เพอร์เชส, นิวยอร์ก--12 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- อัลบัมใหม่เพื่อเฉลิมฉลองภาพและเสียงอันเป็นสากลของกีฬาฟุตบอล
- ผู้กำกับและศิลปินสุดฮอตที่ร่วมโชว์ฝีมือประกอบด้วย Kelly Rowland, Janelle Monae, Rita Ora, Don Omar, R3hab, Spike Lee, Idris Elba, Jessy Terrero, Diego Luna และอีกคับคั่ง
#FUTBOLNOW – เป๊ปซี่ (R) ประกาศเปิดตัวอัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game ซึ่งรวม 11 เพลงพิเศษและหนังสั้นประกอบเพลง (ฟิล์มแทร็ก) ที่นำเสนอจิตวิญญาณ ภาพ และเสียงอันตราตรึงของฟุตบอล อันเป็นเกมการแข่งขันที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก โดยศิลปินฮิตติดชาร์จและผู้กำกับมือรางวัลจะร่วมกันแสดงฝีมือในอัลบัมนี้เพื่อแสดงพลังของบทเพลง ภาพยนตร์ และกีฬา ซึ่งไม่อาจแยกจากกันได้
รูปภาพ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20140509/86238
อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game รวบรวมศิลปินชื่อดังและศิลปินดาวรุ่งจากทั่วโลก ได้แก่ Kelly Rowland, Janelle Monae, Rita Ora, Don Omar, Santigold, Timbaland, R3hab และ Jetta รวมถึงศิลปินดังระดับชาติอย่าง Pearls Negras (บราซิล), Jolin Tsai Yl-ling (จีน) และ Hassan El Shafei (อียิปต์)
เพลงของศิลปินในอัลบัมนี้จะเป็นแรงบันดาลใจในการทำหนังสั้น 11 เรื่องโดยฝีมือของผู้กำกับไฟแรง อาทิ Spike Lee, Idris Elba, Jessy Terrero, Diego Luna, Andy Morahan, The Kolton Brothers และอื่นๆ ซึ่งจะมาสร้างสรรค์เรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงแต่ละเพลง
ทุกๆสัปดาห์ เป๊ปซี่จะทยอยเปิดตัวแต่ละซิงเกิลทาง iTunes store และให้ชมฟิล์มแทร็กฟรีในวันเดียวกันทางเว็บไซต์ www.pepsi.com/thegame รวมถึงแชนแชลของศิลปินบน YouTube และ Vevo
ผลงานชิ้นแรกที่เปิดตัวในวันนี้คือ ฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Young Astronauts โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “Heroes” ที่ Janelle Monae นำเพลงต้นฉบับของ David Bowie มาคัฟเวอร์และเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้
Frank Cooper III ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ทั่วโลก บริษัท เป๊ปซี่โค โกลบอล เบเวอเรจส์ กรุ๊ป กล่าวว่า "อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game ยกย่องความสามารถทางศิลปะอันหลากหลายและผสมผสานศิลปะสองรูปแบบที่แยกกันแทบไม่ออกเข้าไว้ด้วยกัน อัลบัมนี้ทำให้เราได้ยกระดับศิลปะเหล่านี้ให้ทัดเทียมศิลปะแขนงอื่นและแสดงผลงานสู่ระดับสากล คำว่า “Beats” ในที่นี้หมายถึงทั้งภาพและเสียงที่สื่อถึงจิตวิญญาณของฟุตบอล โดยเพลงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ ขณะที่ภาพยนตร์ก็ทำให้เข้าใจความหมายของเพลงได้ดีขึ้น"
นอกจากนี้ อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและสร้างแรงผลักดันให้แก่ผู้ที่ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับกีฬาฟุตบอล โดยเป๊ปซี่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Cine Favela องค์กรด้านวัฒนธรรมที่ไม่แสวงผลกำไร เพื่อให้ความรู้และสนับสนุนอุปกรณ์ในการทำหนังแก่นักสร้างหนังรุ่นใหม่ทั่วบราซิล ทั้งนี้ ศิษย์เก่าของ Cine Favela ได้สร้างหนังจากเพลง "Guerreira" ของศิลปิน Pearls Negras ซึ่งแสดงถึงพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้น ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณจากชุมชนแออัดของบราซิล
อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game ซึ่งเป็นการผสมผสานเพลง ภาพยนตร์ และฟุตบอลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเป๊ปซี่ ได้นำเสนอภาพ เสียง และเรื่องราวที่กระตุ้นโสตประสาทและหลอมรวมแฟนบอลทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียว เพลงแต่ละเพลงในอัลบัมจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความมุ่งมั่น และความเข้มข้น เช่นเดียวกับลีลาของนักเตะในสนามฟุตบอล
อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game ทั้งหมด 11 เพลง (จัดจำหน่ายโดยบริษัท Caroline) จะวางแผงทั่วโลกในวันที่ 9 มิถุนายน และในสหรัฐอเมริกาวันที่ 10 มิถุนายน สำหรับตอนนี้สามารถเข้าไปซื้ออัลบัมก่อนวางแผงได้ที่ iTunes
“ฉันรู้สึกสนใจ "The Game" ในทันที เพราะสิ่งที่สื่อออกมาคือการก้าวข้าวอุปสรรคและค้นพบตัวตนของตนเอง สิ่งที่สื่อออกมามีความสำคัญมาก และฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับเป๊ปซี่ในโปรเจคท์นี้ ซึ่งเป็นการนำดนตรี กีฬา และภาพยนตร์มารวมไว้ด้วยกัน” Kelly Rowland กล่าว “ในฐานะที่เป็นศิลปิน แฟนกีฬา และคอหนัง ประสบการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่วิเศษมาก”
อัลบัมเต็มประกอบด้วย
- เพลง "Heroes" โดย Janelle Monae พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Young Astronauts
- เพลง "Pura Vida" โดย Don Omar พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Jessy Terrero
- เพลง "I Will Never Let You Down (Switch Remix)" โดย Rita Ora พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Diego Luna
- เพลง "Unstoppable" โดย R3hab feat. Eva Simons พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Idris Elba
- เพลง "Crescendo" โดย Jetta
- เพลง "The Game" โดย Kelly Rowland พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Spike Lee
- เพลง "Kicking Down Doors" โดย Santigold พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Andy Morahan
- เพลง "Whoever We Are" โดย Timbaland และ Rachel Assil พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย The Kolton Brothers
- เพลง "Guerreira" โดย Pearls Negras พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Cine Favela
- เพลง "Now is the Time" โดย Jolin Tsai Yl-ling พร้อมฟิล์มแทร็กที่กำกับโดย Cai Yiqi
- เพลง "Ahlam Men Gedial" โดย Hassan el Shafei
Dominic Pandiscia กรรมการผู้จัดการบริษัท Caroline กล่าวว่า " Caroline และเป๊ปซี่แบ่งปันทัศนคติในการเปิดเวทีให้แก่ศิลปินผู้มีความสามารถ เพื่อยกระดับวงการดนตรีในระดับสากล อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game แสดงจิตวิญญาณของฟุตบอลได้อย่างตรงจุด และเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้สนับสนุนศิลปินทั่วโลกที่มีความสามารถหลากหลาย"
อัลบัม Pepsi Beats of the Beautiful Game เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญฟุตบอลประจำปี 2557 ของเป๊ปซี่ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเปิดตัวโฆษณา "Now Is What You Make It" ไปทั่วโลก รวมถึงคอลเล็กชั่นศิลปะ "The Art of Football" ทั้งนี้ แคมเปญของเป๊ปซี่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆให้กับแฟนบอลไปตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้แฟนบอลได้ใกล้ชิดกับเกมการแข่งขันที่ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป๊ปซี่ และ "Live For Now" ได้ที่ www.pepsi.com และติดตามการสนทนาออนไลน์ได้ทาง #FutbolNow
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับเป๊ปซี่โค
เป๊ปซี่โค เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของโลก ด้วยรายได้สุทธิมากกว่า 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ อีกทั้งมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ถึง 22 แบรนด์ โดยแต่ละแบรนด์มียอดขายปลีกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งได้แก่ เควกเกอร์ ทรอปิคานา เกเตอเรด ฟริโต-เลย์ และเป๊ปซี่-โคล่า ได้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มอันเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั่วโลกหลายร้อยชนิด บุคลากรของเป๊ปซี่โคต่างมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนที่มีคุณภาพมากขึ้นในอนาคตเพื่อบุคลากรและโลกของเรา ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีความหมายต่ออนาคตแห่งความสำเร็จสำหรับเป๊ปซี่โคอีกด้วย เราเรียกความมุ่งมั่นนี้ว่า การดำเนินงานอย่างมีจุดมุ่งหมาย (Performance with Purpose) เป๊ปซี่โคให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และคิดค้นแนวทางใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการประหยัดพลังงานและน้ำ ลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานแก่ผู้ร่วมงาน รวมถึงให้ความเคารพ สนับสนุน และลงทุนในชุมชนที่เราดำเนินงาน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ www.pepsico.com
เกี่ยวกับ Caroline
Caroline ซึ่งกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในปี 2556 เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านดนตรีแก่ศิลปินและค่ายเพลงอิสระ Caroline แตกกิจการมาจาก EMI Label Services ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจาก Caroline Distribution (หนึ่งในบริษัทจัดจำหน่ายเพลงอิสระรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 30 ปี Caroline ให้บริการแก่ศิลปินและค่ายเพลงอิสระมากมาย อาทิ ATO Records, Hopeless Records, Welk Music Group, Votive, Dine Alone, Prospect Park, Alter Bridge, Slash, Tyrese, Raekwon, Candlelight และอื่นๆ บริการของบริษัทมีตั้งแต่การตลาดเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการโฆษณาผ่านสื่อวิทยุ การตลาดออนไลน์ การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ การประสานงานเพื่อจัดทัวร์คอนเสิร์ต รวมถึงการสร้างแบรนด์และการประสานงานต่างๆ บริษัทให้บริการแก่ศิลปินและค่ายเพลงอิสระทั่วโลกด้วยระบบที่สามารถเข้าถึงทุกตลาดทั่วโลก
Caroline ซึ่งบริหารงานโดย Dominic Pandiscia กรรมการผู้จัดการบริษัท ได้กำหนดนิยามความสำคัญของวัฒนธรรมและจิตวิญญาณที่เป็นอิสระ และนำเสนอสิ่งเหล่านี้สู่ตลาด นอกจากนี้ ความมุ่งมั่น ความรัก และความกระตือรือร้น ยังเป็นแรงผลักดันที่ทำให้บริษัทนำเสนอบริการที่มีความโปร่งใส ยืดหยุ่น และเฉพาะเจาะจง เพื่อสนับสนุนและหล่อหลอมบรรดาศิลปินและค่ายเพลงอิสระ
เมื่อก่อน Caroline Distribution เป็นเวทีที่ทำให้ศิลปินมากมายได้เปิดตัว เช่น Smashing Pumpkins, Hole, White Zombie, Ben Folds และ The Chemical Brothers ปัจจุบัน Caroline ก็ยังคงทุ่มเทให้กับการพัฒนาศิลปินและค่ายเพลงอิสระ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้แสดงศักยภาพสูงสุด
เกี่ยวกับ Cine Favela
ในปี 2546 ชาวบ้านในชุมชนแออัดเฮลิโอโปลิส ได้รวมตัวกันเพื่อสนับสนุนให้เยาวชนด้อยโอกาสจากแถบชานเมืองเซาเปาโลได้มีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมผ่านสื่อภาพยนตร์และละครเวที จากนั้นในปี 2547 ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้ก่อตั้ง ACAHS (Associacao Cultural Artistica de Heliopolis e Sacoma) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักในนาม ASSOCIACAO CULTURAL ARTISTICA CINE FAVELA (Cine Favela Cultural Artistic Association) ดังนั้น Cine Favela จึงเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในชุมชนแออัด โดยตั้งชื่อให้สัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ทางด้านสังคมและวัฒนธรรม ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง Cine Favela ได้จัดเทศกาล FESTIVAL CINE FAVELA DE CINEMA อย่างต่อเนื่องจนมาถึงครั้งที่ 9 ในปี 2557 เทศกาลดังกล่าวดึงดูดผู้คนกว่า 20,000 คนจากทั่วบราซิล และมีกิจกรรมเชิงปฏิบัติให้เยาวชนกว่า 350 คนเข้าร่วม นอกจากนั้นยังมีการฉายภาพยนตร์บราซิลและนานาชาติกว่า 450 เรื่อง ซึ่งสร้างสรรค์โดยองค์กรทางวัฒนธรรม องค์กรเอ็นจีโอ กลุ่มศิลปิน โครงการทางสังคม และคนทำหนังอิสระ เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลภาพยนตร์ “ชายขอบ” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก