สิงคโปร์--3 ก.ค.--ซีเอ็นดับบลิว-เอเชียเน็ท
นายอาร์ เอ็ดเวิร์ด ฟลัด ประธานบริษัท และนายโรเบิร์ต เอ็ม ฟรีดแลนด์ ประธานคณะกรรมการบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้ บรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการผู้อำนวยการของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ในการปรับโครง สร้างการเป็นเจ้าของกิจการ และการจัดหาเงินสนับสนุนการผลิตสำหรับโครงการเหมือง ทองคำบาเคียร์ชิกทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาซัคสถาน
ถ้าข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ในลอนดอนแล้ว ก็จะทำให้บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์เข้าไปถือหุ้นอีก 65 % มูลค่า ประมาณ 65 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในบริษัทเซ็นทรัล เอเชียน ไมนิ่ง (ซีเอเอ็มแอล) ซึ่ง เป็นเจ้าของเหมืองบาเคียร์ชิก และเป็นบริษัทในเครือบาเคียร์ชิก โกลด์ โดยได้มีการแจ้ง ให้รัฐบาลคาซัคสถานทราบถึงการซื้อขายดังกล่าวแล้ว
บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ที่ในปัจจุบันมีสิทธิ์ในการถือครองหุ้น 15 % ใน โครงการดังกล่าว จะเข้าไปถือครองหุ้นทั้งหมดในซีเอเอ็มแอลเป็นจำนวน 80 % และจะ เป็นผู้ดำเนินการเหมือง โดยบริษัทมินพร็อค เอ็นจิเนียร์ จำกัดในเพิร์ธ ประเทศออสเตร เลีย ได้ทำการประมาณในพื้นที่ทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ผลผลิตแน่นอน (ดีเอฟ เอส) ว่จะมีผลผลิตประมาณ 10.5 ล้านออนซ์ และบริษัทเวสเทิร์น เซอร์วิส เอ็นจิเนียริ่ง ในซาน รามอน รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประมาณว่าผลผลิตนอกพื้นที่ดีเอฟเอสจะมีอีก 2.5 ล้าน ออนซ์ สำหรับผลผลิตทองคำนั้นรวมทั้งหมดจะได้ประมาณ 13 ล้านออนซ์
ตามที่ได้มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ ในแผนปัจจุบันจะมีการพัฒนาเหมืองแห่งนี้ โดยแบ่งเป็นหลายระยะ
- การผลิตในระยะที่ 1 ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะเริ่มปลายปีหน้า จะรวมถึงการ ทำเหมืองแร่ในปริมาณ 400,000 ตันต่อปี โดยจะได้ทองคำประมาณ 100,000 ออนซ์ต่อปี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีของกระบวนการต่างๆในคาซัค สถาน โดยบริษัทคเวอร์เนอร์ เมทัลส์ในโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา จะเป็นผู้รับผิดชอบใน เรื่องวิศวกรรมและการออกแบบการก่อสร้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินการในระยะ ที่ 1 นี้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 130 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยรวมถึงเงินทุนในการดำเนินงาน ด้วย
- จากการศึกษาถึงความเป็นไปได้ด้านการเงินที่เสร็จสิ้นลงในเดือนมี.ค.ที่ ผ่านมาของบริษัทมินพร็อค เอ็นจิเนียร์ในเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียนั้น คาดว่าในระยะที่ 2 จะขยายการทำเหมืองแร่ไปสู่ระดับประมาณ 1 ล้านตันต่อปี โดยจะให้ผลผลิตทองคำ ประมาณ 275,000 ออนซ์ต่อปี ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดในการดำเนินการระยะที่ 2 นี้ ประมาณว่าจะอยู่ที่ระดับระหว่าง 120-140 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทคเวอร์เนอร์กำลังทำการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อระบุถึงระดับ การผลิตที่เหมาะสมสำหรับการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเหมืองทองบาเคียร์ชิก ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทซีเอเอ็มแอลเป็นบริษัทในเครือที่บาเคียร์ชิก โกลด์ถือหุ้นทั้งหมดแต่เพียงผู้ เดียว แต่หลังจากที่การปรับโครงสร้างดังกล่าวข้างต้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ก็จะถือหุ้น 80 % ในซีเอเอ็มแอล ซึ่งเป็นเจ้าของเหมืองบาเคียร์ชิก และบริษัท บาเคียร์ชิก โกลด์จะถือหุ้น 20 % ในซีเอเอ็มแอล นอกจากนี้ อินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ จะ ยังคงถือหุ้นที่มีอยู่ 28 % ในบาเคียร์ชิก โกลด์
