คลีฟแลนด์--10 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/ อินโฟเควสท์
มหาวิทยาลัยแสดงความยินดีกับนายเดวิด ซูซูกิ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในฐานะเจ้าของรางวัล Inamori Ethics Prize คนที่ 5
บาร์บาร่า อาร์ ซไนเดอร์ (Barbara R. Snyder) อธิการบดีมหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเสิร์ฟ (Case Western Reserve) ประกาศในวันนี้ว่า มูลนิธิอินาโมริ (Inamori Foundation) ได้มอบเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยกระดับการดำเนินงานของศูนย์นานาชาติอินาโมริเพื่อจริยธรรมและความเป็นเลิศของมหาวิทยาลัย การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเนื่องในโอกาสที่มหาวิทยาลัยได้ยกย่องนายเดวิด ซูซูกิ (David Suzuki) ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้ได้รับรางวัลประจำปี Inamori Ethics Prize คนที่ 5
“เดวิด ซูซูกิ เน้นย้ำถึงความสำคัญของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในสาขาสิ่งแวดล้อมนิยม, ความยั่งยืน, วิทยาศาสตร์ศึกษาและความเป็นธรรมด้านสภาพอากาศมาโดยตลอดอายุการทำงาน” นายดับบลิวเอ บัด แบแสล็กที่ 3 (W.A. “Bud” Baeslack III) ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยกล่าวในพิธีที่จัดขึ้นที่ Severance Hall
นายซูซูกิ เป็นชาวแคนาดาโดยกำเนิด ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาเอกจากสหรัฐอเมริกา ซูซูกิใช้เวลากว่า 40 ปีด้วยการเป็นศาสตราจารย์สาขาพันธุศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย เขาได้เปลี่ยนวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่เขารักเป็นชีวิตจิตใจให้กลายเป็นอาชีพที่เขายึดถือมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1 ทศวรรษด้วยการจัดรายการโทรทัศน์ชื่อ The Nature of Things ในปี 2533 เขาได้จัดตั้งมูลนิธิเดวิด ซูซูกิขึ้น เพื่อแนะแนวทางต่าง ๆ ที่ปัจเจกบุคคลและองค์กรสามารถดำเนินการตามเพื่อที่จะช่วยเหลือโลกใบนี้
ในพิธีการดังกล่าว ซไนเดอร์ยังได้กล่าวเชิดชูเกียรติแด่ นายคาซูโอะ อินาโมริ (Kazuo Inamori) ประธานมูลนิธิ สำหรับความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาที่จะส่งเสริมภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมและมนุษยธรรมทั่วโลก นอกจากจะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท เคียวเซร่า (Kyocera) และบริษัท ดีดีไอ (DDI) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมแล้ว นายอินาโมริยังเป็นภิกษุสงฆ์และอาสาดำรงตำแหน่งอธิการบดีของวิทยาลัยเอกชนด้านการบริหารจัดการแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า เซวัจยูกุ (Seiwajyuku) ด้วย เมื่อปี 2527 เขาได้จัดตั้งมูลนิธิอินาโมริขึ้นด้วยทุนทรัพย์ส่วนบุคคลของเขาเอง ช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิอินาโมริได้มอบเงินทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่มหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเสิร์ฟ เพื่อเป็นการสนับสนุนภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม
“รางวัลนี้มอบให้เป็นเกียรติแก่ผู้ที่มีเกียรติประวัติเป็นผู้มีจิตกุศลที่ทำคุณประโยชน์ในทางที่ดีมากมายให้แก่ระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับสากล” ซไนเดอร์กล่าว “แนวทางของดร.อินาโมริไม่เพียงแต่จะแผ่ขยายไปทั่วรั้วมหาวิทยาลัยของเราเท่านั้น แต่รวมไปถึงทั่วโลกด้วย”
เงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกนำไปใช้ในการช่วยศูนย์ดังกล่าวพัฒนาโครงการต่าง ๆ ควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากนี้ ศูนย์ยังได้ประกาศการเผยแพร่วารสารเชิงวิชาการรายปีฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า The International Journal of Ethical Leadership ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในการสรรเสริญเกียรติยศในปีนี้ด้วย ด้วยความช่วยเหลือของนักแปล ดร.อินาโมริได้กล่าวแสดงความขอบคุณเมื่อเย็นวันพฤหัสที่ผ่านมา ว่า
“ความปรารถนาของผม คือ การที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้กลายเป็นผู้นำด้านของจริยธรรมของโลก”