ลอสแองเจลิส--28 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ดร.หรงเซียง ซู และ MEBO INTERNATIONAL บริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เขาคิดค้นขึ้นเอง ประกาศความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีของเขาเองเพื่อฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้หน่วยงานรัฐและองค์การนอกภาครัฐนำระบบทางวิทยาศาสตร์ของเขาไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว ดร.ซู เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีมากมายที่เกี่ยวกับ “การพัฒนายาต่างๆเพื่อฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย” ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาด้านชีววิทยาศาสตร์ซึ่งถูกกล่าวถึงในการแถลงนโยบายประจำปี 2556 ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา นอกจากนั้นดร.ซู ยังเป็นผู้คิดค้นและวางรากฐานระบบวิทยาศาสตร์ใหม่อย่าง “ศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในจุดกำเนิด”
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 ประธานาธิบดีสหรัฐได้ผนวกรวม “การพัฒนายาต่างๆเพื่อฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย” เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบวิทยาศาสตร์ของดร.ซู ในฐานะกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาด้านชีววิทยาศาสตร์ในการแถลงนโยบายประจำปี
“รัฐบาลสหรัฐก้าวเข้ามาสู่เส้นทางของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ประยุกต์เพื่อฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในจุดกำเนิดโดยใช้สสาร ถือเป็นการหลุดพ้นจากการศึกษาวิจัยเซลล์ต้นกำเนิด ยีน และวิศวกรรมเนื้อเยื่อแบบพื้นๆ และจะกลายเป็นต้นแบบของทุกประเทศ นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่าอเมริกันชนจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดของโรคเกี่ยวกับอวัยวะที่ปัจจุบันไม่มียารักษาได้ก่อนใคร” ดร.ซู กล่าว
“ศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในจุดกำเนิด” ที่คิดค้นโดยดร.ซู เป็นระบบชีววิทยาศาสตร์ใหม่ซึ่งใช้อาหารที่มีส่วนผสมของสารอาหารหลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ในจุดกำเนิด เพื่อเติมเต็มและทดแทนเซลล์ที่ได้รับความเสียหาย เซลล์ที่แก่ก่อนวัย รวมถึงเซลล์ที่เป็นมะเร็งหรือเซลล์ที่ตายก่อนวัย ในอวัยวะของมนุษย์ เพื่อช่วยให้อวัยวะที่เป็นโรคได้ฟื้นฟูโครงสร้างและระบบการทำงานทั่วไปหรือกลับไปอยู่ในสภาพที่อ่อนวัยเหมือนเดิม
“สสารที่ใช้ในการฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในจุดกำเนิดเป็นสูตรอาหารที่ประกอบด้วยสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟู ไม่ใช่ยาเคมี” ดร.ซู อธิบาย “สูตรนี้จึงไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย ทำให้สามารถรับรอง สนับสนุน และนำไปใช้ได้โดยตรง ทุกคนสามารถฟื้นฟูอวัยวะภายในในจุดกำเนิดได้ตราบใดที่มีการใส่สารอาหารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเข้าไปในอาหาร”
ดร.ซู ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย “เรากำลังประกาศความสำเร็จของเทคโนโลยีและศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะที่เราคิดขึ้นเองในสหรัฐ เราหวังว่ารัฐบาลสหรัฐและท่านประธานาธิบดีจะเร่งให้การรับรองและนำ “เทคโนโลยีและศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์” ที่เราคิดค้นขึ้น ไปใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอวัยวะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคน” ดร.ซู กล่าว
ฮิปโปเครตีสเป็นผู้บุกเบิกการแพทย์สมัยใหม่เมื่อ 2500 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อสุขภาพของมนุษยชาติ อย่างไรก็ดี การรักษาโรคเกี่ยวกับอวัยวะมนุษย์ยังคงเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายของบรรดานักชีววิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์การแพทย์มาทุกยุคทุกสมัย
