ฮ่องกง และ โตเกียว--31 มี.ค.--เกียวโด เจบีเอ็น/อินโฟเควสท์
- รายงานตอกย้ำถึงผลพวงที่เกิดขึ้นตามมา 9 ประเด็นสำคัญที่กระตุ้นให้องค์กรต่างๆต้องทบทวนเกี่ยวกับวิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์บนระบบคลาวด์
ผลการศึกษาซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 มีนาคมโดยเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (NTT Communications: http://www.hk.ntt.com/en/index.html ) พบว่า เกือบ 9 ใน 10 ของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีได้เปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อบริการระบบคลาวด์ ( http://www.hk.ntt.com/en/products/services-in-hong-kong/enterprise-hosting/cloud-hosting.html ) อันเป็นผลพวงโดยตรงจากข้อกล่าวอ้างของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เกี่ยวกับการสอดแนมข้อมูลจำนวนมหาศาลในโลกไซเบอร์
ผลพวงจากการกล่าวอ้างเกี่ยวกับสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA): รายงานเรื่อง สโนว์เดนกับการเปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินการของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีต่อระบบคลาวด์ เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจความเห็นจากผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีจากฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง สหราชอาณาจักร และสหรัฐ การศึกษาได้เน้นย้ำถึงข้อมูลเด่นๆ 9 ประเด็นที่เกิดจากการเปิดเผยข้อมูลของสโนว์เดน ซึ่งกระตุ้นให้บริษัทต่างๆต้องทบทวนวิธีการใช้คอมพิวเตอร์บนระบบคลาวด์ ดังต่อไปนี้:
1. เกือบ 9 ใน 10 (88%) ของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีได้เปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อบริการระบบคลาวด์ โดยกว่า 1 ใน 3 (38%) ได้แก้ไขเงื่อนไขในการจัดหาบริการแก่ผู้ให้บริการระบบคลาวด์
2. มีเพียง 5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สถานที่ตั้งไม่มีความสำคัญต่อการจัดเก็บข้อมูลของบริษัท
3. กว่า 3 ใน 10 (31%) ของผู้มีอำนาจตัดสินใจในด้านไอซีทีกำลังย้ายข้อมูลไปยังสถานที่ที่ธุรกิจมั่นใจว่ามีความปลอดภัย
4. ประมาณ 6 ใน 10 (62%) ของผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการระบบคลาวด์ในปัจจุบันรู้สึกว่า การเปิดเผยข้อมูลทำให้พวกเขาไม่อยากย้ายระบบไอซีทีไปยังระบบคลาวด์
5. ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีอยากซื้อบริการคลาวด์ที่มีสถานที่ตั้งในภูมิภาคของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ตอบคำถามในอียู (97%) และสหรัฐ (92%)
6. มีเพียงครึ่งหนึ่ง (52%) ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์มากกว่าข่วงที่ผ่านมา
7. 1 ใน 6 (16%) ได้เลื่อนหรือยกเลิกการทำสัญญากับผู้ให้บริการระบบคลาวด์
8. กว่า 4 ใน 5 (84%) รู้สึกว่า ตนเองต้องเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎหมายการปกป้องข้อมูล
9. 82% ของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีทั่วโลกเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนีในการแยกเครือข่ายข้อมูล
บริษัทในฮ่องกงได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นหลังจากที่เอ็นเอสเอได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว เทย์เลอร์ แมน รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจคลาวด์ของเอ็นทีที คอม เอเชีย กล่าวว่า “การเปิดโปงพฤติกรรมของเอ็นเอสเอส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอซีทีในวงกว้าง หลายบริษัทได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบมากขึ้นและได้ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารงบประมาณด้านความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ (คิดเป็น 76% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก, 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามในฮ่องกง) ผลการสำรวจของเราพบว่า 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามในฮ่องกงระบุว่า ให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้น ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในภูมิภาค และ 59% จะทำการศึกษามากขึ้น เช่น การศึกษาระบบคลาวด์แบบ SLA อย่างละเอียด อันเนื่องจากการเปิดโปงพฤติกรรมของเอ็นเอสเอ 58% ของผู้ตอบคำถามในฮ่องกงยังระบุว่า จะใช้ทรัพยากรมากขึ้นในการตรวจสอบการรับรองความปลอดภัยของผู้ให้บริการคลาวด์แก่บริษัท เมื่อเทียบกับ 67% ของผลการสำรวจทั่วโลก”
“นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า สถานที่ตั้งของการให้บริการได้กลายมาเป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจ โดย 69% ของผู้ตอบคำถามในฮ่องกงระบุว่า รู้สึกอบอุ่นใจมากที่สุดในการซื้อบริการคลาวด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามมาด้วยอเมริกาเหนือ (41%) และยุโรป (39%)” แมนกล่าวเสริม
ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีมีทัศนคติที่เข้มงวดต่อการใช้บริการระบบคลาวด์ เลน พาดิลลา รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ประจำภูมิภาคยุโรปกล่าว “ผลการศึกษาของเราบ่งชี้ว่า การเปิดโปงพฤติกรรมเอ็นเอสเอทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีต่างก็มีท่าทีที่เข้มงวดต่อคอมพิวเตอร์บนระบบคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้นโยบายในการจัดหาบริการ, การพิจารณาความสามารถของผู้ให้บริการ หรือการให้ความสนใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานที่จัดเก็บข้อมูล”
พาดิลลากล่าวต่อไปว่า “ถึงแม้จะมีเรื่องอื้อฉาวและเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยทั่วโลก ผู้บริหารธุรกิจจะต้องระลึกเสมอว่า แพลตฟอร์มระบบคลาวด์จะช่วยให้บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยส่งเสริมนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีแม้กระทั่งในองค์กรที่ไม่ต้องการเรื่องความเสี่ยง ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาวิธีในการรักษาผลประโยชน์และปกป้ององค์กรให้มีความปลอดภัยในทุกวิถีทาง นับเป็นมุมมองที่เป็นบวกที่เชื่อว่าอุตสาหกรรมจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ผ่านการเข้มงวดเกี่ยวกับการย้ายข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูล”
สามารถดาวน์โหลดรายงาน NSA AFTER-SHOCKS: HOW SNOWDEN HAS CHANGED IT DECISION-MAKERS' APPROACH TO THE CLOUD ได้ที่ www.nsaaftershocks.com
วิธีการดำเนินงาน
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ได้ว่าจ้าง Vanson Bourne ซึ่งเป็นบริษัทด้านการวิจัยตลาดดำเนินการสำรวจความเห็นจากผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอซีทีจำนวน 1,000 รายในสหราชอาณาจักร (200 ราย), ฝรั่งเศส (200 ราย), เยอรมนี (200 ราย), ฮ่องกง (100 ราย), และสหรัฐ (300 ราย) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นการคัดเลือกจากธุรกิจที่มีพนักงานตั้งแต่ 1,000 ขึ้นไปจากอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง บริการทางการเงิน ค้าปลีก การผลิต ผู้ให้บริการเรื่องมืออาชีพ ไอที และพลังงาน
เกี่ยวกับ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ให้บริการคำปรึกษา สถาปัตยกรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และบริการคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขององค์กรธุรกิจ บริการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงเครือข่ายชั้นนำ Global Tier-1 IP และ Arcstar Universal One(TM) VPN ซึ่งครอบคลุมกว่า 190 ประเทศ/ดินแดน และศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัยกว่า 150 แห่ง โซลูชั่นของเอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ ยังสามารถใช้งานร่วมกับบริษัทในเครือเอ็นทีที กรุ๊ป ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึง Dimension Data, NTT DOCOMO และ NTT DATA
เกี่ยวกับเอ็นทีที คอม เอเชีย
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ เป็นผู้ถือหุ้น 100% ในเอ็นทีที คอม เอเชีย ซึ่งให้บริการในฐานะสำนักใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งครอบคลุมฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และเกาหลี โดยร่วมมือกับ HKNet ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในการจัดหาบริการเครือข่ายระดับโลกสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่, การเชื่อมต่อผ่านไอที, ศูนย์ข้อมูล, การจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์, แอพพลิเคชั่นระบบคลาวด์, และบริการและโซลูชั่นอื่นๆในภูมิภาค
กรุณาเยี่ยมชม www.ntt.com.hk | www.hknet.com | www.facebook.com/nttca | http://www.linkedin.com/company/ntt-com-asia-limited สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งข่าว: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
AsiaNet 56324