นิวยอร์ก--30 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/ อินโฟเควสท์
บาร์นีย์ส นิวยอร์ก ผู้ค้าปลีกสินค้าระดับหรู และวอลท์ ดิสนีย์ บริษัทแห่งธุรกิจความบันเทิงชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ถึงการร่วมมือกันของทั้งสองบริษัทในการจัดแคมเปญวันหยุดประจำปี 2555 “Electric Holiday” ที่ร้านจำหน่ายสินค้าปลีกของบาร์นีย์ส นิวยอร์ก Electric Holiday ซึ่งเป็นแคมเปญริเริ่มสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดในหลากหลายรูปแบบและเต็มไปด้วยแฟชั่นและจินตนาการ ด้วยการผสานความคิดสร้างสรรค์และเวทมนตร์ของดิสนีย์เข้ากับความสุดยอดและความอัศจรรย์ของสุดยอดแคมเปญวันหยุดประจำปีที่จัดขึ้นโดยบาร์นีย์ส นิวยอร์ก เพื่อสร้างสรรค์งานเฉลิมฉลองที่มีทั้งแฟชั่น ดนตรี และแสงไฟอันทันสมัยอย่างรื่นเริง
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120822/NY59866-a )
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120822/NY59866LOGO-b )
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120822/NY59866LOGO-c )
ห้างสรรพสินค้าของบาร์นีย์ส นิวยอร์กที่ตั้งอยู่บนถนนเมดิสันจะถูกใช้เป็นจุดศูนย์กลางของการจัดแคมเปญ Electric Holiday ในช่วงกลางเดือนพ.ย. โดยการแสดงศิลปะเคลื่อนไหวได้ (moving art short)ชิ้นพิเศษที่สร้างสรรค์โดยศิลปินของดิสนีย์จะถูกนำมาจัดแสดงท่ามกลางการเฉลิมฉลองแสงไฟในแคมเปญครั้งนี้ด้วย ดิสนีย์ได้สร้างสรรค์การแสดงแสงไฟในรูปแบบ 3 มิติล้ำสมัยที่รายล้อมทางเข้าห้างสรรพสินค้าบาร์นีย์ส นิวยอร์กบนถนนเมดิสัน รวมทั้งจะจัดแสดงศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ในตู้จัดแสดงสินค้าด้วย นอกจากการจัดแสดงและศิลปะเคลื่อนไหวแล้ว ไมเคิล จิแอชชิโน นักประพันธ์เพลงเจ้าของรางวันออสการ์(R) จะมาบรรเลงท่วงทำนองต้นฉบับของเพลงที่สามารถทำรายได้อย่างล้นหลาม เพื่อเป็นการสร้างสีสันให้งานนี้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นด้วย
โครงการ Electric Holiday และการจัดแสดงสินค้าของห้างสรรพสินค้าสาขาใหญ่บนถนนเมดิสันจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน ทั้งนี้ สายการบินแอร์ ฟรานส์ (Air France) จะให้การสนับสนุนแคมเปญวันหยุดประจำปี 2555 นี้ ด้วยข้อเสนอพิเศษแบบเบ็ดเสร็จ โครงการจัดแสดงแสงไฟ Electric Holiday นี้ จะใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดแสดง Cristie(R ) และ MicroTiles(R) จากบริษัท คริสตี ดิจิตัล ซิสเต็มส์ของสหรัฐ (Christie Digital Systems USA, Inc.)
