โตเกียว--10 ต.ค.--เกียวโด เจบีเอ็น — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
การย้ายไปสู่ระบบ Enterprise Cloud จะช่วยเพิ่มระดับ Uptime และการบริการ พร้อมกับลดต้นทุนในเวลาเดียวกัน
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น (เอ็นทีที คอม) ซึ่งเป็นธุรกิจด้านข้อมูล คลาวด์ และโทรคมนาคมระหว่างประเทศของเอ็นทีที (NYSE: NTT) ประกาศในวันที่ 10 ตุลาคมว่า บริษัทจะจัดหาแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีความคุ้มค่าสูงให้แก่บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เพื่อดูแลจัดการระบบที่มีความสำคัญระดับ mission-critical ในญี่ปุ่น ในด้านการผลิต การจัดซื้อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทรัพยากรบุคคล และการดำเนินงานทางการเงิน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป
เอ็นทีที คอม จะใช้บริการคลาวด์ระดับโลก Enterprise Cloud และบริการเครือข่ายระดับโลก Arcstar Universal One ของบริษัท เพื่อสร้างแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีความทนทานสูงและสามารถปรับขนาดได้ โดยยามาฮ่า มอเตอร์จะใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวเพื่อเสริมแกร่งให้กับความต่อเนื่องทางธุรกิจ และลดต้นทุนด้านไอซีที ด้วยการรวมเซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย และระบบไอซีทีอื่นๆที่กระจัดกระจายอยู่ในปัจจุบันไว้ในบริการคลาวด์ของเอ็นทีที คอม
ยามาฮ่า มอเตอร์ มีแผนจะย้ายระบบไอซีทีทั้งหมดในญี่ปุ่นภายในปี 2561 และจะดำเนินการย้ายระบบไอซีทีในต่างประเทศภายในกรอบเวลาอันเหมาะสม
ระบบที่มีความสำคัญระดับ mission-critical ของยามาฮ่าประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ราว 700 เครื่อง ซึ่งบริษัทในเครือทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ ระบบส่วนใหญ่มีผู้ครอบครองอยู่และดำเนินงานในสภาพแวดล้อมแบบ on-premise ภายในเขตโตไก ภาคกลางของญี่ปุ่น ในด้านความเสี่ยงของญี่ปุ่นต่อการเกิดแผ่นดินไหวและภัยธรรมชาติอื่นๆนั้น บริษัทได้มองหาแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและปรับปรุงความต่อเนื่องของธุรกิจ โดยการตัดสินใจใช้บริการเอ็นทีที คอม ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ระดับโลกนั้น พิจารณาจากความสามารถด้านการย่อขยายขอบเขตที่ยืดหยุ่นและศักยภาพในการสำรองข้อมูลอันทรงพลังของระบบคลาวด์ของเอ็นทีที คอม ตลอดจนการมีศูนย์ข้อมูลแบบซ้ำซ้อนหลายแห่งตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ที่ความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ การอยู่ใกล้ผู้ใช้มากขึ้นยังเป็นการเพิ่มสมรรถนะและระยะเวลาตอบสนองของระบบเหล่านี้ด้วย
ยามาฮ่า มอเตอร์ มีบริษัทในเครือ 140 แห่งใน 30 ประเทศ/ดินแดน และทำยอดขายรวมในต่างประเทศได้ราว 90% เนื่องจากระบบไอซีทีมีการดำเนินงานที่แตกต่างกันออกไปในหลายประเทศ ส่งผลให้ระดับความพร้อมและความปลอดภัยของระบบแตกต่างกันอย่างมาก นอกจากนี้ ต้นทุนของสินทรัพย์ที่มีเจ้าของเหล่านี้เป็นต้นทุนคงที่ที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ด้วยความช่วยเหลือของเอ็นทีที คอม ทำให้ปัจจุบันยามาฮ่า มอเตอร์จะสามารถย้ายระบบไอซีทีไปสู่คลาวด์ และใช้ทรัพยากรไอซีทีมากมายเหล่านี้ได้ตามความจำเป็น ต้นทุนไอซีทีด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์และเครือข่าย และการเฝ้าสังเกตระบบ จะกลายเป็นต้นทุนแปรผัน ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก
สำหรับในอนาคต เอ็นทีที คอม คาดว่าจะช่วย ยามาฮ่า มอเตอร์ บูรณาการโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีทั่วโลก ในขอบเขตงานด้านอื่นๆที่นอกเหนือไปจากการย้ายไปสู่คลาวด์ อาทิ การดูแลและบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลก
สำหรับรูปภาพของระบบที่ย้ายไปยังคลาวด์ กรุณาเข้าชมที่ http://prw.kyodonews.jp/opn/release/201310095262/
เกี่ยวกับยามาฮ่า มอเตอร์
ยามาฮ่า มอเตอร์ (TOKYO: 7272) เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ ยานยนต์ทางน้ำ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ยึดแผ่นวงจรพิมพ์ชั้นนำของโลก ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัทพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัทเอง ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องเครื่องยนต์ขนาดเล็ก พลาสติกเสริมใยแก้ว และการควบคุมทางอิเล็กทรอนิก ยามาฮ่า มอเตอร์ดำเนินการพัฒนา ผลิต และทำการตลาดทั่วโลกผ่านบริษัทย่อยและบริษัทในเครือที่ถือหุ้นอยู่ จำนวน 140 แห่ง ใน 30 ประเทศ/ดินแดน บริษัทสามารถทำยอดขายสุทธิรวมประมาณ 90% ในกว่า 200 ประเทศ ไม่รวมญี่ปุ่น ยามาฮ่า มอเตอร์กำลังปรับโครงสร้างด้านวิศกรรมกรรม การผลิต และการตลาดในระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ที่ http://global.yamaha-motor.com/
เกี่ยวกับ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่าย Tier-1 IP และ Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมกว่า 160 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัยกว่า 140 แห่ง โซลูชั่นของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ยังสามารถใช้งานร่วมกับบริษัทในเครือเอ็นทีที กรุ๊ป ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
www.ntt.com
Twitter@NTT Communications (www.twitter.com/nttcom)
Facebook@NTT Communications (www.facebook.com/nttcomtv)
LinkedIn@NTT (http://www.linkedin.com/company/ntt-communications)
แหล่งข่าว: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
AsiaNet 54569