ข้อตกลงการปรับโครงสร้างดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของทั้ง บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ และบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ และในฐานะส่วนหนึ่งของการ ปรับโครงสร้าง บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ก็ได้ทำการรับประกันเงินกู้ถึง 45 ล้านดอล ล่าร์สหรัฐที่บริษัทเจราลด์ เมทัลส์ อิงก์ ให้กับซีเอเอ็มแอล โดยบริษัทเจราลด์ เมทัลส์ใน สแตมฟอร์ด รัฐคอนเนคติกัตนั้น เป็นบริษัทดำเนินการธุรกิจโลหะระหว่างประเทศ และเป็น ผู้จัดหาเงินสนับสนุนแก่อุตสาหกรรมเหมืองแร่
เงิน 15 ล้านดอลล่าร์จากจำนวนดังกล่าวจะใช้ไปในการชำระเงินงวดที่ 2 แก่รัฐบาลคาซัคสถานในการซื้อเหมืองแบบเงินผ่อนที่ระดับราคา 45 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนเงินที่เหลือ 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐนั้นจะนำไปใช้ในการเริ่มก่อสร้างเหมืองและใช้เป็น เงินทุนในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ เงินจำนวน 65 ล้านดอลล่าร์สหรัฐที่บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์จะจ่าย ในการเข้าถือหุ้นเพิ่มในเหมืองบาเคียร์ชิกจะประกอบด้วย :
- 15 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ที่จะเป็นการชำระคืนให้กับบริษัทเจราลด์ เมทัลส์ ในส่วนเงินกู้ที่ใช้ในการชำระเงินงวดที่ 2 ในการซื้อเหมืองจากรัฐบาลคาซัคสถาน
- 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ที่จะเป็นการชำระเงิน 2 งวดสุดท้าย งวดละ 15 ล้านดอลล่าร์ ที่จะครบกำหนดชำระให้กับรัฐบาลคาซัคสถานใน 10 เดือนข้างหน้า
- 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ที่จะเป็นการยุติเงินกู้ที่ให้เป็นเงินทุนในการดำเนิน การ ซึ่งอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ได้ให้กับบาเคียร์ชิก โกลด์ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นอก จากนี้ การถือว่าเงินกู้ดังกล่าวสิ้นสุดลงนั้นยังทำให้บาเคียร์ชิก โกลด์ได้เงินทุนในการดำเนิน งานประมาณ 4.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐสำหรับการใช้ประโยชน์ทั่วไปของทางบริษัท
บริษัทเจราลด์ เมทัลส์ ได้รับการติดต่อให้จัดหาเงินสนับสนุนโครงการ เพื่อ ให้การพัฒนาเหมืองบาเคียร์ชิกในระยะที่ 1 เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ การระดมทุนสนับสนุน โครงการจะครอบคลุมถึงการชำระคืนส่วนที่เหลือจำนวน 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐของเงินกู้ จากเจราลด์ เมทัลส์
ส่วนข้อกำหนดอื่นๆของข้อตกลงการปรับโครงสร้างรวมถึง :
- บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ จะให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อ ความจำเป็นด้านหลักทรัพย์ของโครงการในนามของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ในขณะที่การ ชำระคืนนั้นจะนำเงินมาจากรายได้จากการผลิตในอนาคต
- บริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ จะยังคงมีสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 10 % ในซี เอ็มเอ็มแอลที่ราคา 1 ล้านดอลล่าร์ต่อ 1 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าจะได้รับการยืนยันสำหรับ การให้เงินสนับสนุนโครงการ
- จะมีการทำข้อตกลงแยกต่างหาก สำหรับการสำรวจเหมืองทองแห่งใหม่ใน พื้นที่ประมาณ 80 ตารางกิโลเมตรภายในเขตที่ได้รับอนุญาตในการสำรวจรอบเหมืองบา เคียร์ชิก โดยบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์จะถือหุ้น 15 % ในแผนการสำรวจ ส่วนที่เหลือ นั้นจะเป็นของบริษัทบาเคียร์ชิก โกลด์ ที่จะดำเนินการจัดการแผนดังกล่าว
ทั้งนี้ พอร์ตฟอลิโอสินทรัพย์อื่นๆของอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ได้รวมถึง สินทรัพย์ ทองคำและทองแดง และผลประโยชน์อื่นๆในเมียนม่าร์, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, เวียด นาม และฟิจิ ซึ่งหุ้นของทางบริษัทนั้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต และในตลาดหลัก ทรัพย์ออสเตรเลีย โดยใช้ชื่อว่า ING ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินโด ไชน่า โกลด์ฟิลด์ และโครงการของทางบริษัท จะสามารถเรียกดูได้ในเว็บไซท์ของทาง บริษัทที่รหัส http://www.goldfields.com --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--