Peabody Energy เปิดตัวแคมเปญ Advanced Energy for Life หวังสร้างความตระหนักและให้การสนับสนุน เพื่อยุติวิกฤติขาดแคลนพลังงานทั่วโลก

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 27, 2014 08:43 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

เซนต์หลุยส์--27 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ เมื่อปัญหาการขาดแคลนพลังงานทั่วโลกถูกยกให้เป็นวิกฤติอันดับหนึ่งของมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท พีบอดี เอ็นเนอร์จี (Peabody Energy) (NYSE:BTU) จึงเปิดตัวแคมเปญระดับโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความตระหนักรับรู้และให้การสนับสนุนในส่วนต่างๆ เพื่อกำจัดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน พร้อมยกระดับการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูก และลดการปล่อยพลังงานผ่านเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดที่ทันสมัย แคมเปญ Advanced Energy for Life จะให้ความรู้และระดมกำลังจากบรรดาผู้นำระดับโลก ตลอดจนองค์กรข้ามชาติ สถาบันและผู้ถือผลประโยชน์ร่วม รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อ: 1. ยุติวิกฤติขาดแคลนพลังงานทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรถึงครึ่งโลก และนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อม 2. ขับเคลื่อนนโยบายและให้การสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ซึ่งยกระดับการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่เชื่อถือได้และมีราคาถูก โดยเน้นในส่วนของเทคโนโลยีถ่านหินขั้นสูง ที่ช่วยต่ออายุชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาสิ่งแวดล้อมทั้งนอกบ้านและในบ้าน 3. ดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดการปล่อยพลังงานจากโรงงานไฟฟ้า พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียุคใหม่ ตลอดจนขอบข่ายการควบคุมบังคับต่างๆเพื่อติดตาม ใช้ และกักเก็บการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ “กว่าทศวรรษที่ผ่านมา เป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษของสหประชาชาติ (United Nations Millennium Goals) ได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อลดปัญหาความยากจนอย่างรุนแรงให้ได้ภายในปี 2558 โดยเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจอห์นสันของสหรัฐได้ประกาศสงครามกับความยากจน” เกรกอรี่ เอช บอยซ์ ประธาน และซีอีโอของ Peabody Energy กล่าว “แต่ในวันนี้ มีผู้คนถึง 3.5 พันล้านคนทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงพลังงานในระดับที่เพียงพอ และอีกกว่า 4 ล้านคนที่ต้องเสียชีวิตจากปัญหาขาดแคลนพลังงานอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ เรามีเทคโนโลยีและทรัพยากรทั่วโลกเพื่อยุติวิกฤติดังกล่าว เราทั้งหมดต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อนำไปสู่โซลูชั่นที่จะทำให้จุดประสงค์ของเรากลายเป็นความจริง” พลังงานสมัยใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ข้อมูลจากทบวงพลังงานโลกและธนาคารโลกเปิดเผยว่า ครึ่งหนึ่งของผู้คนกว่า 7 พันล้านคนทั่วโลกนั้นไม่สามารถเข้าถึงพลังงานได้ในระดับที่เพียงพอ ซึ่งรวมถึงเด็กๆจำนวนถึง 1.2 พันล้านคน โดยมลพิษทางอากาศภายในบ้านที่กำเนิดจากเปลวไฟคาดว่า จะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรรวมกันถึง 100 ล้านปี เมื่อสัดจากมาตรวัดข้อมูลปีสุขภาวะที่สูญเสีย Disability Adjusted Life Year (DALY) ซึ่งเป็นเครื่องมือชี้วัดที่กำหนดขึ้นโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งข้อมูล DALY ในแต่ละส่วนนั้น จะแสดงให้เห็นถึงปีที่สูญเสียไปจำนวน 1 ปีเมื่อเกิดโรคขึ้น “ตัวเลขสถิติอันตรึงเครียดนี้แสดงให้เห็นว่า ปัญหาการขาดแคลนพลังงานเป็นวิกฤติมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงในโลกปัจจุบัน” นายบอยซ์ กล่าว “วิกฤติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราต้องเผชิญไม่ได้เป็นเพียงวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมที่คาดคะเนโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นวิกฤติต่อมนุษยชาติที่เราสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขได้อย่างเต็มที่ โดยในช่วงเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา เราได้ให้ความสำคัญไปยังส่วนที่ไม่จำเป็นมาโดยตลอด” นอกจากนี้ แนวโน้มทางประชากรศาสตร์ในระยะยาวยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความต้องการพลังงานราคาถูก โดยสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติรายงานว่า