ชิคาโก้--22 ก.ค.--พีอาร์นิวสไวร์-เอเชียเน็ท
บริษัททริบูน คอมพานีได้รายงานสถิติรายได้สุทธิต่อหุ้นขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 0.72 ดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 2 โดยเพิ่มขึ้น 11 % จากระดับ 0.65 ดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมาโดย ไม่รวมรายการซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว (non-recurring items) ทั้งนี้ รายได้สุทธิได้ เพิ่มขึ้น 11 % สู่ระดับ 93 ล้านดอลล่าร์จากระดับ 84 ล้านดอลล่าร์ในปีที่แล้ว โดย รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากผลกำไรการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจสิ่งพิมพ์,การ แพร่ภาพกระจายเสียงและบันเทิง ซึ่งบางส่วนได้ถูกบดบังจากค่าใช้จ่ายด้านอัตราดอกเบี้ย สุทธิที่สูงขึ้น
สำหรับผลประกอบการก่อนหักดอกเบี้ย,ภาษี,ค่าเสื่อมราคา,การหักค่าเสื่อม ราคาสินทรัพย์ถาวรและรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (EBITDA)นั้นได้เพิ่มขึ้น 24 % สู่ระดับ สถิติถึง 223 ล้านดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 2 และเพิ่มขึ้น 27 % สู่ระดับ 377 ล้านดอลล่าร์ ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ โดยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีนี้รวมถึงรายการต่างๆที่เกิดขึ้น ครั้งเดียว ซึ่งในเดือนพ.ค.ปีนี้ บริษัททริบูนได้ขายหุ้นสมัญของบริษัทอเมริกา ออนไลน์ (AOL) ไปประมาณ 2 ล้านหุ้นเป็นมูลค่าเงินสด 96 ล้านดอลล่าร์และได้กำไรก่อนหักภาษี สูงถึง 94 ล้านดอลล่าร์ หรือ .47 ดอลล่าร์/หุ้น และในเดือนมิ.ย.ปีนี้ ทริบูนได้ขายหุ้น สามัญของบริษัทเชคฟรี (CKFR) จำนวน 1.3 ล้านหุ้นคิดเป็นมูลค่าเงินสด 22 ล้าน ดอลล่าร์และมีกำไรก่อนหักภาษีสูงถึง 16 ล้านดอลล่าร์ หรือ 0.08 ดอลล่าร์/หุ้น และใน เดือนเดียวกันนั้น บริษัทได้ลดมูลค่าการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทเดอะ เลิร์นนิ่ง คอมพานี (TLC)ลงตามมูลค่าตลาด ส่งผลให้บริษัทขาดทุนก่อนหักภาษี ซึ่งไม่ใช่เงินสดเป็นมูลค่า 77 ล้านดอลล่าร์ หรือ 0.39 ดอลล่าร์/หุ้น
สำหรับรายได้ที่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวนั้น รายได้สุทธิขั้นต้น/หุ้นของ บริษัททริบูนเพิ่มขึ้น 32 % สู่ระดับ 0.86 ดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 2 และรายได้สุทธิเพิมขึ้น 32 % สู่ระดับ 111 ล้านดอลล่าร์
ส่วนผลกำไรการดำเนินงานรวมในไตรมาสที่ 2 ได้เพิ่มขึ้น 22 % สู่ระดับ สถิติถึง 177 ล้านดอลล่าร์ จากระดับ 145 ล้านดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมา โดยผลกำไรการ ดำเนินงานของธุรกิจสิ่งพิพม์เพิ่มขึ้น 27 % สู่ระดับ 92 ล้านดอลล่าร์สำหรับไตรมาส 2 ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้จากการโฆษณาที่เพิ่มขึ้นและราคากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ลดลง ส่วนผลกำไรการดำเนินงานในธุรกิจแพร่ภาพกระจายเสียงและบันเทิงเพิ่มขึ้น 23 % สู่ ระดับสถิติสูงถึง 81 ล้านดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการขยายตัว อย่างมากของธุรกิจโทรทัศน์หลังจากที่ในเดือนมี.ค.ได้เข้าซื้อกิจการสถานีโทรทัศน์ 6 แห่งจากเรอเนซองส์ คอมมิวนิเคชั่น และผลกำไรส่วนหนึ่งถูกบดบังจากการขาดทุนหุ้นใน การลงทุนที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในเดอะ ดับบลิวบี เน็ตเวิร์ค ส่วนธุรกิจด้านการศึกษามีผล กำไรการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ลดลง 17 % สู่ระดับ 11 ล้านดอลล่าร์ จากระดับ 14 ล้านดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากยอดขายที่ชะลอตัวลงของเอดูเคชั่น พับ ลิชชิ่ง คอร์ปอเรชั่น
สำหรับรายได้รวมในไตรมาสที่ 2 นั้นได้เพิ่มขึ้น 12 % สู่ระดับสถิติถึง 720 ล้านดอลล่าร์จากระดับ 642 ล้านดอลล่าร์ในปีที่แล้ว และถ้าไม่รวมการซื้อกิจการและ การจัดการนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีที่แล้ว รายได้ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 5 % จากปีที่ ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้จากการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น
ด้านผลกำไรการดำเนินงานจากธุรกิจแพร่ภาพกระจายเสียงและบันเทิงเพิ่ม ขึ้น 23 % สู่ระดับ 81 ล้านดอลล่าร์จากระดับ 66 ล้านดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้น 26 % ของผลกำไรประกอบการธุรกิจโทรทัศน์และผลประกอบการด้านวิทยุที่เพิ่มขึ้นนั้นบาง ส่วนได้ถูกบดบังจากการขาดทุนหุ้นที่สูงขึ้นในเดอะ ดับบลิวบี ส่วนการเพิ่มขึ้นของผลกำไร ในธุรกิจโทรทัศน์ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้าซื้อสถานีโทรทัศน์เรอเนซองส์ 6 แห่งใน ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถ้าไม่รวมสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว ผลกำไรการดำเนินงานในธุรกิจทีวีเพิ่ม ขึ้น 1 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่าย 3 % ได้ชดเชยการลด ลง 2 % ของรายได้ โดยผลกำไรการดำเนินงานไตรมาส 2 ยังได้รวมการขาดทุน 5 ล้านดอลล่าร์จากเดอะ ดับบลิวบีเมื่อเทียบกับ 1 ล้านดอลล่าร์ในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็น ผลมาจากการลงทุนหุ้นที่เพิ่มขึ้นของทริบูนในเดอะ ดับบลิวบีด้วย
สำหรับรายได้ในการดำเนินงานไตรมาส 2 ได้เพิ่มขึ้น 19 % สู่ระดับ 300 ล้านดอลล่าร์จากระดับ 253 ล้านดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้น 24 % ในธุรกิจทีวี และการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจทีวีเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของ สถานีโทรทัศน์เรอเนซองส์ 6 แห่ง ซึ่งถ้าไม่รวมสถานีของเรอเนซองส์นั้น รายได้ของ ธุรกิจทีวีลดลง 2 % (ยังมีต่อ)
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-กช/กก--