เจนีวา--30 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
สถาบัน International AIDSVaccine Initiative (IAVI) ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์ทางวิทยาศาสตร์ระดับโลกครั้งใหม่ในการเร่งการพัฒนาวัคซีนเอดส์ให้ดำเนินไปเร็วขึ้น และได้ระบุว่า ทางสถาบันจะเริ่มดำเนินการในแผนดังกล่าวโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ และเงินทุนที่ได้มีการประกาศเมื่อไม่นานมานี้จากมูลนิธิวิลเลียม เอช เกทส์ ฟาวเดชัน, ธนาคารโลก และรัฐบาลของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ สถาบัน IAVI ซึ่งเป็นองค์กรทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรที่ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 2 ปี ได้ออกรายงาน Scientific Blueprint for AIDS Vaccine Development ในวันเปิดการประชุมเอดส์โลก โดยรายงานนี้เป็นการ รวบรวมการหารือกับผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรม, การเมือง และชุมชนมาเป็นเวลาหลายเดือนในประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศอุตสาหกรรม และรวมถึงการวิเคราะห์ความพยายามในการวิจัยและการพัฒนา (สำหรับบทความเต็มของข่าวประชาสัมพันธ์นี้และรายงาน Scientific Blueprint จะสามารถเรียกดูได้ที่ www.iavi.org.)
ดร.มาร์กาเร็ท จอห์นสตัน รองประธานฝ่ายกิจการวิทยาศาสตร์ของ IAVI ได้กล่าวว่า "โลกกำลังอยู่ในทิศทางที่จะบรรลุเป้าหมายของการมีวัคซีนเอดส์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในศตวรรษหน้า ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่นำเรากลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง แต่จะนำเรามาอยู่ในทิศทางที่จะดำเนินไปอย่างรวดเร็วด้วย" ซึ่งรายงาน Blueprint นี้ได้แสดงถึงเค้าโครงร่างกลยุทธ์ระดับโลกในการเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทดลองต่อมนุษย์
ดร.เซธ เบิร์กเลย์ ประธานของ IAVI ได้กล่าวว่า "แนวทางของ IAVI นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับ ความพยายามพัฒนาวัคซีนที่มีอยู่แล้วที่ได้มีการเน้นย้ำถึงการวิจัยพื้นฐานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ แนวทางของเราก็คือ การมุ่งตอบสนองต่อความต้องการของประเทศที่กำลังพัฒนา"
สถาบัน UNAIDS ได้เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างน้อย 30.6 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 16,000 คนในทุกๆวัน โดยดร.ปีเตอร์ ไพออต ผู้อำนวยการบริหารของสถาบัน UNAIDS ได้กล่าวว่า "วัคซีนที่ปลอดภัย, ที่มีประสิทธิภาพ, หาได้ง่าย เป็นความหวังที่เป็นจริงเพียงประการเดียวของเราในการยับยั้งโรคระบาดเอดส์" ซึ่งดร.ไพออตได้กล่าวเสริมว่า "รายงาน Scientific Blueprint ได้ให้รายละเอียดแผนที่แข็งแกร่งและจำเป็นในระดับโลกที่จะประสบความสำเร็จในช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
นอกจากนี้ ดร.เบิร์กเลย์ยังได้ประกาศถึงพันธกรณีทางการเงินใหม่ๆหลายประการที่ให้กับ IAVI ซึ่งได้รวมถึงเงินทุนจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับจากมูลนิธิวิลเลียม เอช เกทส์ ฟาวเดชัน และเงิน 200,000 ปอนด์จากกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ (DIFD) ของสหราชอาณาจักร
นายบิล เกทส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ได้กล่าวว่า "คุณเมลินดาและผมมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่โรคเอดส์เป็นส่วนหนึ่งของอดีต ซึ่งในฐานะผู้พิทักษ์และผู้ที่เชื่อถือในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เราให้ของขวัญชิ้นนี้โดยมีความหวังว่า จะสามารถพัฒนาวัคซีนที่ปลอดภัยและหาได้ง่ายเพื่อหยุดยั้งโรคเอดส์ไปตลอดกาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องทั่วโลก และความคิดสร้างสรรจากองค์กรในทุกระดับ โดยเราหวังว่า พันธกรณีของเราที่มีต่อ IAVI จะกระตุ้นให้สถาบันอื่นๆเข้าร่วมในการดำเนินการที่มีคุณค่านี้"
ดร.เบิร์กเลย์ได้กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีที่ผู้ที่มีความคิดก้าวไกล เช่น คุณบิล และคุณเมลินดา เกทส์ มีความเต็มใจที่จะลงทุนในโครงการวิทยาศาสตร์ของ IAVI" นอกจากนี้ IAVI ยังได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากมูลนิธิ Rockefeller Foundation, มูลนิธิ Starr Foundation, มูลนิธิ Alfred P. Sloan Foundation, มูลนิธิ Until There's A Cure Foundation, ธนาคารโลก, UNAIDS, โครงการ Positive Ac-tion Program ของแกล็คโซ-เวลล์คัม, มูลนิธิ Fondation Marcel Merieux และ National AIDS Trust ของอังกฤษ นอกจากนี้ เมื่อไม่นานมานี้มูลนิธิ LeviStrauss Foundation ยังเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนรายสำคัญรายแรกของ IAVI ด้วย
ภารกิจของ IAVI ก็คือ การสร้างหลักประกันถึงการพัฒนาวัคซีนเอชไอวีที่ปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ, หาได้ง่าย, สามารถป้องกันเชื้อเอชไอวีสำหรับการใช้ทั่วโลก โดยงานของ IAVI ซึ่งอิงตามโครงสร้างและตัวเร่งปฏิกริยาตามธรรมชาติ จะมุ่งเน้นไปใน 3 ด้าน อันได้แก่ การศึกษาและการสนับสนุน, การเร่งความคืบหน้าทางวิทยาศาสตร์, และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้การสนับสนุนมากขึ้นสำหรับการพัฒนาวัคซีน
ทั้งนี้ มูลนิธิวิลเลียม เอช เกทส์ ฟาวเดชัน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ได้ตั้งขึ้นในปี 1994 โดยนายบิลและนางเมลินดา เกทส์ เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ทั้ง 2 มีความสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งสาขาอย่างกว้างๆเหล่านั้นได้รวมถึง การสนับสนุนสำหรับสถาบันเกี่ยวกับการเรียนรู้ในขั้นที่สูงขึ้น, การรณรงค์ด้านเงินทุนภายในประเทศ, การเข้าใช้เทคโนโลยี และสาธารณสุขรวมทั้งประชากรทั่วโลก --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กช--