“ตัวละครและโลกในเทพนิยายที่สร้างสรรค์โดยดิสนีย์นั้น ตราตรึงอยู่ในหัวใจและความทรงจำของทุกคนทั่วโลกอย่างแท้จริง” นายมาร์ค ลี (Mark lee) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบาร์นีย์ส นิวยอร์กกล่าว “บาร์นีย์ส นิวยอร์กได้รับสิทธิพิเศษให้มีโอกาสได้ร่วมงานกับดิสนีย์และบรรดาบุคคลผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นของดิสนีย์ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ เพื่อจัดแคมเปญ Electric Holidayนี้ ซึ่งเป็นการใช้ตัวละครผู้โด่งดังเป็นจุดดึงดูดความสนใจโลกแห่งแฟชั่นของเรา”
“นอกจากจะเป็นธรรมเนียมการจัดแคมเปญสินค้าวันหยุดของนิวยอร์กที่มีมาช้านานแล้ว Electric Holiday ยังเป็นรูปแบบความบันเทิงพิเศษที่จะสร้างความเพลิดเพลินเริงใจให้แก่ผู้คนทุกวัย” นายบ๊อบ ชาเปค (Bob Chapek) ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคของดิสนีย์ “ตั้งแต่จินตนาการที่ล้ำเลิศ ตลอดจนกลวิธีการเล่าเรื่องอันเลื่องชื่อของดิสนีย์ รวมไปถึงการเลือกสรรประเภทสินค้าที่ไม่เหมือนใคร ความร่วมมือกับบริษัทที่น่านับถืออย่างบาร์นีย์ส นิวยอร์ก จึงเป็นการเฉลิมฉลองที่คุ้มค่าในช่วงเวลาแห่งวันหยุดนี้”
Electric Holiday เป็นการรวมตัวกันของเหล่าผู้มีความคิดสร้างสรรค์อันบรรเจิด โดยเป็นการผสานความร่วมมือของทีมงานของบาร์นีย์ส นิวยอร์ก ภายใต้การกำกับดูแลของ เดนนิส ฟรีดแมน (Dennis Freedman) ผู้กำกับฝ่ายสร้างสรรค์การผลิต และผู้มากประสบการณ์จากดิสนีย์ ซึ่งประกอบด้วย ลูอิส เฟอร์นันเดส (Luis Fernandez) รองประธานอาวุโสด้านการสร้างสรรค์ระดับโลกของฝ่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคของดิสนีย์ และจอห์น ควินน์ (John Quinn) ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของตัวละครดิสนีย์
ศิลปะเคลื่อนไหวได้ในโครงการ Electric Holiday จะปรากฎโฉมในฐานะนายแบบนางแบบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวการ์ตูนมินนี่ เมาส์ และมิกกี้ เมาส์ และตัวละครชื่อดังของดิสนีย์ตัวอื่นๆ ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นนายแบบและนางแบบบนเวทีเดินแบบปารีส ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของโลกแฟชั่นอันทันสมัยท่ามกลางสีสันและแสงไฟอันตระการตาจากดินแดนมหัศจรรย์ของดิสนีย์ มินนี่และมิกกี้จะก้าวเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ที่ซึ่งทั้งคู่จะแปลงโฉมจากตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่เป็นอยู่แต่เดิม มาเป็นนายแบบนางแบบในชุดแฟชั่นสวยงามทันสมัย และจะเดินแบบร่วมกัยเหล่าตัวละครชื่อดังจากดิสนีย์อีก 5 ตัวละคร ได้แก่ กู๊ฟฟี่, เดซี่ ดั๊ก, สโนว์ ไวท์, เจ้าหญิงเทียน่า และครูเอล่า เด วิล
