลูกค้าที่เปิดบัตรเดบิตมากถึง 91% จะแนะนำให้คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงเปิดบัตรเดบิตด้วยเช่นกัน”
ลี โวลันเต (Lee Volante) ผู้อำนวยการกลุ่มโซลูชั่นสำหรับภาคธุรกิจประจำเอเชียแปซิฟิก บริษัทเทเมนอส กล่าวว่า “ธนาคารทั่วโลกใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกในการรักษาความปลอดภัยและควบคุมการเข้าถึงตู้นิรภัยและอื่นๆ มานานหลายสิบปีแล้ว แต่เทคโนโลยีนี้เพิ่งเริ่มกระจายไปสู่ลูกค้าวงกว้างในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีมูลค่าเชิงพาณิชย์ในฐานะช่องทางการดึงดูดลูกค้า แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างแท้จริง ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ง่ายและสะดวกสบายจะช่วยให้ทางธนาคารสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดได้ เรายินดีอย่างยิ่งที่ระบบ T24 Biometric ก่อให้เกิดมิติใหม่ของการทำธุรกรรมในเวียดนาม”
ไมค์ แวน เดอร์ วัล (Mike van der Wal) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็นซีอาร์ (NCR) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ประชากรโลกกว่าครึ่งหนึ่งโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเวียดนาม ไม่สามารถเข้าถึงบริการๆของธนาคารได้ ตู้เอทีเอ็มเอ็นซีอาร์ของแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ซึ่งระบุตัวตนของลูกค้าด้วยลายนิ้วมือแทนที่จะเป็นรหัสประจำตัวของลูกค้า ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการทำให้ประชาชนชาวเวียดนามทุกคนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆของธนาคารได้ ตั้งแต่นี้ไปลูกค้าของแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ จะได้ใช้บริการอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยกว่าเดิม”
แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 และในปี 2552 ทางธนาคารได้แปลงโฉมเป็นแบรนด์ใหม่ที่ทรงพลัง ทันสมัย มีความเป็นมืออาชีพ และสะดวกสบายกว่าเดิม สิ่งสำคัญที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ประสบความสำเร็จคือ การพิสูจน์ตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริก ซึ่งจะปฏิวัติวิธีการทำธุรกรรมในเวียดนามและทำให้แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ มีส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น
ลี โวลันเต กล่าวเสริมว่า “การที่แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ กล้าบุกเบิกใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริก เป็นสิ่งที่ธนาคารอื่นๆควรให้ความสนใจ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่นนี้จะทำให้ธนาคารต่างๆมีโอกาสสูงในการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีไบโอเมตริกจะถูกนำไปใช้ในช่องทางอื่นๆ อาทิ การทำธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือและการทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น”
เทเมนอสเป็นระบบธนาคารพื้นฐานหนึ่งในไม่กี่ระบบที่มีเทคโนโลยีไบโอเมตริก เทเมนอสเป็นส่วนประกอบของระบบ T24 ซึ่งมีฐานข้อมูลติดตั้งใหญ่กว่าของผู้จัดหาซอฟต์แวร์สำหรับธนาคารรายอื่นๆ T24 Biometric ถูกนำไปใช้โดยสถาบันการเงินหลายแห่งทั่วทวีปแอฟริกา และแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ เป็นลูกค้ารายแรกในเอเชียที่นำระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกตัวนี้มาใช้
เกี่ยวกับ แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์
