เซาเปาโล--25 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในระหว่างการจัด BUSINESS TRIP ครั้งที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 19-24 พฤศจิกายน ที่เมืองมาราเกซ ประเทศโมร็อกโก คณะกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่จากบราซิลได้ร่วมถกประเด็นธุรกิจและเปิดการเจรจาทางการทูตอย่างเข้มข้น การประชุมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดย Grupo Doria และจัดโดย LIDE – Grupo de Lideres Empresariais ('Group of Business Leaders') โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ LIDE ประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทบราซิลและบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่สุดที่ดำเนินธุรกิจในประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 52% ของจีดีพีภาคเอกชนของบราซิล ด้วยการดำเนินงานที่ยาวนานถึง 11 ปี ปัจจุบันทางกลุ่มมีบริษัทในเครือ 1,600 แห่ง และมีการดำเนินธุรกิจใน 16 ประเทศทั่วทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ซึ่งรวมถึงโมร็อกโก
ในการประชุมทวิภาคีระหว่างบราซิล-โมร็อกโก หรือ BILATERAL BRAZIL-MOROCCO MEETING คณะผู้แทนจากบราซิลได้เข้าร่วมการเจรจากับคณะเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจโมร็อกโก และภายในงานนี้ LIDE ซึ่งนำโดยประธาน Joao Doria Jr. และ CGEM – Confederation generale des entreprises du Maroc ('General Confederation of Moroccan Companies') ซึ่งนำโดย Miriem Bensalah-Chaqroun ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ ตามหลักการความร่วมมือและประสานงาน ด้วยความเคารพในเอกสิทธิ์และกฎหมายของทั้งสองประเทศ
Marconi Perillo ผู้ว่าราชการรัฐโกยาส แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจอันดีแก่รัฐโกยาส ซึ่งปัจจุบันมีความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ร่วมกับประเทศต่างๆกว่า 150 ประเทศ ผู้ว่าฯกล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายความเป็นพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมฟอสเฟต โดยโมร็อกโกมีแร่ฟอสเฟตสำรองถึง 75% ขณะที่รัฐโกยาสมีความต้องการปุ๋ยเพื่อนำไปปรับสภาพดิน” นอกจากนี้ โมร็อกโกยังเป็นประเทศที่มีระบบบริหารจัดการดีที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกา โดยมีความมั่นคงทางกฎหมายและการเมือง ตลอดจนมีอัตราภาษีที่จูงใจ
ในโอกาสนี้ ทางคณะผู้แทนเจรจายังได้เดินทางเยือนท่าเรือ Tanger-Med ซึ่งนำทีมโดยวุฒิสมาชิก Luiz Henrique da Silveira และ Luiz Fernando Furlan อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนา อุตสาหกรรม และพาณิชย์ และประธานของ LIDE Internacional ทั้งนี้ วุฒิสมาชิกเปิดเผยว่า ท่าเรือดังกล่าวมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยบราซิลจะสามารถใช้ประโยชน์จากสถานที่นี้ได้ เนื่องจากโมร็อกโกได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีร่วมกับสหภาพยุโรป ขณะที่บราซิลทำข้อตกลงร่วมกับกลุ่มประเทศเมอร์โคซูร์เท่านั้น
วุฒิสมาชิก Furlan มองว่า ท่าเรือดังกล่าวมีโครงสร้างพื้นฐานอันทันสมัย อีกทั้งมีจุดเด่นในเรื่องความรวดเร็ว “การวางแผนด้วยความรอบคอบและเป็นกลางนั้นถือเป็นคุณลักษณะสำคัญสำหรับโมร็อกโก”
Joao Doria Jr. กล่าวว่า “วาระธุรกิจในโมร็อกโกครั้งนี้ได้นำมาซึ่งการทำข้อตกลง 11 ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง Albert Einstein Hospital และ Holding Marocaine Commerciale et Financiere – Holmarcom ('Moroccan Commercial and Financial Holding Company')” โดย Claudio Lottenberg ประธานของ Einstein Hospital ระบุว่า การทำข้อตกลงดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ทั้งท้าทายและน่ายินดีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้รับการยอมรับในระดับทวีป ทั้งที่เรามีแม่แบบทางสาธารณสุขน้อยมากในละตินอเมริกา
CDN Comunicacao Corporativa
Rose Rocha: rose-rocha@cdn.com.br
โทร: (11) 3643. 2952