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ผู้เสียภาษีในสหรัฐต้องเสียเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการวิจัยวิธีรักษาโรคเกี่ยวกับอวัยวะมนุษย์ แต่ยังไม่ได้รับผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีการกำหนดเวลาสำหรับการรักษาโรคเกี่ยวกับอวัยวะมนุษย์แต่อย่างใด นับตั้งแต่ “บิดาแห่งยีนมนุษย์” ศจ.เจมส์ วัตสัน กล่าวเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 ว่า การวิจัยประยุกต์เกี่ยวกับยีนเป็นเรื่องไร้ประโยชน์
“การใช้อาหารที่มีส่วนผสมของสารอาหารหลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟู ทำให้เราประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงทำให้อวัยวะมนุษย์ที่แก่ก่อนวัยอ่อนวัยลง ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ เราได้บรรลุจุดมุ่งหมายในเชิงวิทยาศาสตร์แล้ว บัดนี้เป็นหน้าที่ของผู้นำประเทศ รัฐบาล และผู้ทรงอิทธิพล ที่จะนำระบบวิทยาศาสตร์ใหม่นี้ไปใช้ช่วยชีวิตผู้คน รัฐบาลไม่ต้องลงทุนวิจัยและพัฒนาศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะเพิ่มเติมอีก รัฐบาลสามารถนำเทคโนโลยีประยุกต์เกี่ยวกับศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในจุดกำเนิดของเราไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้เลย” ดร.ซู กล่าว
ตัวอย่างความสำเร็จในโครงการฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ของดร.ซู ประกอบด้วย
1. การใช้เทคโนโลยีฟื้นฟูในจุดกำเนิดกับปลายนิ้วมือที่ขาด
การฟื้นฟูนิ้วมือที่ขาดเคยเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในประวติศาสตร์การแพทย์ นี่เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความสำเร็จของการฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ และเป็นเครื่องหมายทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงถึงความก้าวหน้าเหนือการวิจัยฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์อื่นๆที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบัน เราประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูนิ้วมือที่ขาดไปด้วยการปลูกเนื้อเยื่อสำคัญที่ยังหลงเหลืออยู่ (รวมถึงเนื้อเยื่อกระดูก) จากผิวรอยแตกของแผลด้วยครีมที่มีสารอาหารผสมสำหรับนิ้วมือที่ขาดโดยเฉพาะ ในกรณีที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ นิ้วมือที่ขาดยังสามารถฟื้นฟูสู่สภาพปกติได้ด้วยการผ่าตัดสร้างผิวรอยแตกของแผลขึ้นใหม่
กลไกหลัก: เซลล์เนื้อเยื่อทุกประเภทจากผิวรอยแตกของแผลของนิ้วที่ขาดจะเปลี่ยนเซลล์ในจุดกำเนิดให้กลายเป็นเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งจะฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหายทุกประเภทพร้อมกัน ก่อเกิดเป็นนิ้วมือใหม่ตามกระบวนการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดในมนุษย์
2. การใช้เทคโนโลยีฟื้นฟูทำให้ระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยลง
ทุกคนตระหนักดีว่าอวัยวะต่างๆในระบบทางเดินอาหารเสื่อมก่อนวัยอันควรแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ การเสื่อมของระบบทางเดินอาหารเป็นไปตามอายุของแต่ละคน และเสื่อมเร็วกว่าอวัยวะอื่นๆในร่างกายถึง 20 ปี เมื่อพิจารณาจากวงจรชีวิตโดยรวมของร่างกายมนุษย์แล้ว ระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควรถือเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุด เพราะส่งผลให้อวัยวะอื่นๆขาดสารอาหารและพลังงาน กำลังและอายุขัยของอวัยวะอื่นๆจะเสื่อมถอยโดยตรงเพราะระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกับอวัยวะอื่นๆ การฟื้นฟูอวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควรให้อ่อนวัยลงจะเป็นการช่วยปกป้องมนุษยชาติ เราประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูอวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควรโดยใช้อาหารแคปซูลที่มีสารอาหารฟื้นฟูอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้อวัยวะในระบบทางเดินอาหารของคนอายุ 60 ปี กลับมาอ่อนวัยเหมือนหนุ่มสาวอีกครั้ง