แม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ แบงก์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2535 โดยเริ่มดำเนินธุรกิจครั้งแรกในชื่อ มาย ซูเย็น จอยท์ สต็อก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (My Xuyen Joint Stock Commercial Bank: MX Bank) ในวันที่ 16 กันยายน 2551 ธนาคารกลางเวียดนามได้อนุญาตให้ MX Bank เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจมาเป็นธนาคารที่เน้นให้บริการชุมชนเมือง ทำให้ธนาคารสามารถขยายกิจการไปได้ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ทางธนาคารยังคงเน้นให้สินเชื่อแก่ภาคการเกษตรและชุมชนชนบทด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 15 ปีในการดำเนินงานด้านนี้ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 MX Bank ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแม่โขง ดีเวลลอปเมนท์ จอยท์ สต็อก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (MDB) และขยายกิจการอย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ และในวันที่ 9 ธันวาคม 2553 MDB กลายเป็นหนึ่งในธนาคารเพียงไม่กี่แห่งที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนจัดตั้งเป็น 3 ล้านล้านดองเวียดนาม โดยได้รับเงินทุนจากบริษัท ฟูลเลอร์ตัน ไฟแนนเชียล โฮลดิ้งส์ พีทีอี (Fullerton Financial Holdings Pte.) ซึ่งเป็นธุรกิจลงทุนที่อยู่ในเครือบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ พีทีอี (Temasek Holdings Pte.) กลุ่มการเงินอันแข็งแกร่งของรัฐบาลสิงคโปร์ ปัจจุบัน MDB มีเงินทุนจัดตั้ง 3.750 ล้านล้านดองเวียดนาม และติดอันดับ 20 ธนาคารชั้นนำในเวียดนาม ทั้งนี้ ธนาคารมี 48 สาขาและมีเคาน์เตอร์บริการทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีตู้เอทีเอ็มกว่า 20,000 ตู้ที่ใช้เครือข่าย Smartlink ร่วมกันในเวียดนาม ด้านกำลังเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก 500 คนในปี 2553 เป็นกว่า 1,200 คนในปี 2555
เกี่ยวกับ เอ็นซีอาร์
เอ็นซีอาร์ คอร์ปอเรชั่น (NYSE: NCR) เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่เป็นผู้นำด้านการเชื่อมโยง ติดต่อ และทำธุรกรรมทางธุรกิจ โซลูชั่นต่างๆและบริการที่ครอบคลุมของเอ็นซีอาร์ช่วยตอบสนองความต้องการขององค์กรต่างๆในภาคค้าปลีก การเงิน การท่องเที่ยว บริการ บันเทิง เกม ภาครัฐ รวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ในกว่า 100 ประเทศ ทั้งนี้ เอ็นซีอาร์ ( http://www.ncr.com ) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองดูลูท รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เกี่ยวกับ เทเมนอส
เทเมนอส กรุ๊ป เอจี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิส (SIX: TEMN) บริษัทเป็นผู้นำด้านการจัดหาซอฟต์แวร์สำหรับธนาคารให้แก่ธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อย ธนาคารเพื่อลูกค้าองค์กร ธนาคารที่ให้บริการครบวงจร ธนาคารเอกชน ธนาคารอิสลาม รวมถึงธนาคารไมโครไฟแนนซ์และธนาคารชุมชน บริษัทตั้งอยู่ที่นครเจนีวาและมีสาขากว่า 60 แห่งทั่วโลก บริษัทมีลูกค้ากว่า 1,500 รายในกว่า 125 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของเทเมนอสมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ประกอบกับกระบวนการปฏิบัติงานที่ดีที่สุด ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ของเทเมนอสในการใช้งานกว่า 700 ครั้งทั่วโลก ลูกค้าของเทเมนอสได้ประโยชน์มากกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น โดยข้อมูลจาก The Banker ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารชั้นนำ 1,000 แห่ง พบว่า ลูกค้าของเทเมนอสได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์สูงกว่า 54%, ผลตอบแทนจากเงินทุนสูงกว่า 62% และสัดส่วนต้นทุน/รายได้ ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าของเทเมนอสถึง 7.2 จุด สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.temenos.com
ข้อมูลติดต่อเทเมนอส
ไมเคิล โกลดิ้ง (Michael Golding)
หัวหน้าฝ่ายสื่อสาร
โทร: +44(0)207-423-3751
อีเมล: mgolding@temenos.com
อาบีเกล แดเนียลส์ (Abigail Daniels)
จากฮ็อตไวร์ (Hotwire) ตัวแทนของเทเมนอส
โทร: +44(0)207-608-8364
อีเมล: temenos@hotwirepr.com
แหล่งข่าว: เทเมนอส