ลอนดอน--23 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
ศาลฎีกาของสาธารณรัฐคาซัคสถาน ได้ยืนยันถึงการตัดสินเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องหรืออยู่ในเครือของกลุ่มบริษัททรานส์-เวิลด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทในธุรกิจซื้อขายโลหะและสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก และเป็น 1 ในนักลงทุนตะวันตกรายใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน
ทั้งนี้ ศาลได้ตัดสินให้เงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในสัญญาและเงินกู้ทางการค้าที่มีอยู่เป็นโมฆะ และได้สั่งให้บริษัทหลายแห่งในกลุ่มบริษัททรานส์-เวิลด์ กรุ๊ป จ่ายเงินค่าชดเชยค่าเสียหายเพิ่มเติมจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ โดยอิงตามข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัททรานส์-เวิลด์ได้บริหารโรงงานผิดพลาด โดยศาลคาซัคสถานจะบังคับใช้คำสั่งนี้โดยการโอนผลประโยชน์ของทรานส์-เวิลด์ไปให้กับโรงงานภายในประเทศในทันที ซึ่งโรงงานเหล่านั้นควบคุมโดยกลุ่มบริษัทโชดีฟ กรุ๊ป ซึ่งเป็นอดีตหุ้นส่วนร่วมลงทุนของทรานส์-เวิลด์ในคาซัคสถาน และบริษัทคาซัคสถาน มิเนรัล รีซอร์ซ คอร์ปอเรชัน (KMRC) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารงานของทางกลุ่มบริษัท
การตัดสินดังกล่าวได้มีขึ้นในช่วงที่คาซัคสถานต้องการการเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้นในเศรษฐกิจโลก และกำลังต่อสู้กับอุตสาหกรรมและโครงสร้างสาธารณูปโภคหลังยุคโซเวียตที่ประสบปัญหา โดยบริษัททรานส์-เวิลด์ได้ลงทุนเป็นเงินประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโรงงานผลิตโลหะและพลังงานหลัก 4 แห่งในคาซัคสถานในช่วง 1994-1997 เพื่อฟื้นฟูและปรับอุตสาหกรรมโลหะของคาซัคสถานให้ทันสมัย
อย่างไรก็ดี บริษัททรานส์-เวิลด์ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลคาซัคสถาน ซึ่งไม่มีอำนาจทางกฎหมายต่อการลงทุนดังกล่าว และได้คัดค้านลักษณะที่ผิดปรกติอย่างมากของการดำเนินคดีและการขาดกระบวนการทางกฎหมายอันเหมาะสม โดยศาลมิได้ให้ความสนใจต่อมาตราอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการที่ให้อำนาจทางกฎหมายในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างอดีตหุ้นส่วนกับศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งการบังคับคดีในการจ่ายค่าเสียหายจะอยู่ภายใต้อนุสัญญานิวยอร์ค
นายอลัน เบคโฮร์ กรรมการผู้จัดการด้านการค้าและการจัดจำหน่ายของบริษัททรานส์-เวิลด์ในสหราชอาณาจักรได้กล่าวแสดงความเห็นต่อคำตัดสินว่า "เราประหลาดใจมากที่ศาลสูงสุดของคาซัคสถานได้ดำเนินกระบวนการซึ่งเป็นการเมินเฉยอย่างโจ่งแจ้งต่อการตัดสินของศาลต่างประเทศ, ความเคารพต่อข้อสัญญาและข้อตกลงในการถือหุ้นที่มีอยู่ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่น่าเศร้าสำหรับคาซัคสถาน โดยผลประโยชน์ที่ไม่มากนักและอยู่ในระดับกลางยังคงบั่นทอนความพยายามของประธานาธิบดีนาซาร์เยฟที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของคาซัคสถานนอกเหนือไปจากภาคการผลิตเชื้อเพลิงจากซากฟอสซิล"
นายเบคโฮร์กล่าวเสริมว่า "ทรานส์-เวิลด์ยังคงภูมิใจกับผลงานของบริษัทในคาซัคสถานและได้ทำให้โรงงานต่างๆอยู่ในภาวะทางการเงินและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก"
นายชาร์ลส์ แมนดูกา ซึ่งดำเนินกระบวนการทางด้านกฏหมายและเป็นหุ้นส่วนในบริษัทโลเวลล์ ไวท์ เดอร์แรนท์ในกรุงลอนดอน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านกฏหมายจากภายนอกให้กับทรานส์ เวิลด์ กรุ๊ปได้กล่าวว่า "การตัดสินในครั้งนี้เป็นครั้งล่าสุดของขั้นตอนต่างๆที่ดำเนินการในคาซัคสถาน ซึ่งได้มีการยึดสินทรัพย์ของบริษัททรานส์-เวิลด์ในฐานะที่เป็นนักลงทุนรายหนึ่งซึ่งได้ลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในคาซัคสถาน"
ทรานส์-เวิลด์ได้เรียกร้องค่าเสียหายมูลค่ามหาศาลจากการดำเนินคดีในศาลตะวันตกต่ออดีตหุ้นส่วนร่วมทุนในคาซัคสถานในข้อหาละเมิดการจัดการในการร่วมทุน ส่วนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการก็ได้มีขึ้นในกรุงลอนดอน
สำหรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในคาซัคสถานนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทั่วโลกของบริษัททรานส์-เวิลด์
ทรานส์-เวิลด์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทเอกชนระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายและเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการดำเนินการทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมด้านโลหะและโลหะไร้สนิมรวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ โดยมีรายได้ 7 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
แหล่งที่มา: บริษัททรานซ์-เวิลด์ กรุ๊ป
ติดต่อ: นายอลัน เบคโฮร์ หมายเลขโทรศัพท์ 44-171-972-0380 หรือนายเจมส์ วิเซียนา หมายเลขโทรศัพท์ 212-370-6900 --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--