บรรดานายแบบนางแบบดิสนีย์ที่แปลงโฉมใหม่จะปรากฎกายในชุดพิเศษที่ได้รับการออกแบบโดยเหล่านักออกแบบแฟชั่นผู้มีชื่อเสียงสั่นสะเทือนวงการมากที่สุดของโลก ซึ่งรวมถึง นิโคลัส เจสกิแยร์ (Nicholas Ghesquire) ผู้ออกแบบให้กับแบรนด์บาลองเซียก้า, โอลิเวอร์ รูสแตง (Oliver Rousteing) ผู้ออกแบบให้กับแบรนด์บาลแมง และโดลเซ่ แอนด์ กั๊บบานา, แอลเบอร์ เอลบาซ (Alber Elbaz) ผู้ออกแบบให้กับแบรนด์ลองแวง, ปีเตอร์ คอปปิ่ง ผู้ออกแบบให้กับแบรนด์นิน่า ริชชี่ และโพเอนซา สกูลเลอร์ และริคส์ โอเว่นส์ (Rick Owens)
เพื่อเป็นการนำตัวละครดิสนีย์ผู้โด่งดังเข้าสู่โลกของบาร์นีย์สอย่างเต็มรูปแบบ เหล่าผู้เชี่ยวชาญจากวงการแฟชั่นตัวจริงเสียงจริงจะมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานในการแสดงศิลปะเคลื่อนไหวได้ครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบแฟชั่นจากเวทีเดินแบบสุดอลังการ, ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมชื่อดัง, ช่างภาพ, นักข่าวและบรรณาธิการผู้มีชื่อเสียง ตลอดจนเหล่าคนดังและแขกผู้ทรงเกียรติที่มักจะปรากฎตัวในงานแสดงแฟชั่นโชว์รายการดังต่างๆ ซึ่งจะเป็นการสะท้อนภาพการถ่ายแบบแฟชั่นสุดมหัศจรรย์และไม่เหมือนใคร ด้วยองค์ประกอบจากโลกแห่งความจริงทั้งฉากหน้า ฉากหลัง และบนเวทีในรูปแบบของการแสดงศิลปะ
นอกจากนี้บาร์นีย์ส นิวยอร์ก ยังได้สร้างสรรค์ของขวัญสำหรับวันหยุดสุดพิเศษรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะวางจำหน่ายภายในระยะเวลาที่กำหนดเฉพาะที่ร้าน Chelsea Passage บนชั้นที่ 9 ของห้างสรรพสินค้าบาร์นีย์ส ถนนเมดิสันในนิวยอร์ก, ร้านบาร์นีย์ส นิวยอร์กทั่วประเทศ และเว็บไซต์ Barney.com เท่านั้น ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายดังกล่าวประกอบด้วย สินค้า Vinylmation ชุดสะสมของดิสนีย์ ซึ่งออกแบบโดยพอล สมิท (Paul Smith) และไดแอนด์ ฟอน เฟอร์สเทนเบิร์ก (Diane von Furstenberg), หูมิกกี้ เมาส์ ซึ่งได้รับการออกแบบโดยแบรนด์ Rag&Bone และ L’Wren Scott และของกระจุกกระจิกอื่นๆ อาทิ อุปกรณ์ตกแต่งสำหรับเทศกาลวันหยุด, ขนมหวาน, ของเล่นสำหรับเด็ก และอื่นๆอีกมากมาย
เนื่องในโอกาสเทศกาลวันหยุดนี้บาร์นีย์ส นิวยอร์กจะบริจาครายได้ 25% ของยอดขายผลิตภัณฑ์จากแคมเปญ Electric Holiday ทั้งหมด ให้แก่องค์กรการกุศล เพื่อเป็นเกียรติสำหรับความร่วมมือแบบพิเศษสุดของบาร์นีย์ส นิวยอร์ก
ผลงานศิลปะชิ้นโดดเด่นพิเศษและไม่เหมือนใครจากแคมเปญ Electric Holiday จะปรากฎบนกระเป๋าช็อปปิงรุ่นพิเศษของบาร์นีย์ส ซึ่งจะเป็นของสมนาคุณเมื่อซื้อสินค้าที่ร้านบาร์นีย์ส นิวยอร์กทุกสาขา หรือผ่านทางเว็บไซต์ Barneys.com ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้
เกี่ยวกับบาร์นีย์ส นิวยอร์ก