จำนวนประชากรทั่วโลกนั้นกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆกว่า 200,000 คน/วัน และคาดว่าพื้นที่ตามเขตเมืองต่างๆจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านคน/ปี ภายในปี 2563 แผนการดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และยกระดับการเข้าถึงพลังงานราคาถูกทั่วโลก ไปจนถึงรูปแบบพลังงานทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นทั้งสิ้น ถ่านหินนั้นเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก และยังเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วที่สุดอีกด้วย โดยทบวงพลังงานโลกและบรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ถ่านหินจะเข้ามาแทนที่น้ำมันในฐานะแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น ถ่านหินจึงมีบทบาทสำคัญในสงครามขจัดปัญหาการขาดแคลนพลังงานทั่วโลก และเพิ่มการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูก ขณะที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อลดการปล่อยมงภาวะ ถ่านหินเป็นกุญแจสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่สะอาดอีกด้วย “ถ่านหินนับเป็นโซลูชั่นด้านสิ่งแวดล้อมพื้นฐาน เมื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติสังเคราะห์ในปริมาณมาก” นายบอยซ์ กล่าว “พลังงานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติสังเคราะห์ที่ได้จากถ่านหิน สามารถลดการตัดไม้ทำลายป่าในบริเวณกว้างจากการรวบรวมมวลชีวภาพ เช่นเดียวกับผลกระทบอันรุนแรงจากการขาดแคลนพลังงาน” และถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงพิเศษแห่งโลกอนาคตในแง่ของความหนาแน่น ความอุดมสมบูรณ์และความได้เปรียบด้านราคา “แรงขับเคลื่อนจากบางภาคส่วนเพื่อลดการใช้ถ่านหิน และทำให้พลังงานเป็นสิ่งที่หายากและมีราคาแพงนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์อย่างไม่ยั่งยืน แถมยังเป็นการทำร้ายผู้คนและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” นายบอยซ์ กล่าว “เราจำเป็นต้องมองที่ผลประโยชน์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในการยุติการขาดแคลนพลังงาน พร้อมกำจัดมลพิษทางอากาศในภาคครัวเรือนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูก ทุกๆคนในโลกนี้สมควรใช้ชีวิตเฉกเช่นผู้คนในประเทศพัฒนาแล้ว เราควรใช้พลังงานให้มากขึ้นและสะอาดขึ้นในทุกๆวัน” ข้อได้เปรียบของถ่านหินในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ทั่วโลก เช่น: - ในสหรัฐอเมริกา ถ่านหินถูกนำมาใช้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าในสัดส่วนราว 40% โดยรัฐที่ไม่ได้ใช้ถ่านหินจำเป็นต้องจ่ายค่าไฟฟ้ามากกว่ารัฐที่ใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้ากว่า 50% ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงก่อให้เกิดภาษีอัตราถดถอยต่อชาวอเมริกัน โดยครัวเรือนรายได้ต่ำจำเป็นต้องเสียค่าพลังงานในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับรายได้ของครอบครัว ทั้งนี้ บทบาทด้านสิ่งแวดล้อมของถ่านหินได้เริ่มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยถ่านหินที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้านั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 170% นับตั้งแต่ปี 2513 ขณะที่โรงงานไฟฟ้ารายหลักๆมีอัตราการปล่อยพลังงานลดลงเกือบ 90% ต่อยูนิต เพื่อการก้าวไปข้างหน้า Peabody เชื่อว่าขอบข่ายนโยบายของสหรัฐจำเป็นต้องเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้าราคาถูก คุ้มครองโรงงานถ่านหินปัจจุบันจากกฎข้อบังคับที่เลยเถิด ที่อาจทำให้โรงงานต้องปิดตัวลงอีกทั้งทำให้อัตราค่าไฟฟ้าพุ่งสูงลิบลิ่ว พร้อมกับส่งเสริมการพัฒนาโรงงานถ่านหินใหม่ๆให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียุคหน้า - ออสเตรเลียเป็นประเทศผู้ส่งออกถ่านหินชั้นแนวหน้าของโลก โดยสถาบัน Royal Melbourne Institute of Technology รายงานว่า ถ่านหินเป็นสินค้าส่งออกที่มากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ ซึ่งจำเป็นต่อการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีมูลค่าสูงเกือบ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์/ปีในระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีราคาถูกที่สุดอีกด้วย ในช่วงเวลาที่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและอัตราภาษีมีความท้าทายนั้น ก่อให้เกิดความเดือนร้อนแก่ภาคครัวเรือนและธุรกิจออสเตรเลีย รัฐบาลชุดใหม่จำเป็นต้องยกเลิกแผนระบบภาษีคาร์บอนที่ล้มเหลว ปรับลดเป้าหมายพลังงานทดแทน ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า ฟื้นฟูการสร้างงาน และเสริมสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในภูมิภาคออสตราเลเซีย - ในจีน อุปสงค์ถ่านหินกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากจีนมีความต้องการผลิตพลังงานไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งและสารเคมีจากถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจีนจะลดปริมาณการใช้ถ่านหินโดยตรงในภาคครัวเรือนและธุรกิจ ขณะที่เพิ่มการใช้ถ่านหินในโรงงานไฟฟ้าและแปรสภาพ นอกจากนี้ จีนยังเตรียมแทนที่อุปกรณ์ถ่านหินเก่าด้วยอุปกรณ์ขั้นสูง อีกทั้งนำก๊าซสังเคราะห์จากถ่านหินไปใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวตลอดจนการติดตั้งระบบควบคุมการปล่อยพลังงานในโรงงานไฟฟ้า และการติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงแทนที่อุปกรณ์เก่า มีความคล้ายคลึงกับที่สหรัฐได้ทำไว้ในช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา “โลกได้เริ่มหันมาพึ่งการใช้ถ่านหิน เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานและเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เราจำเป็นต้องมีการดำเนินงานมากกว่านี้ในการขยายขอบเขตการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูก เพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือน พร้อมเติมพลังเศรษฐกิจและช่วยให้ผู้คนหลายพันล้านคนสามารถก้าวออกจากความขาดแคลน” นายบอยซ์ กล่าว “เรายังจำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ๆเพื่อกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อมตามความเหมาะสม เราเชื่อว่า การเดินหน้าในเส้นทางที่ถูกต้องนั้นมาจากการยกระดับเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินในสภาวะวิกฤตยิ่งยวด ซึ่งช่วยลดการปล่อยพลังงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อมองในระยะยาว การจัดตั้งหน่วยวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียุคใหม่ยังสามารถปูทางเพื่อการบรรลุเป้าหมายปล่อยพลังงานจากถ่านหินให้เป็นศูนย์ได้” ปัจจุบัน เทคโนโลยีถ่านหินขั้นสูงมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย รวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากถ่านหินในสภาวะวิกฤตยิ่งยวด ระบบควบคุมการปล่อยมลภาวะที่ทันสมัย และการแปรสภาพถ่านหินผ่านกระบวนการแปรสภาพเป็นแก๊ส ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญยิ่งเพื่อลดการปล่อยมลภาวะทั่วโลก สำหรับเทคโนโลยียุคหน้า เช่น เทคโนโลยีในการติดตาม ใช้ และกักเก็บคาร์บอน ยังจำเป็นต้องมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอีกอย่างมาก ซึ่งรวมถึงการกระชับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชนในการวิจัยและพัฒนา เช่นเดียวกับการกำหนดกฏข้อบังคับใหม่หรือปรับปรุงเพื่อให้สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ องค์ประกอบหลักในแคมเปญ Advanced Energy for Life ได้แก่ โครงการให้ความรู้ผ่านสื่อดิจิตอล โดยเน้นไปที่ผลประโยชน์จากการเข้าถึงพลังงานราคาถูก และบทบาทสำคัญของพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินที่ช่วยแก้ปัญหาพลังงานทั่วโลก อีกทั้งการจัดตั้งสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาและกระจายงานวิจัยเช่นเดียวกับทุนทางปัญญาที่อิงกับนโยบาย ตลอดจนการกระจายความร่วมมือโดยตรงสู่ภาครัฐ สถาบันและผู้ถือผลประโยชน์ร่วม เพื่อยกระดับการเข้าถึงพลังงาน พร้อมส่งเสริมการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง Advanced Energy for Life เป็นแคมเปญเพื่อสร้างความตระหนักรับรู้และให้การสนับสนุนในส่วนต่างๆ เพื่อกำจัดปัญหาการขาดแคลนพลังงานทั่วโลก พร้อมยกระดับการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าราคาถูก และลดการปล่อยมลภาวะผ่านเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดอันล้ำสมัย เราขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมแคมเปญกับเรา โดยสามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AdvancedEnergyForLife.com และทาง Advanced Energy for Life ในเฟสบุ๊ก ยูทูป ทัมเบอร์ กูเกิ้ล+ และไวน์ และทางทวิตเตอร์ @AdvancedEnergy สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: เบธ ซัตตัน (Beth Sutton), รองประธาน ฝ่ายสื่อสารองค์กรระหว่างประเทศ โทร. +1.928.699.8243 (โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20140226/CG70548LOGO ) (โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120724/CG44353LOGO )

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