วอชิงตัน--19 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์
ที่ปรึกษาของกลุ่มคนเสื้อแดงวิพากษ์วิจารณ์รายงานสรุปของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมเมื่อปีพ.ศ.2553 โดยระบุว่าเป็นรายงานที่ไม่สร้างสรรค์และยั่วยุ เพราะผู้เสียหายจะไม่ยอมรับรายงานที่ระบุว่าผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“พวกเราทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รายงานฉบับนี้ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแทบทั้งหมดไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ถือเป็นรายงานที่ย่ำยีผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ” นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษาของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง กล่าว “ผู้เสียหายจะไม่ยอมรับรายงานฉบับนี้ และจะไม่ยอมรับข้อมูลในทำนองเดียวกันที่รายงานพยายามกล่าวถึงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กองทัพใช้กำลังสลายผู้ชุมนุม รวมถึงสิทธิพลเมืองในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร”
เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ได้เปิดเผยรายงานสรุปฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 ราย
นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวว่า เมื่อครั้งที่รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่งตั้งคอป. ได้เกิดการตั้งคำถามเรื่องความเป็นอิสระ อำนาจ และสมาชิกภาพของคณะกรรมการฯ โดยนายคณิต ณ นคร ซึ่งเป็นประธานคอป. เคยได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ให้ตรวจสอบเรื่อง “การทำสงครามยาเสพติด” และยังเคยกล่าวด้วยว่า เขาไม่สนใจเรื่องความรับผิดชอบ แต่สนใจเฉพาะเรื่องการให้อภัย
นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวว่า ไม่สามารถยอมรับรายงานของคอป.ได้ เนื่องจากล้มเหลวในการสร้างความชอบธรรมให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งสร้างความคับข้องใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกร้องประชาธิปไตย และรายงานดังกล่าวยังอ้างว่าทักษิณเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องมีการรัฐประหาร ซึ่งนายอัมสเตอร์ดัมระบุว่า เหมือนกับที่อดีตรองนายกรัฐมนตรีสุเทพ เทือกสุบรรณ อ้างว่าผู้ชุมนุมวิ่งเข้าใส่กระสุนปืนเอง
“รายงานของคอป.เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ล้มเหลวในการแก้ต่างเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เด่นชัดและถูกวิจารณ์ไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้บางพื้นที่ในกรุงเทพฯ กลายเป็นสนามรบ” นายอัมสเตอร์ดัมกล่าว “กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมรับรายงานสรุปที่มีอคติและพยายามปกปิดการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติโดยคนบางกลุ่ม เราจะต่อสู้เรียกร้องความรับผิดชอบต่อไป เพื่อจะได้ไม่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ”
ประเทศไทยเคยผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงในทำนองเดียวกันมาแล้วเมื่อปีพ.ศ.2516, 2519, 2535, 2552 และ 2553 และนายอัมสเตอร์ดัมกล่าวว่า รายงานสรุปล่าสุดทำให้มั่นใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก
เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ร่วมกับตัวแทนผู้เสียหาย พยานในเหตุการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการนำของศจ.ดร.ธงชัย วินิจจะกูล นักประวัติศาสตร์ ได้หารือร่วมกัน ณ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรุงเฮก เพื่อยื่นเรื่องให้ไอซีซีสืบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“บางส่วนของรายงานดังกล่าวประกอบด้วยคำแนะนำที่ดี แต่ส่วนที่กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ถือว่า ล้มเหลวเป็นอย่างยิ่ง” ดร.ธงชัย จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน กล่าว “คณะกรรมการฯ เขียนรายงานตามอคติและอุดมคติของตนเอง เนื่องจากสมาชิกคนสำคัญหลายคนในคณะกรรมการฯ เห็นด้วยการรัฐประหารเมื่อปีพ.ศ.2549 ผมว่าองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนใดๆก็ตามควรระวังให้ดีก่อนที่จะยอมรับรายงานฉบับนี้”
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.robertamsterdam.com/thailand