บาร์นีย์ส นิวยอร์ก (บาร์นีย์ส) คือ ผู้ค้าปลีกสินค้าระดับหรู ซึ่งมีร้านจำหน่ายสินค้าหลักที่มีชื่อเสียงโด่งดังในนิวยอร์ก ซิตี้, เบเวอร์รี่ ฮิวส์, ชิคาโก, ซีแอทเทิล, บอสตัน, ซานฟรานซิสโก, ลาสเวกัส และสก๊อตต์สเดล นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในการดำเนินกิจการในรูปแบบออนไลน์อีกด้วย ผ่านทางเว็บไซต์ www.Barneys.com บริษัทก่อตั้งขึ้นจากการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าปลีกสำหรับบุรุษแถบย่านใจกลางเมืองแมนฮัตตันในปี 2466 จากนั้นได้กลายมาเป็นผู้จำหน่ายสินค้าทันสมัยที่เป็นที่นิยมสำหรับทั้งบุรุษและสตรีระดับแนวหน้าของโลกในช่วงทศวรรษ 2510 บริษัทมีชื่อเสียงในด้านการคิดค้นและการพัฒนาทักษะพิเศษด้านการออกแบบใหม่ๆและสร้างสรรค์ บาร์นีย์สโด่งดังในด้านการจำหน่ายสินค้าหรูที่ได้รับการออกแบบโดยบรรดาสุดยอดนักออกแบบของโลก ซึ่งรวมถึง เครื่องแต่งกาย, เครื่องประดับ, รองเท้า, อัญมณี, เครื่องสำอาง และน้ำหอมสำหรับบุรุษและสตรี รวมทั้งของขวัญสำหรับครอบครัว เอกลักษณ์อันโดดเด่นและมีสไตล์ของบาร์นีย์สปรากฎให้เห็นเด่นชัดผ่านแคมเปญโฆษณาที่สร้างสรรค์, ต้นแบบผู้ริเริ่มธีมวันหยุด และการจัดแสดงสินค้าชื่อดัง บริษัทเปิดตัวCO-OP อันสร้างสรรค์เมื่อปี 2528 และนับแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ขยายกิจการเป็นร้านค้าอิสระกว่า 12 แห่งซึ่งดำเนินธุรกิจใน 8 รัฐทั่วสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบาร์นีย์ส นิวยอร์ก กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์www.Barneys.com และสามารถรับทราบข้อมูลระดับหรูอย่างใกล้ชิดก่อนใครเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังของนักออกแบบชื่อดัง, แฟชั่น, เหตุการณ์สำคัญ, และทีมงานของบาร์นีย์สได้ที่ส่วนของเว็บไซต์ The Window
เกี่ยวกับบริษัทวอลท์ดิสนีย์
บริษัท วอลท์ดิสนีย์ พร้อมด้วยบริษัทในเครือและบริษัทพันธมิตร เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าด้านสื่อและความบันเทิงสำหรับครอบครัวในระดับสากล บริษัทดำเนินธุรกิจทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ เครือข่ายสื่อ, สวนสนุกและรีสอร์ท, สตูดิโอแห่งความบันเทิง, สินค้าอุปโภคและบริโภค และสื่ออินเตอร์แอคทีฟ ดิสนีย์เป็นบริษัทที่มีรายชื่อที่ใช้คำนวณดัชนี Dow30 และมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 4.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณที่ผ่านมา
นับตั้งแต่นายวอลท์ ดิสนีย์ ได้ก่อตั้งบริษัทชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2466 ชื่อ “ดิสนีย์”ก็ได้กลายเป็นชื่อที่สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขอบเขตและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดที่ช่วยกำหนดนิยามแห่งศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันบริษัทวอลท์ดิสนีย์และบริษัทในเครือยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงชั้นเยี่ยม ซึ่งตั้งอยู่บนรากฐานของโลกเทพนิยายที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์ระดับคุณภาพและวิธีการเล่าเรื่องราวอันโดดเด่น ตั้งแต่โทรทัศน์และภาพยนตร์ เรื่อยไปจนถึงสวนสนุก, ผลิตภัณฑ์ต่างๆ, โลกเสมือนจริงและอื่นๆ ดิสนีย์ทำให้ผู้บริโภคและแขกผู้มาเยือนทั่วโลกรื่นเริงบันเทิงใจด้วยเรื่องราวอันแสนวิเศษ, ตัวละครอันน่าประทับใจ และประสบการณ์และความบันเทิงสำหรับครอบครัวอันยอดเยี่ยม