กลไกหลัก: สารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูอวัยวะในระบบทางเดินอาหารทำให้เซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควรและเนื้อเยื่ออื่นๆ สามารถฟื้นฟูการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดและสร้างเซลล์ใหม่เพื่อทดแทนเซลล์ที่เสื่อมและเกิดพังผืด รวมถึงทำให้อวัยวะสามารถต้านทานภาวะเซลล์ตายก่อนวันอันควร ตลอดจนฟื้นฟูอวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่เสื่อมก่อนวัยอันควรทั้งหมดให้กลับมามีโครงสร้างและสถานะการทำงานที่อ่อนวัย ทั้งนี้ ภาพที่แนบมาคือผลลัพธ์ของการฟื้นฟูอวัยวะของคนวัย 40 ปีเป็นเวลา 1 ปี (ภาพที่ 1)
(ภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130627/LA39022-b)
3. การบำบัดฟื้นฟูสำหรับรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นโรคที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาและมักมีอาการกำเริบอยู่เรื่อยๆ ยารักษาในปัจจุบันสามารถเยียวยารักษาแผลได้แต่ทำให้เกิดแผลเป็น ขณะเดียวกันกระเพาะอาหารและลำไส้จะสูญเสียโครงสร้างและการทำงานดั้งเดิมในบริเวณที่เกิดแผลเพราะมีแผลเป็นเกิดขึ้น แผลเป็นนี้จะได้รับผลกระทบง่ายเมื่ออาการของโรคกำเริบ และบ่อยครั้งจะทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ ดังนั้นแผลจึงไม่ได้รับการรักษาอย่างถอนรากถอนโคน อย่างไรก็ดี อาหารแคปซูลของเราซึ่งมีสารอาหารฟื้นฟูรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ จะทำให้แผลฟื้นตัวจากในจุดกำเนิดและทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหารกลับสู่ภาวะปกติ จึงสามารถรักษาแผลได้โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
กลไกหลัก: สารอาหารแบบรับประทานสำหรับฟื้นฟูรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ มีฤทธิ์ทำให้เนื้อเยื่อแผลค่อยๆเปื่อยและหลุดออกมาเอง จากนั้นจะสร้างสภาพแวดล้อมทางสรีรวิทยาบริเวณปากแผลซึ่งทำให้เซลล์เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่และยังมีชีวิตอยู่ฟื้นฟูกลายเป็นเซลล์ต้นกำเนิดในจุดกำเนิด และฟื้นฟูเนื้อเยื่อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหารที่เสียหายภายหลังกระบวนการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิด
4. การบำบัดฟื้นฟูสำหรับรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคหัวใจที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดาโรคหัวใจทั้งหมด โรคนี้คุกคามชีวิตมนุษย์มาตลอดเพราะรักษายาก แม้แต่การผ่าตัดขยายหลอดเลือดด้วยขดลวดหรือผ่าตัดบายพาสก็อาจช่วยบรรเทาอาการและช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพียงชั่วคราว แต่เทคโนโลยีฟื้นฟูหัวใจของเราสามารถฟื้นฟูหัวใจกลับไปสู่สภาพที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือสภาพที่ไม่ต้องผ่าตัดขยายหลอดเลือดด้วยขดลวดหรือผ่าตัดบายพาส หรือสภาพที่ทำการทดสอบโรคหลอดเลือดหัวใจแล้วผลออกมาเป็นลบ
กลไลหลัก: สารอาหารแบบรับประทานสำหรับฟื้นฟูหัวใจ มีฤทธิ์ทำให้เซลล์ที่เป็นพังผืดทั้งหมดในหลอดเลือดหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจค่อยๆถูกแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นในจุดกำเนิด ทำให้การไหลเวียนโลหิตในหลอดเลือดหัวใจดีขึ้น ขณะที่กล้ามเนื้อหัวใจมีพละกำลังและโครงสร้างที่อ่อนวัยลง
5. เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวสำหรับรักษาแผลเป็นบนใบหน้า
ผู้ที่มีแผลเป็นบนใบหน้าต้องทนทุกข์ทั้งกายและใจไปตลอดชีวิต เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวสำหรับรักษาแผลเป็นช่วยให้ผู้ป่วยหลายพันคนกลับมามีความสุขกับชีวิต ด้วยการสร้างผิวในจุดกำเนิด
กลไกหลัก: สารอาหารสำหรับฟื้นฟูผิวมีฤทธิ์ทำให้เซลล์แผลเป็นเข้าสู่กระบวนการตายของเซลล์ ขณะที่เซลล์เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่ของเซลล์หนังแท้และหนังกำพร้าจะพัฒนาการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิดในจุดกำเนิด ซึ่งจะสร้างโครงสร้างผิวใหม่ในจุดกำเนิด
6. เวชศาสตร์ฟื้นฟูและการรักษาแผลไหม้ที่ผิว แผลบอบช้ำ แผลเปื่อย และแผลเปื่อยจากเบาหวาน
