ทิงเกลฟ, เดนมาร์ก--13 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Maersk Container Industry เข้าร่วมโครงการ SAVE FOOD ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อสนับสนุนให้การขนส่งอาหารระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120531/537201 )
รับชมข่าวในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
http://www.multivu.com/mnr/61920-UN-maersk-container-industry-combat-food-waste
“อาหารไม่ควรกลายเป็นขยะ แต่บ่อยครั้งมันก็เป็นเช่นนั้น เราเชื่อว่าเทคโนโลยีของเราจะช่วยทำให้การขนส่งอาหารดีขึ้นได้” ปีเตอร์ เค. ไนมานด์ (Peter K. Nymand) ซีอีโอบริษัท Maersk Container Industry (MCI) กล่าว
โรเบิร์ต ฟาน อ็อตเตอร์ดิค (Robert van Otterdijk) หัวหน้าโครงการ SAVE FOOD กล่าวว่า “การใช้เทคโนโลยีแช่เย็นที่เหมาะสมเพื่อยกระดับการเก็บและการขนส่งอาหารจำพวกพืชผักผลไม้ จะช่วยลดจำนวนอาหารที่กลายเป็นของเสียและขยะได้อย่างมหาศาล”
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ SAVE FOOD ได้ประมาณการว่า ทั่วโลกต้องสูญเสียอาหารประเภทผักผลไม้ไปสูงสุด 50% ระหว่างขั้นตอนการเพาะปลูกไปจนถึงมือผู้บริโภค โดยขั้นตอนการขนส่งและกระจายสินค้าจะสูญเสียราว 5%-20% ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาคของโลก
เทคโนโลยีต่างๆ เช่น Star Cool CA และ AV+ ถูกนำมาใช้ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น การไหลเวียนของอากาศ และส่วนประกอบของอากาศในตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็น ซึ่งช่วยให้ขนส่งได้ไกลขึ้นและช่วยรักษาคุณภาพของผักผลไม้ได้ดีขึ้น
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SAVE FOOD ทาง MCI และบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมอาหารจะร่วมแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ SAVE FOOD เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการแบ่งปันความรู้ตลอดห่วงโซ่การขนส่งอาหาร เนื่องจากการกระทำในส่วนใดส่วนหนึ่งของห่วงโซ่จะส่งผลต่อส่วนอื่นเสมอ
“อาหารกลายเป็นของเสียหรือขยะในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่าอาหาร ซึ่งรวมถึงในส่วนของการขนส่งและกระจายสินค้า วิธีหนึ่งที่จะช่วยยกระดับการขนส่งคือ การแบ่งปันความรู้ในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่าอาหาร” โรเบิร์ต ฟาน อ็อตเตอร์ดิค จากโครงการ SAVE FOOD กล่าว
ข้อเท็จจริง:
ระหว่างขั้นตอนการเพาะปลูกไปจนถึงมือผู้บริโภคในยุโรปหรืออเมริกาเหนือ จะมีการสูญเสียอาหารประเภทผักผลไม้ไปสูงสุด 50% โดยขั้นตอนการขนส่งและกระจายสินค้าจะสูญเสียราว 5%
(ที่มา: รายงาน “Global Food Losses and Food Waste” ของ FAO)
FAO:
“การสูญเสียอาหารในประเทศอุตสาหกรรมอยู่ในระดับสูงพอๆกับในประเทศกำลังพัฒนา แต่ในประเทศกำลังพัฒนานั้น กว่า 40% ของอาหารที่สูญเสียไปเกิดขึ้นในขั้นตอนหลังการเก็บเกี่ยวและระหว่างการแปรรูป ส่วนในประเทศอุตสาหกรรมนั้น กว่า 40% ของอาหารที่สูญเสียไปเกิดขึ้นในขั้นตอนของการค้าปลีกและการส่งถึงมือผู้บริโภค”
(ที่มา: รายงาน “Global Food Losses and Food Waste” ของ FAO หน้า III.6)
ลิงค์งานวิจัย: รายงาน Global Food Losses and Food Waste ของ FAO:
http://www.fao.org/docrep/014/mb060e/mb060e00.pdf
เคล็ดลับสำหรับเกษตรกร: ดูแลพืชผลให้ดี!
ลิงค์ของ UC Davis Postharvest Technology Center:
http://postharvest.ucdavis.edu/libraries/publications/
การดำเนินกิจกรรมต่างๆของ MCI:
เมษายน 2556: MCI เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการแช่เย็นเพื่อรักษาคุณภาพผักและผลไม้ให้ดีที่สุด ผู้บรรยายหลักในงานนนี้ประกอบด้วย มาริต้า แคนท์เวลล์ (Marita Cantwell) และเบธ มิทแชม (Beth Mitcham) ผู้เชี่ยวชาญด้านขั้นตอนหลังการเก็บเกี่ยวจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองเดวิส ประเทศสหรัฐอเมริกา คำแนะนำสำคัญซึ่งใช้ได้ในเกือบทุกกรณีคือ การดูแลเอาใจใส่พืชผลให้ดีเป็นพิเศษในช่วงเก็บเกี่ยวและหลังการเก็บเกี่ยว โดยต้องควบคุมอุณหภูมิให้ถูกต้องแม่นยำ
พฤศจิกายน 2555: สมาคมผู้ส่งออกผลไม้แห่งประเทศชิลี (ASOEX) และ MCI ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และการใช้เทคโนโลยีอย่าง Star Cool Controlled Atmosphere (CA) และ Automated Ventilation (AV+) ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยยืดเวลาการขนส่งอะโวคาโด เป็นการลดแรงกดดันในช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวพืชผลสูงสุด และสำหรับเขตร้อน เทคโนโลยี CA จะช่วยยืดเวลาการขนส่งกล้ายได้นานถึง 45 วัน จากเดิมที่ได้แค่ 25 วัน
ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนและนักข่าว:
ชมห้องสมุดภาพและคลิปวิดีโอได้ที่ http://www.mcicontainers.com และรับชมภาพยนตร์เกี่ยวกับ MCI ในรูปแบบภาษาจีน อังกฤษ และเดนมาร์กได้ที่ http://www.mcicontainers.com/AboutUs/Companymovies/Pages/Companymovie-English.aspx
เกี่ยวกับ MCI
Maersk Container Industry (MCI) คือผู้ผลิตเครื่องทำความเย็นและคอนเทนเนอร์แช่เย็น (reefers) รายใหญ่รายเดียวของโลก MCI ผลิตสินค้าให้กับบริษัทชิปปิ้งและบริษัทลีสซิ่งหลายแห่ง บริษัทมีศูนย์วิจัยและพัฒนา สำนักงานขาย และศูนย์บริหารกลางในเดนมาร์ก
ขณะนี้ MCI มีโรงงานผลิตเครื่องทำความเย็นแห่งใหม่มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่กำลังเริ่มดำเนินการในชิลี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพนักงานรวม 7,000 คนในจีน ชิลี และเดนมาร์ก ภายในต้นปี 2557 ทั้งนี้ จากการทดสอบอย่างอิสระโดยลูกค้า พบว่าเครื่องทำความเย็น Star Cool ของ MCI ประหยัดพลังงานมากที่สุดในโลกในตอนนี้ กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.mcicontainers.com
แหล่งข่าว: MCI