เซนต์หลุยส์--26 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เกรกอรี่ เอช บอยซ์ (Gregory H. Boyce) ประธาน และประธานบริหารบริษัท พีบอดี เอ็นเนอร์จี (Peabody Energy) ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอุตสาหกรรมถ่านหิน (CIAB) ประจำสำนักงานพลังงานสากล (International Energy Agency / IEA) เกรกอรี่ เอช บอยซ์ เคยดำรงตำแหน่งรองประธาน CIAB มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553
CIAB เป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวกันของคณะผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสจากบริษัทด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินจากทั่วโลก คณะทำงานดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในปี 2522 โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ที่ปารีสและดำเนินงานภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development / OECD)
CIAB จัดการประชุมสำหรับสมาชิกในกลุ่ม เพื่อนำเสนอปัญหานานาประการที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การขนส่ง การค้า และการใช้ประโยชน์จากถ่านหินให้แก่คณะกรรมการบริหาร IEA ได้รับทราบ ผ่านการปรึกษาหารือโดยตรง และโครงการศึกษาวิจัยประจำปี รวมถึงแนวความคิดริเริ่มอื่นๆ ปัจจุบัน CIAB มีสมาชิก 18 ประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 85% ของการผลิตถ่านหินทั่วโลก
เกรกอรี่ เอช บอยซ์ กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับตำแหน่งประธานแห่ง CIAB ผมพยายามสานสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะกรรมการ CIAB และ IEA ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นประธาน ผมขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า CIAB จะยังคงทำงานร่วมกับกองเลขาธิการของ IEA เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานทั่วโลก และค้นหาวิธีการรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายด้านพลังงานทั่วโลก”
เกรกอรี่ เอช บอยซ์ ระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้ CIAB ได้นำเสนอรายงานล่าสุดเรื่อง “ถ่านหินในศตวรรษที่ 21: โซลูชั่นพลังงานระดับโลก และเทคโนโลยีขั้นสูง” รายงานความยาว 122 หน้า มีเนื้อหามุ่งเน้นไปที่บทบาทเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยมลพิษในระดับเกือบเป็นศูนย์ และนำเสนอข้อมูลดังต่อไปนี้:
- การผลิตพลังงานจากถ่านหินให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ถือเป็นก้าวแรกในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์
- การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถ่านหินครั้งสำคัญจะเดินหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยครอบคลุมในประเด็นประสิทธิภาพ การปล่อยมลพิษ และต้นทุน
- การผลิตถ่านหินขั้นสูงจะต้องเป็นหัวใจสำคัญของทุกแผนงานเพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ในปริมาณมากๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการดักจับ และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่สำคัญทั่วโลก
รายงานดังกล่าวยังได้นำเสนอกรณีศึกษาเรื่องการปรับปรุงโรงงานผลิตพลังงานเชื้อเพลิงถ่านหินแห่งใหม่ เพื่อรักษาเสถียรภาพของการส่งกระแสไฟฟ้า และการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของการนำน้ำมันกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อฟื้นฟูวงจรเทคโนโลยีดักจับก๊าซคาร์บอน
เกรกอรี่ เอช บอยซ์ กล่าวว่า “ขณะเดินหน้าโครงการ เราต้องการพลังงานทุกรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก รายงานถ่านหินในศตวรรษที่ 21 เน้นย้ำให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของถ่านหิน และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และพลังงานร่วมกันทั่วโลก”
รายงานสำหรับ CIAB จัดทำขึ้นโดยสถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้า (Electric Power Research Institute) และได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจากบริษัท แอ็ดวานซ์ รีซอร์สเซส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (Advanced Resources International Inc.), คอนโซล เอ็นเนอร์จี (CONSOL Energy), พีบอดี เอ็นเนอร์จี (Peabody Energy) และ อาร์ดับบลิวอี (RWE) สามารถรับชมรายงานฉบับดังกล่าวในข่าวสารชุด Insights Series 2013 ได้ที่เว็บไซต์ของ IEA (iea.org/publications/insights/) รวมถึงผลการวิจัย และบทวิเคราะห์อื่นๆที่ส่งเสริมการดำเนินงานขององค์การ
พีบอดี เอ็นเนอร์จี เป็นบริษัทเอกชนภาคอุตสาหกรรมถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการทำเหมืองแบบยั่งยืน และถ่านหินบริสุทธิ์ บริษัทให้บริการถ่านหินประเถทให้ความร้อน (Thermal Coal) และถ่านหินคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก (Metallurgical Coal) แก่ลูกค้าในกว่า 25 ประเทศ 6 ภูมิภาค รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PeabodyEnergy.com และ CoalCanDoThat.com
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120724/CG44353LOGO )
ติดต่อ:
คาบันเน่ โฮเวิร์ด
โทร. +1-314-914-2507