ASIANET: โตชิบารายงานผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 1999

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 16, 1999 11:00 —Asianet Press Release

โตเกียว--16 พ.ย.--เกียวโด เจบีเอ็น-เอเชียเน็ต
บริษัทโตชิบา คอร์เปอเรชั่น ได้ประกาศผลประกอบการรวมสำหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ถึง 30 ก.ย. ปี 1999 ซึ่งเป็นช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. ปี 2000
การดำเนินงานของบริษัทโตชิบาและบริษัทในเครือยังคงประสบความยากลำบากตลอดช่วงเวลาดังกล่าว แม้ว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศก็ตาม ในขณะที่บริษัทยังคงดำเนินความพยายามในการปรับโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสุทธิของบริษัทได้เพิ่มขึ้น 5 % สู่ระดับ 2,622,464 ล้านเยน (ประมาณ 24,509 ล้านดอลลาร์) โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์, ผลิตภัณฑ์แอลซีดี รวมถึงตลาดภายในประเทศสำหรับพีซีและโทรศัพท์ระบบเซลลูลาร์
ส่วนรายได้สุทธิของบริษัทลดลงสู่ระดับ -48,323 ล้านเยน (-452 ล้านดอลลาร์) อันเป็นผลมาจากการลดลงเกินความคาดหมายของราคา DRAM 128 เมกะบิตและชิพหน่วยความจำรุ่นอื่นๆ, ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงในธุรกิจ LSI รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์
บริษัทโตชิบาได้ปรับกลุ่มธุรกิจจาก 5 กลุ่มเป็น 6 กลุ่มหลังการเปิดตัวระบบบริษัทภายในเมื่อเดือนเม.ย.ปี 1999 โดยกลุ่ม 6 ธุรกิจได้แก่ กลุ่มระบบอุตสาหกรรมและการสื่อสารข้อมูล, กลุ่มสื่อระบบดิจิตัล, กลุ่มระบบไฟฟ้า, กลุ่มชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอื่นๆ
ยอดขายของกลุ่มธุรกิจต่างๆมีดังนี้
กลุ่มระบบอุตสาหกรรมและการสื่อสารข้อมูลมียอดขายเพิ่มขึ้น 17 % สู่ระดับ 828,461 ล้านเยน (7,743 ล้านดอลลาร์), กลุ่มสื่อระบบดิจิตัลมียอดขายเพิ่มขึ้น 2 % สู่ระดับ 706,000 ล้านเยน (6,598 ล้านดอลลาร์), กลุ่มระบบไฟฟ้ามียอดขายทรงตัวที่ระดับ 253,303 ล้านเยน (2,367 ล้านดอลลาร์), กลุ่มชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคมียอดขายเพิ่มขึ้น 8 % สู่ระดับ 684,299 ล้านเยน (6,396 ล้านดอลลาร์), กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดขายลดลง 6 % สู่ระดับ 340,183 ล้านเยน (3,179 ล้านดอลลาร์) และกลุ่มอื่นๆมียอดขายลดลง 2 % สู่ระดับ 208,000 ล้านเยน (1,944 ล้านดอลลาร์)
รายได้จากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจต่างๆมีดังนี้
กลุ่มระบบอุตสาหกรรมและการสื่อสารข้อมูลมีรายได้ลดลง 160 ล้านเยน (1.5 ล้านดอลลาร์) สู่ระดับ -2,385 ล้านเยน (-22 ล้านดอลลาร์), กลุ่มสื่อระบบดิจิตัลมีรายได้ร่วงลง 30 % สู่ระดับ 18,047 ล้านเยน (168 ล้านดอลลาร์), กลุ่มระบบไฟฟ้ามีรายได้ทรุดลง 59 % สู่ระดับ 2,426 ล้านเยน (23 ล้านดอลลาร์), กลุ่มชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคมีรายได้ลดลง 35,592 ล้านเยน (333 ล้านดอลลาร์) สู่ระดับ -64,933 ล้านเยน (-607 ล้านดอลลาร์), กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ามีรายได้เพิ่มขึ้น 19,129 ล้านเยน (179 ล้านดอลลาร์) สู่ระดับ 1,471 ล้านเยน (14 ล้านดอลลาร์) และกลุ่มอื่นๆมีรายได้พุ่งขึ้น 33 % สู่ระดับ 15,594 ล้านเยน (146 ล้านดอลลาร์)
การคาดการณ์ยอดขายสำหรับปีงบการเงิน 1999
คาดว่าตลาดญี่ปุ่นจะยังคงฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย แม้ว่าจะมีความวิตก เช่น ในเรื่องการแกว่งตัวของอัตราแลกเปลี่ยนก็ตาม โดยบริษัทโตชิบา คอร์เปอเรชั่นคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของยอดขายรวม ในขณะที่ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ จะมียอดขายมากขึ้นและมีเสถียรภาพในด้านราคา นอกจากนี้ ยอดขายระบบข้อมูลและการสื่อสาร จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทด้วย โดยคาดว่ายอดขายต่อปีสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปี 2000 จะอยู่ที่ระดับ 5,650,000 ล้านเยน (52,804 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
คาดการณ์ยอดขายสำหรับปีงบการเงิน 1999 โดยรวม
กลุ่มระบบอุตสาหกรรมและการสื่อสารข้อมูลจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากรายได้ในเชิงบวกในช่วงครึ่งปีหลังของโครงการระบบข้อมูลและการสื่อสาร, ยอดขายของกลุ่มสื่อระบบดิจิตัลนั้นจะได้รับการกระตุ้นจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดพีซีและโทรศัพท์ระบบเซลลูลาร์, กลุ่มระบบไฟฟ้าจะมียอดขายลดลง เนื่องจากสภาวะทางธุรกิจยังคงย่ำแย่, ในขณะที่ยอดขายของกลุ่มชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคจะเพิ่มขึ้น นำโดยการขยายตัวในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์แอลซีดี, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมียอดขายลดลงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของยอดขายอุปกรณ์ส่องสว่างและเครื่องปรับอากาศและกลุ่มอื่นๆนั้นคาดว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อย
คาดการณ์รายได้จากการดำเนินงาน
เมื่อเทียบกับกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนนั้น ปีงบการเงิน 1999 นี้จะมีรายได้ลดลงในกลุ่มระบบอุตสาหกรรมและการสื่อสารข้อมูล ในขณะที่รายได้ของกลุ่มสื่อระบบดิจิตอลจะยังคงทรงตัว, รายได้ของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ในช่วงบวก และกลุ่มอื่นๆจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ของกลุ่มระบบไฟฟ้าจะลดลง และกลุ่มชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคจะมีรายได้ในการดำเนินการเพิ่มขึ้น แต่จะยังคงขาดทุน โดยทางบริษัทได้ประมาณการณ์ระดับอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 110 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สำหรับการคาดการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง
การเตรียมพร้อมของโตชิบาเพื่อรับมือกับปัญหา Y2K
1. นโยบาย
โตชิบามีความตระหนักอย่างเต็มที่ถึงผลกระทบต่อธุรกิจจากปัญหา Y2K ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดแวร์, โปรแกรมแอพพลิเคชัน, ฯลฯ) และไมโครโปรเซสเซอร์ประกอบอุปกรณ์ โดยโตชิบา ซึ่งรวมถึงสาขาและบริษัทในเครือทั่วโลก กำลังจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างแข็งขัน
โครงสร้างองค์กร
ความพยายามร่วมกันในการจัดการกับปัญหา Y2K ได้เริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ปี 1995 โดยในเดือนต.ค.ปี 1998 ได้มีการตั้งฝ่าย Year 2000 Solution Division ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่รายงานโดยตรงต่อประธาน และเป็นการริเริ่มของโครงการรับมือ Y2K ภาคเอกชนภายใต้การนำของรองประธานบริหารระดับสูง และผู้ช่วยฝ่ายบริหารของรองประธานบริหาร โดยโครงการ Y2K ประกอบด้วยกิจกรรมการดำเนินงานทั้งหมดของโตชิบา ซึ่งรวมถึงฝ่ายพนักงานองค์กร, บริษัทภายใน (ซึ่งรวมถึงโรงงาน) และสำนักงานสาขา นอกจากนี้ สาขาและบริษัทในเครือในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ยังได้ริเริ่มโครงการ Y2K ของตนเองด้วย ซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์กรกำกับดูแลในโตชิบา
สถานการณ์ปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของโตชิบาได้รับการตรวจสอบเพื่อเตรียมพร้อมรองรับปัญหา Y2K แล้ว หากผลิตภัณฑ์ตัวใดต้องได้รับการแก้ไขปัญหา Y2K โตชิบาจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงผลกระทบดังกล่าว และจะมีการดำเนินมาตรการต่างๆภายหลังการหารือกับลูกค้า
ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหา Y2K
ระบบสารสนเทศของโตชิบาและโตชิบา กรุ๊ปกำลังได้รับการปรับโครงสร้างผ่านทางการใช้มาตรการ ERP และมาตรการแก้ไขปัญหา Y2K ก็ได้ถูกบรรจุไว้ในการปรับโครงสร้างดังกล่าวด้วย โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับมาตรการ Y2K จะมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.73 หมื่นล้านเยน ซึ่งได้มีใช้จ่ายไปแล้ว 1.42 หมื่นล้านเยนภายในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนค่าใช้จ่ายของแผนการที่มีอยู่ในขณะนี้ซึ่งรวมถึงมาตรการ Y2K เช่นการปรับโครงสร้างระบบสารสนเทศนั้น คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 2.82 หมื่นล้านเยน ซึ่งได้มีการใช้จ่ายไปแล้ว 2.45 หมื่นล้านเยนภายในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีความจำเป็นและเพียงพอกับมาตรการ Y2K
แผนการรองรับ
ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากสิ้นปี 1999 เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นปี 2000 (วันที่ 25 ธ.ค. ปี 1999 ถึงวันที่ 12 ม.ค. ปี 2000 รวมทั้งช่วงวันที่ 28 ก.พ.ถึงวันที่ 1 มี.ค.ปี 2000) บริษัทโตชิบา คอร์เปอเรชั่น จะจัดตั้งบริการสายด่วนสำหรับการตอบข้อซักถามตลอด 24 ชม.เพื่อให้การสนับสนุนต่อลูกค้าของบริษัท โดยพนักงานที่ทำงานในฝ่ายที่เกี่ยวกับปัญหา Y2K พร้อมจะตอบข้อซักถามตลอดช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
แผนการอื่นๆ
บริษัทโตชิบาและโตชิบา กรุ๊ปกำลังส่งเสริมแนวทางการพัฒนาระบบเพื่อรองรับปัญหา Y2K ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์,เครือข่ายและระบบ อันเป็นความพยายามที่จะรับประกันว่า ลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบและจะไม่มีผลกระทบที่รุนแรงต่อกิจกรรมทางธุรกิจ
ติดต่อ: เคอิสุเกะ โอโมริ โทร 81-3-3457-2105 หรือ keisuke.oomori@toshiba.co.jp
แหล่งข่าว: โตชิบา --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียงจากข่าว # 21281--กช,สจ,สอ/กก--

แท็ก งบการเงิน   AsiaNet   asian  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