ลือเบกค์, เยอรมนี--4 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์
- ระบบติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วยที่ทันสมัยช่วยให้การทำงานคล่องตัวขึ้น เนื่องจากสามารถส่งข้อมูลสัญญาณชีพของผู้ป่วยแบบไร้สายระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ใช้งานร่วมกับเครื่องช่วยหายใจ มีการนำเทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET เพื่อเข้าถึงข้อมูลทางคลินิกที่ครอบคลุมมากขึ้นได้เมื่อจำเป็น
Draeger เปิดตัวระบบติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย Infinity Acute Care System รุ่นใหม่กับซอฟแวร์ VG2 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นทางคลินิกมากมาย ทั้งการส่งสัญญาณแบบไร้สาย การใช้งานร่วมกับเครื่องช่วยหายใจต่างๆของ Draeger การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยรถพยาบาล และการผสมผสาน นำเทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET มาใช้ ทั้งนี้ Draeger คือหนึ่งในผู้จำหน่ายระบบติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วยรายแรกๆที่นำเสนอการตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดแบบไม่ทำให้เกิดแผล(non-invasive) ด้วยเทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET แบบครบวงจร ซึ่งช่วยให้โรงพยาบาลสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างคลอบคลุมมากยิ่งขึ้นและช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย แต่ก็อาจทำให้แพทย์ต้องประสบกับความยุ่งยาก โดยแพทย์ต้องเสียเวลามากขึ้นในการใช้งานจากอินเตอร์เฟซต่างๆ ทำให้การทำงานซับซ้อนมากขึ้น
“Draeger รับมือกับความซับซ้อนทางเทคนิคและทางคลินิกที่เพิ่มขึ้น ด้วยการหาหนทางใหม่ๆที่จะช่วยให้แพทย์ดูแลผู้ป่วยระยะเฉียบพลันได้ง่ายกว่าเดิม” มาริตา คลัฟเก (Marita Klafke) ประธานบริษัท Draeger Medical Systems Inc. กล่าว “ระบบติดตามสัญญาณชีพผู้ป่วย Infinity Acute Care System ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำงานคล่องตัวขึ้น และลดเวลาในการตัดสินใจในการรักษา”
ระบบติดตามตรวจสัญญาณชีพตัวนี้ประกอบด้วย Infinity M540 เครื่องวัดสัญญาณชีพผู้ป่วยแบบพกพา ซึ่งใช้งานร่วมกับ Draeger Medical Cockpit(R) โดยเครื่อง M540 สามารถปรับใช้งานได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่การใช้งานข้างเตียงผู้ป่วยไปจนถึงการใช้งานไร้สายระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องวัดสัญญาณชีพและสายเคเบิลต่างๆ ขณะที่ Medical Cockpit จะประมวลข้อมูลสัญญาณชีพจาก M540 รวมเข้ากับฐานข้อมูลที่อยู่ในเครือข่าย อาทิ ประวัติของผู้ป่วย ภาพ x-ray ประกอบการวินิจฉัยโรค ผลแล็บ และข้อมูลทางคลินิกอื่นๆ โดยแสดงผลบนจอภาพแบบไวด์สกรีนจอเดียว ณ จุดที่ทำการรักษาผู้ป่วย
ซอฟแวร์ VG2 นี้ยังแสดงอัตราการหายใจจากเครื่องช่วยหายใจของ Draeger บน Medical Cockpit และแสดงค่านี้บนเครือข่ายด้วย
การใช้งานกับระบบไร้สายระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ระบบนี้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายอย่างสมบูรณ์ ตลอดการดูแลผู้ป่วยจึงอาศัยเครื่องวัดสัญญาณชีพเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น โอกาสที่จะพลาดตรวจจับข้อมูลบางอย่างจึงมีน้อยที่สุด เมื่อเครื่อง Infinity M540 ถูกถอดวางไว้ข้างเตียงผู้ป่วย ระบบการทำงานจะเปลี่ยนเป็นแบบไร้สายโดยอัตโนมัติ และจะส่งข้อมูลสัญญาณชีพของผู้ป่วยไปยัง Infinity Network ทำให้สามารถติดตามตรวจสอบผู้ป่วยระหว่างเคลื่อนย้ายได้โดยไร้อุปสรรคผ่านทาง Infinity Central Station ขณะเดียวกันยังช่วยให้ได้รับข้อมูลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีต่อการตัดสินใจให้การรักษา
เทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดอย่างต่อเนื่อง
Infinity M540 ที่ผสานเทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดที่ก้าวหน้าอย่างมาก โดยสามารถตรวจวัดส่วนประกอบต่างๆของเลือดและการไหลเวียนของเลือดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเจาะเลือดผู้ป่วย ผิดกับวิธีการตรวจวัดแบบเดิมๆที่ทำให้เกิดบาดแผล
“การผสานเทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET เข้ากับระบบติดตามตรวจสอบผู้ป่วย Infinity Acute Care System ช่วยให้ลูกค้าของเราตรวจวัดค่าต่างๆแบบไม่สร้างบาดแผลได้อย่างง่ายดาย” มาริตา คลัฟเก กล่าว “นอกจากนั้นเทคโนโลยีนี้ยังให้ข้อมูลทางคลินิกแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์สามารถยกระดับการประเมินผลและการตัดสินใจในระหว่างรักษาผู้ป่วยได้”
นอกจากค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2), อัตราการเต้นของชีพจร และดัชนี perfusion index (PI) แล้ว Masimo rainbow(R) SET ยังสามารถตรวจวัดปริมาณฮีโมโกลบิน (SpHb(R)), ออกซิเจนรวมในเลือด (SpOC(TM)), คาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (SpCO(R)), เมธฮีโมโกลบิน (SpMet(R)) และดัชนี Pleth Variability Index (PVI(R)) ได้ด้วย ทั้งนี้ การตรวจวัด SpHb ช่วยให้แพทย์ประเมินระดับฮีโมโกลบินของผู้ป่วยได้อย่างทันทีและต่อเนื่อง ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสการถ่ายเลือดโดยไม่จำเป็นและช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ ขณะที่ SpCO และ SpMet ทำให้แพทย์ตรวจวัดระดับคาร์บอนมอนนอกไซด์และเมธฮีโมโกลบินในเลือดที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่วน PVI ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบปริมาณเลือดและการตอบสนองของเลือดในร่างกายผู้ป่วยได้
เทคโนโลยี Masimo rainbow(R) SET ไม่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดและไม่ทำให้การรักษาล่าช้า ผิดกับขั้นตอนการตรวจเลือดแบบเดิมๆที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวด นอกจากนั้นยังให้ข้อมูลทางคลินิกในทันทีและต่อเนื่อง ช่วยให้แพทย์สามารถตัดสินใจทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนการทำแล็บที่มีราคาแพง รวมถึงลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเลือดและการปนเปื้อน
ระบบติดตามตรวจสอบผู้ป่วย Infinity Acute Care System ผลิตโดยบริษัท Draeger Medical Systems, Inc.
Draeger. Technology for Life(R)
Draeger เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีการแพทย์และความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ของเราคุ้มครอง ช่วยเหลือ และรักษาชีวิตผู้คนมากมาย บริษัทก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2432 และในปีพ.ศ.2554 บริษัทมีรายได้ราว 2.26 พันล้านยูโร ปัจจุบันกลุ่มบริษัท Draeger Group ดำเนินธุรกิจในกว่า 190 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 12,000 คนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.draeger.com
แหล่งข่าว Draeger