ซอลท์เลคซิตี้--3 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
นาธาน เนียร์แมน เจ้าหน้าที่หน่วยต่อต้านข่าวกรองและทหารผ่านศึกอัฟกานิสถาน รวบรวมประสบการณ์รับใช้ชาติที่ได้ทุ่มเทมาเป็นเวลาหลายปีในภารกิจครั้งใหม่ เพื่อเปลี่ยนความฝันที่เขาไขว่คว้ามาทั้งชีวิตสู่วงการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งจะส่งมอบความบันเทิงอันน่าตื่นเต้นพร้อมเรียกเสียงฮือฮาในเชิงพาณิชย์ไปในคราวเดียวกัน ในเร็วๆนี้ ความฝันดังกล่าวกำลังจะปรากฎสู่สายตาผ่านทางจอภาพยนตร์ จากการเปลี่ยนบทภาพยนตร์ดั้งเดิมให้กลายเป็นภาพยนตร์จริง ซึ่งได้รับเสียงปรบมือยกย่องอย่างล้นหลาม หลังจากที่ได้มีการฉายภาพยนตร์ตัวอย่าง ในงาน CincemaCon อันทรงเกียรติ ซึ่งมีบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์และผู้แสดงเข้าร่วมมากมายจากทั่วโลก ณ โรงแรม Caesar's Hotel แห่งลาสเวกัส
โลโก้ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20140402/CG96292LOGO
Nebulae Entertainment ได้เปลี่ยนบันทึกเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นเชิงจิตวิทยาของเนียร์แมน สู่ภาพยนตร์ The Janus Project ซึ่งจะเริ่มถ่ายทำในยูทาห์ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน สตีฟ บาวน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดของ Nebulae Entertainment กล่าวว่า “นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากทั้งหมด 16 เรื่องที่มีกำหนดการสร้างในปีต่อๆไป ทั้งนี้ภาพยนตร์แต่ละเรื่องมีแนวทางแตกต่างกันไป โดยล้วนแต่เป็นภาพยนตร์ดั้งเดิม ที่จะทำให้ผู้ชมทั่วโลกตกหลุมรักวงการฮอลลีวูดอีกครั้ง”
“ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งกลยุทธ์การตลาดที่ไม่เหมือนใคร เพื่อดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เสียงตอบรับจากบรรดาผู้นำอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากประสบการณ์ ซึ่งเราได้พบปะกันในงาน CinemaCon ได้ต่อยอดความหวังของเราในอนาคต” นายบาวน์ กล่าว “เราเคารพต่อหลักธรรมเนียมปฏิบัติแต่ก็ไม่ได้ยึดติด แนวคิดทางการตลาดใหม่ๆของเราชี้ให้เห็นถึงกระแสตื่นตัวในอนาคตของวงการฮอลลีวูด”
นาธาน เนียร์แมน ได้ให้รายละเอียดเรื่องแนวคิดการตลาดที่ไม่เหมือนใครว่า “Nebulae Entertainment และ Dubli จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมภาพยนตร์ของเราทางเว็บไซต์ www.thejanusprojectfilm.com ในรอบ pre-release ก่อนที่จะเปิดฉายในโรงภาพยนตร์ 24 ชั่วโมง โดยบัตรเข้าชมดังกล่าวจะวางจำหน่ายก่อนการเปิดกล้องถ่ายทำในเดือนมิถุนายน ซึ่งการจำหน่ายบัตรรอบ pre-release ทางเว็บไซต์เช่นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการฮอลลีวูด เรามีเป้าหมายที่จะจำหน่ายบัตรให้กับผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีคนต่อคิวเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แล้ว ทั้งนี้เราจะเปิดจำหน่ายบัตรเป็นระยะเวลา 40 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 10 พฤษภาคม 2557 ด้วยราคาเพียง 4 ดอลลาร์ คุณสามารถเป็นผู้ชมรายแรกๆ ที่ได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์ดั้งเดิมและตื่นตาตื่นใจเรื่องนี้ก่อนผู้ชมทั่วไปตามโรงภาพยนตร์” และเสริมว่า “การเปิดโอกาสให้ได้รับชมบนเว็บ ก็ยังกระตุ้นให้ผู้ชมรู้สึกอยากดูอีกไปเรื่อยๆบนจอภาพยนตร์ ขณะที่เราเดินหน้าปฏิวัติแนวทางการดำเนินธุรกิจภาพยนตร์”
