อินเดียนาโปลิส--22 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
บริษัทดาวอีลันโคได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะทำการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาฆ่าแมลงเดอร์สบาน โดยการตัดสินใจดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนรายละเอียด 10 ประการในการส่งเสริมการความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการประกาศไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ดร.เพอร์รี่ เกห์ริง รองประธานฝ่ายการวิจัยและการพัฒนาของบริษัทดาวอีลันโคได้กล่าวว่า "เราพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าในด้านความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ โดยเรามีความมุ่งมั่นในการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้านโรคระบาดวิทยาที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเรา
ดร.เกห์ริงได้กล่าวว่า ทางบริษัทจะใช้ความเชี่ยวชาญของคณะผู้วิจัยอิสระในการช่วยออกแบบและทำการวิจัยเพิ่มเติม และเป็นสิ่งสำคัญที่งานวิจัยต้องมีความเหมาะสมทางวิทยาศาสตร์ และเกี่ยวข้องกับการประเมินต่อไปถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในการใช้ผลิตภัณฑ์ โดยการตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการวางแผนการวิจัยอย่างเพิ่มเติมโดยสมัครใจได้มีขึ้น หลังการประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระหว่างประเทศที่เรียกประชุมโดยทางบริษัทเพื่อทำการประเมินความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เดอร์สบาน
หลังการพิจารณาทบทวนของคณะกรรมการดังกล่าว สมาชิกทั้ง 8 ของคณะกรรมการได้ตกลงกันว่า ข้อมูลที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอที่จะแสดงหลักฐานเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยคณะนักวิจัยได้พิจารณาหลักฐานเกี่ยวกับผิดปรกติที่หลากหลายในด้านประสาท, พฤติกรรม และภูมิคุ้มกัน, ความไวด้านต่างๆต่อสารเคมี และความผิดปรกติในการให้กำเนิดบุตร ซึ่งหลังการทบทวนโดยละเอียดแล้ว ทางคณะกรรมการก็ได้สรุปว่า การใช้ผลิตภัณฑ์เดอร์สบานไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดภาวะดังกล่าวแต่อย่างใด
นักวิจัย 5 คนในคณะกรรมการดังกล่าวได้เสนอว่า ไม่จำเป็นต้องมีการวิจัยต่อไป โดยได้กล่าวว่า สาร chlorpyrifos ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีฤทธิ์แรงในยาฆ่าแมลงเดอร์สบาน "ได้มีการใช้อยู่โดยทั่วไป รวมทั้งได้มีการศึกษากันอย่างกว้างขวางด้วย" และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความวิตกว่า สารดังกล่าวจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อสุขภาพของมนุษย์นอกเหนือจากผลกระทบที่ทราบกันทั่วไปที่เกี่ยวกับพิษที่รุนแรง"
ส่วนนักวิจัย 3 คนได้เสนอให้มีการศึกษาต่อไป อาทิ การศึกษากลุ่มคนงานฝ่ายการผลิตที่ต้องสัมผัสกับสารดังกล่าวในระยะยาวในระดับที่สูงกว่าประชาชนทั่วไป โดยในการเลือกทำการวิจัยเพิ่มเติมนั้น บริษัทดาวอีลันโคได้ปฏิบัติตามข้อเสนอของเสียงส่วนน้อยของคณะกรรมการ ซึ่งดร.มาร์เซีย แวน เจเมิร์ต อดีตหัวหน้าสาขาของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (อีพีเอ) ฝ่ายพิษของยาปราบศัตรูพืช ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ทางคณะกรรมการและประธานคณะกรรมการในฐานะผู้ประสานงานได้กล่าวว่า "ระดับของความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการชุดนี้มีความโดดเด่นอย่างมาก"
ดร.เจเมิร์ตได้ระบุว่า "เราไม่สามารถหาคณะนักวิจัยที่ดีกว่านี้หรือได้รับความเชื่อถือมากกว่านี้อีกแล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีความเข้มงวดมากในเรื่อข้อมูล, มีพลัง และเข้าใจความนัยของงานของตน โดยทุกคนทำหน้าที่ของตนได้ดีมาก" ทั้งนี้ คณะกรรมการได้ประชุมกันเพื่อทำการพิจารณาทบทวนในวันที่ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมาในขณะที่คณะผู้สังเกตการณ์จากอีพีเอและจากทางบริษัทได้เข้าร่วมด้วย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ทางคณะกรรมการก็ได้ออกรายงานฉบับสุดท้ายที่สรุปผลการพิจารณาทบทวนของทางคณะกรรมการ
ดร.เกห์ริงได้กล่าวว่า "สาร chlorpyrifos ได้ผ่านการพิจารณาทบทวนมามากแล้ว โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการศึกษากว่า 3,600 ครั้ง เพื่อประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ไม่เคยมีการประเมินผลิตภัณฑ์อื่นๆละเอียดไปมากกว่านี้ ซึ่งการศึกษาของทางคณะกรรมการได้ช่วยสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับความมุ่งมั่นของเราที่อิงกับการศึกษาอย่างกว้างขวาง และการใช้มาเป็นเวลานาน 30 ปีที่ว่า ผลิตภัณฑ์เดอร์สบานเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยผู้ใช้ในครัวเรือน, ชาวสวน, ผู้ประยุกต์ใช้มืออาชีพ และอื่นๆ โดยได้มีการวิจัยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาอย่างกว้างขวางแล้ว และทางบริษัทดาวอีลันโคก็จะทำการปรับปรุงการทดลองนี้ให้ทันสมัยต่อไปในทุกๆปีด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ"
ทั้งนี้ บริษัทดาวอีลันโคเป็นบริษัทระดับโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการปราบศัตรูพืช และการบำรุงรักษาผลผลิต --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--