เทคโนโลยีฟื้นฟูสำหรับรักษาแผลไหม้ที่ผิว แผลบอบช้ำ แผลเปื่อย แผลเปื่อยจากเบาหวาน ฯลฯ เป็นเทคโนโลยีหลักในการรักษาทางคลินิกทั่วโลกมาตลอด ในปี 2547 สื่อดังของสวีเดนอย่าง KARGER ได้ตีพิมพ์บทความของเราในชื่อ “Burns Regenerative Medicine and Therapy” ซึ่งชี้แจงว่าแผลไม่สามารถรักษาตัวเองได้ แผลบอบช้ำบนผิว แผลเปื่อย แผลเปื่อยจากเบาหวาน ฯลฯ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้วิธีบำบัดฟื้นฟูแผลไหม้ จนถึงตอนนี้ มี 73 ประเทศที่นำการบำบัดฟื้นฟูแผลไหม้ไปใช้ ส่วนในสหรัฐ การพัฒนาสารอาหารสำหรับฟื้นฟูผิวกำลังจะเสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 2 และมีการคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถทำให้องค์การอาหารและยา (FDA) รับรองการทดลองนี้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยในสหรัฐได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างรวดเร็วที่สุด
กลไกหลัก: สำหรับแผลไหม้รุนแรง สารฟื้นฟูผิวมีฤทธิ์ทำให้เนื้อเยื่อที่ตายเปื่อยและหลุดออกโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม ส่วนเนื้อเยื่อในบริเวณที่มีแผลไหม้เล็กน้อยสามารถฟื้นฟูได้ และสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่และยังมีชีวิตอยู่เปลี่ยนเซลล์ในจุดกำเนิดเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการฟื้นฟู ภายหลังกระบวนการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิด เซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการฟื้นฟูจะฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวและอวัยวะในจุดกำเนิด และกลไกนี้ใช้ได้กับแผลชนิดอื่นๆ
7. เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวหน้าและคอที่เหี่ยวย่น
ผู้ที่อยู่ในช่วงวัยกลางคนยังมีความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาไม่ต่างกับคนหนุ่มสาวเพราะมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ผิวหน้าและคอของคนกลุ่มนี้ต้องเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คงไม่มีปัญหาหากคนในวัยกลางคนและผู้สูงอายุไม่ส่องกระจก เพราะพวกเขาจะสูญเสียความมั่นใจเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ที่หย่อนยาน ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีฟื้นฟูผิวหน้าและคอที่เหี่ยวย่นสามารถฟื้นฟูผิวที่เหี่ยวย่นให้กลับมาสดใสเหมือนหนุ่มสาวอีกครั้ง
กลไกหลัก: สารอาหารสำหรับฟื้นฟูผิวที่เหี่ยวย่นจะช่วยทำให้เซลล์ชั้นฐานของหนังกำพร้ากลับมามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูหนังกำพร้า จากนั้นไฟเบอร์ที่กระจัดกระจายจะกลับมาจับกลุ่มกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อและสร้างเซลล์หนังแท้ขึ้นใหม่แทนที่เซลล์ผิวหนังที่แก่ตัวลง ดังนั้นโครงสร้างและการทำงานของผิวหนังจึงได้รับการฟื้นฟูให้อ่อนวัยลง ทั้งนี้ ภาพที่แนบมาคือผลสำเร็จของการใช้เทคโนโลยีฟื้นฟูในมนุษย์ ซึ่งดร.หรงเซียง ซู คิดค้นขึ้นด้วยตัวเอง (ภาพที่ 2)
(ภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130627/LA39022-a)
8. เทคโนโลยีฟื้นฟูต้านมะเร็ง
การศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการต้านมะเร็งโดยใช้สารอาหารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูประสบความสำเร็จในระดับเซลล์ ส่วนในระดับคลินิกนั้น ยกเว้นมะเร็งผิวหนังแล้ว มะเร็งชนิดอื่นๆยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี เรามีประสบการณ์ในการยืดอายุขัยของผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายโดยไม่ได้ผ่าตัดเอามะเร็งออก ดังนั้นเทคโนโลยีต้านมะเร็งโดยใช้สารอาหารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังหรือผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายได้
กลไกหลัก: สารอาหารต้านมะเร็งสามารถกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย พร้อมกับกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ รวมถึงสร้างความสามารถในการฟื้นฟูให้กับเซลล์ทั่วไป
ดร.ซู ได้ตั้งสำนักงานติดต่อประสานงานทั่วโลกขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับผู้นำ รัฐบาล และชุมชนต่างๆในทุกประเทศ
ที่อยู่: City National Plaza, 515 S. Flower St. 36th Floor, Los Angeles, CA 90071
โทร: +1-213-236-3530
อีเมล: usadmin@mebo.com
แฟกซ์: +1-213-236-3766
เว็บไซต์: http://www.mebo-international.com/
ติดต่อ:
เจน เวสต์เกต (Jane Westgate) โทร: +1-336-209-9276 อีเมล: Jane@westgatecom.com
เชอรีล ไรลีย์ (Cheryl Riley) โทร: +1-202-285-4222 อีเมล: cherylrileypr@comcast.net