เนียร์แมนกล่าวเสริมว่า “เรามั่นใจว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในโรงภาพยนตร์ เนื่องจากตลาดโลกกำลังอยู่ในจุดอิ่มตัว อีกทั้งภาพยนตร์ยังมีเรื่องราวอันน่าทึ่ง” โดยแผนโปรโมท The Janus Project ในบ็อกซ์ออฟฟิศ ผ่านกลยุทธ์การตลาดและแบบทั่วไปในหลากหลายช่องทาง จะช่วยดึงดูดผู้ชมสู่โรงภาพยนตร์ได้มากยิ่งขึ้น กลยุทธ์ดังกล่าวประกอบกับแอพฯ Nebulae ซึ่งจะเปิดตัวทั่วโลกพร้อมกับ DVD/Blu-Ray เพื่อสร้างกระแสความสำเร็จของภาพยนตร์ต่อไป เนียร์แมนกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ เรายังมีแผนเปิดตัวนวนิยาย The Janus Project ไปพร้อมๆกับการเปิดตัวภาพยนตร์ในโรงหนัง โดยการเปิดตัวภาพยนตร์ครั้งนี้จะมีช่วง sneak peek ของภาพยนตร์ภาคสองอีกด้วย”
นอกเหนือจากการคัดเลือกนักแสดงและตัวเลขสถิติทางธุรกิจของบ็อกซ์ ออฟฟิศแล้ว กลยุทธ์ตีตลาดหนังทำเงินอีกอย่างหนึ่ง คือ นักแสดงนำของเรื่อง ซึ่งรับบทโดย เอมิลี่ โอเบรียน และอดัม เกรกอรี่ สองนักแสดงละครดัง
เอมิลี่ โอเบรียน นักแสดงที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Daytime Emmy Awards สามสมัย เกิดที่ประเทศอังกฤษ และเป็นที่รู้จักกันในบท Jana Hawkes Fisher จากเรื่อง The Young and the Restless
อดัม เกรกอรี่ เกิดที่เมืองซินซิเนติ รัฐโอไฮโอ เป็นนักแสดงที่รับบท Ty Collins จากซีรี่ส์ 90210ของช่อง CW และละครเรื่อง The Bold and the Beautiful ทางช่อง CBS จนถึงช่วงปลายปี 2556 ซึ่งบรรดาแฟนๆต่างรอคอยให้เขากลับมา และยังแสดงในเอ็มวี It's Alright, It's Ok ของแอชลี่ย์ ทิสเดลอีกด้วย โดยเกรกอรี่และเชอริแดน นิโคล ผู้เป็นภรรยา ให้กำเนิดลูกชายคนแรกชื่อแคนนอน เกรกอรี่ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556
ในฐานะที่เป็นนักแสดงร่วมในภาพยนตร์เรื่อง The Janus Project สองนักแสดงทรงเสน่ห์ทั้งท่าทางและรูปลักษณ์ สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างได้เป็นจำนวนมากในงาน Spring 2014 CinemaCon โดยจูดี้ ธอร์เบิร์น นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากนิตยสาร Las Vegas Round the Clock กล่าวกับทีมผู้สร้างภาพยนตร์ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ตื่นตาตื่นใจจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ “เป็นภาพยนตร์ตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยดูมา” เพื่อสร้างกระแสคาดหวังในการเปิดตัวภาพยนตร์
เสียงร่ำลือในเชิงบวกเปิดฉากขึ้น ในขณะที่กระบวนการคัดเลือกนักแสดงเพิ่มเติม รวมถึงเหล่าดาราชื่อดังอีกด้วย โดยบรู๊ค เบนท์ลีย์ ผู้กำกับการคัดเลือกตัวแสดง กล่าวว่า “กองทัพตัวละครที่แสดงในเรื่อง อีกทั้งธีมดำเนินเรื่องหลากหลายแง่มุม และเรื่องราวในภาพยนตร์ที่มีความดั้งเดิมนั้น เป็นปัจจัยดึงดูดนักแสดงมากความสามารถในวงการฮอลลีวูด โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราจะเดินหน้าติดต่อและพูดคุยกับบรรดานักแสดงชื่อดัง” และเสริมว่า “ภาพยนตร์ดั้งเดิมครั้งประวัติศาสตร์กำลังเฟ้นหานักแสดงคุณภาพ และเรารู้สึกยินดีที่ภาพยนตร์กำลังไปได้ด้วยดี”
บุคคลที่มีชื่อเสียงของ Nebulae Entertainment ได้แก่ มาร์ค วิกเตอร์ แฮนเซน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมสร้าง Chicken Soup for the Soul และผู้ร่วมแต่งหนังสือ Cracking the Millionaire Code ร่วมกับมาร์ค อัลเลน นอกจากนี้ยังมี บ็อบ นิโคลล์ ผู้แต่งหนังสือ Remember the Ice ร่วมทีม Nebulae อีกด้วย โดยนิโคลล์ กล่าวว่า “เนียร์แมนได้สร้างทีมทำงานและบริษัทจากพลังที่แฝงอยู่ในตัว อันก่อให้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้กลายเป็นผลงานแห่งความยอดเยี่ยมเพื่อมอบความบันเทิงแก่ผู้คนทั่วโลก และเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ผมได้เห็นกระบวนการทำงาน”
สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557 จะอยู่ในรัฐยูทาห์ และที่มหาวิทยาลัย Utah Valley University ตลอดจนสถานที่อื่นๆบริเวณเมืองซอลท์เลคซิตี้ โดยบาวน์ กล่าวว่า “Nebulae Entertainment ได้รับสิทธิพิเศษเป็นครั้งแรกเพื่อดำเนินการถ่ายทำในสถานที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัย Utah Valley University เป็นที่รู้จักกันดีถึงกิจกรรมนอกสถานที่ที่สามารถเข้าร่วมได้ตลอดทั้งปี เช่น การเดินเขา ตั้งแคมป์ ปีนผา สกีน้ำ สกีหิมะ และเรือแคนู ท่ามกลางฉากหลังอันน่าทึ่งเหล่านี้ ภูมิทัศน์ภายนอกประกอบฉากภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะถูกแปลงโฉมเสมือนกลุ่มคัลท์สมัย pre-Roman โบราณ ก่อนยุคของกลุ่มอิลูมินาติ ในรูปแบบสมาคมลับชื่อ Vera Ipsum Liani "Vii" พร้อมเรื่องราวความโรแมนติกและดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัย”
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์ทุ่มทุนสร้างเรื่องแรกที่ถ่ายทำในยูทาห์ทั้งหมด โดยทารา สตาร์ลิง เมคอัพอาร์ทติสที่อยู่ในวงการมาถึง 14 ปี แสดงความรู้สึกต่อภาพยนตร์ว่า “ยูทาห์มีผู้สร้างภาพยนตร์มากความสามารถมากมาย และเราต่างรอคอยโปรเจกต์ยิ่งใหญ่เช่นนี้มานานหลายปี ทั้งนี้ The Janus Project จะไม่ได้เพียงปฏิวัติโลกเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยูทาห์ที่มีศักยภาพ สามารถเฉิดฉายอย่างสง่างามบนแผนที่โลก”
ความสัมพันธ์ระหว่างเนียร์แมน และเพื่อนร่วมสนามรบในอัฟกานิสถานและทั่วโลกนั้น สื่อออกมาให้เห็นในรูปแบบกองทุนต่างๆที่ทาง Nebulae Entertainment และผลงานภาพยนตร์ของค่ายหนัง ได้จัดสรรให้แก่บรรดาพันธมิตรทางการกุศลอย่าง Final Honors ( www.finalhonors.org ) องค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ให้การสนับสนุนครอบครัวของวีรบุรุษที่เสียชีวิตในสนามรบ เพื่อยกย่องการอุทิศตนรับใช้ชาติ อีกทั้งจัดหาสวัสดิการช่วยเหลือและให้โอกาสที่อาจจะสูญหายไปหรือไม่ได้รับ โดยเกรก จอห์นสัน ทนายความประจำ Nebulae Entertainment และเนียร์แมน กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของคุณเนียร์แมนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันยอดเยี่ยมผ่านทางจอภาพยนตร์ และให้การสนับสนุนผู้คนตามเหตุสมควรจากรายได้นั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถดึงดูดผู้คนสู่ Nebulae Entertainment ได้เป็นจำนวนมาก”
ผู้บริหารระดับสูงของ Nebulae Entertainment ประกอบไปด้วย: นาธาน ดี เนียร์แมน – ซีอีโอ/ซีซีโอ, ลินดา บาวน์ – ซีโอโอ/ผู้จัดการธุรกิจ, สตีฟ บาวน์ – รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาด/การขาย, บ็อบ นิโคลล์ – รองประธานฝ่ายขาย, เกรก จอห์นสัน – ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย, บรู๊ค เบนท์ลีย์ – ผู้ช่วยผู้บริหาร/ผู้กำกับการคัดเลือกตัวแสดง, ดิลลอน เกรฟส์ - ฝ่ายโซเชียลมีเดียและผู้กำกับฝ่ายครีเอทีฟ, เบร โฮเฟลด์ – ผู้จัดการฝ่ายการตลาด/ โซเชียลเน็ตเวิร์ก, ซาวันนา ลูจาน – ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายโซเชียลมีเดียและบล็อก รวมถึงทีมครีเอทีฟซึ่งประกอบไปด้วย เด็นเวอร์ ฮาร์วาร์ด, ชอน กูลี่ย์ และเดนนิส เนียร์แมน
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรรอบ pre-sale ได้แล้ววันนี้ที่ www.thejanusprojectfilm.com
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ - บรูซ เมอร์ริน
โทร 702.367.0331
อีเมล: merrinpr@lvcoxmail.com
www.celebrityspeakersentertainment.com