เกี่ยวกับแอร์ ฟรานส์
แอร์ ฟรานส์ และสายการบินระดับในเครือระดับภูมิภาคอีก 3 สายการบิน ได้แก่ บริท แอร์ (Brit Air), ซิตี้ เจ็ท (City Jet) และรีเจียนนอล (Regional) บริหารจัดการเที่ยวบินกว่า 1,500 เที่ยวบินต่อวันในฝรั่งเศส, ยุโรป และทั่วโลก บริษัทมีเครื่องบิน 387 ลำสำหรับให้บริการ
แอร์ ฟรานส์ เคแอลเอ็ม (Air France KLM) ซึ่งเป็นผลพวงจากการร่วมทุนระหว่างสายการบินแอร์ ฟรานส์และสายการบินเคแอลเอ็มเมื่อปี 2547 นั้น ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ให้บริการการขนส่งทางอากาศระดับชั้นนำของยุโรป กิจกรรมหลักของสายการบินนี้คือ การขนส่งผู้โดยสารและการบรรทุกสินค้าทางอากาศ และการซ่อมบำรุงอากาศยาน ในปี 2554 แอร์ ฟรานส์ เคแอลเอ็ม ได้ให้บริการผู้โดยสารจำนวน 75.8 ล้านคน และปริมาณสินค้า 1.1 ล้านตัน กลุ่มสายการบินมีเครื่องบินกว่า 586 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินในระดับภูมิภาคจำนวน 173 ลำซึ่งบริหารจัดการโดยพันธมิตรของสายบิน ได้แก่ สายการบินบริท แอร์, ซิตี้ เจ็ท, รีเจียนนอล และเคแอลเอ็ม ซิตี้ฮอปเปอร์ (KLM Cityhopper) เครือข่ายของสายการบินครอบคลุมจุดหมายปลายทาง 230 แห่งใน 113 ประเทศ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ท่าอากาศยานปารีส-ชาร์ล เดอ โกล และท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัม ชิพอล โครงการ Flying Blue สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางบ่อยนั้น เป็นโครงการระดับแนวหน้าในยุโรป และมีสมาชิกกว่า 20 ล้านคน ปัจจุบัน แอร์ ฟรานส์ และเคแอลเอ็มให้บริการจากท่าอากาศยานในสหรัฐ 12 แห่ง และให้บริการจากเมืองในสหรัฐทั้งหมด 125 เมืองผ่านสายการบินที่ร่วมเป็นพันธมิตรเดลต้า แอร์ไลน์ส (Delta Air Lines) ด้วยความร่วมมือกับเดลต้า แอร์ไลน์ส และอลิตาเลีย (Alitalia) สายการบินแอร์ ฟรานส์ และเคแอลเอ็มเป็นสายการบินร่วมที่ให้บริการการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกรายใหญ่ที่สุดด้วยเที่ยวบินกว่า 250 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งนี้ แอร์ ฟรานส์และเคแอลเอ็มเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสกายทีม (SkyTeam) ซึ่งมีสายการบินเป็นสมาชิกจำนวน 16 สายการบินที่ให้บริการเครือข่ายการบินทั่วโลกกว่า 14,700 เที่ยวบินต่อวัน สู่จุดหมายปลายทาง 958 แห่งใน 173 ประเทศ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการซื้อตั๋วเครื่องบิน กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.airfrance.us , โทร.1-800-237-2747 หรือติดต่อผ่านทางผู้ให้คำปรึกษาด้านการเดินทางของคุณ สำหรับข้อเสนอที่น่าสนใจและข้อมูลล่าสุด กรุณาติดตามแอร์ ฟรานส์ ผ่าน facebook.com/AirFranceUSA และ Twitter@AirFranceUS