สิงคโปร์--6 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
น้ำมันกฤษณา ซึ่งเป็นที่ต้องการมาแต่โบราณและได้รับการยกย่องว่าเป็นของมีค่าในตะวันออกกลางและเอเชีย ได้กลายเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในวงการน้ำหอมหรูระดับโลกอย่างรวดเร็ว
น้ำมันกฤษณาอันเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความลึกลับ และกลิ่นอายจากธรรมชาตินั้น สกัดมาจากต้นกฤษณาอันเป็นไม้พื้นเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีมูลค่าสูงและมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว น้ำมันกฤษณามีประวัติอันลึกลับซับซ้อนน่าสนใจ แต่ปัจจุบันสามารถพบได้ตามบูติกและร้านค้าของแบรนด์หรูในวงการแฟชั่นชั้นสูงของปารีสและฝรั่งเศส
http://photos.prnasia.com/prnvar/20150102/8521500008-a
น้ำมันกฤษณาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ผลิตน้ำหอมชั้นแนวหน้าของโลก ซึ่งล้วนแต่ให้การยอมรับคุณภาพอันโดดเด่นและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำมันกฤษณาที่เป็นส่วนผสมของน้ำหอม นอกเหนือจากในหมู่ผู้เชี่ยวชาญแล้ว น้ำมันกฤษณายังได้รับความสนใจอย่างเหนือความคาดหมายจากบรรดานายธนาคารผู้ดูแลลูกค้ารายใหญ่ ผู้บริหารจัดการความมั่งคั่ง ตลอดจนผู้บริหารกองทุนสำหรับครอบครัวด้วยเช่นกัน
ลูกค้ากลุ่มใหม่เหล่านี้ไม่ได้ให้ความสนใจน้ำมันกฤษณาเพียงเพราะประสิทธิภาพในการสร้างเสริมสุขภาพ การช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศตามที่ปรากฎบนโฆษณาน้ำหอมทางโทรทัศน์และนิตยสาร หรือแม้แต่กลิ่นอันหอมหวนเท่านั้น แต่สิ่งที่กระตุ้นความสนใจจากบุคคลกลุ่มนี้คือเงินที่จะได้จากการลงทุนในน้ำมันกฤษณา รวมถึงการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ต้นไม้ที่นำมาสกัดน้ำมันกฤษณาได้ถูกขึ้นบัญชีรายชื่อพืชใกล้สูญพันธุ์ตามอนุสัญญาไซเตส (CITES) ทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตในป่าถือว่าผิดกฎหมาย ความต้องการน้ำมันกฤษณาที่ไม่เคยพอและเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งได้ส่งผลให้มีการลักลอบตัดต้นกฤษณาในป่าจนเกือบสูญพันธุ์ เนื่องจากกฤษณาเป็นไม้ที่มีค่าตามวัฒนธรรมความเชื่อของจีนและตะวันออกกลาง นอกจากนั้นยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายทั้งในอุตสาหกรรมยา เครื่องสำอาง น้ำหอม และอื่นๆ
http://photos.prnasia.com/prnvar/20150102/8521500008-b
น้ำมันกฤษณามีไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมีต้นกฤษณาเพียง 7 ต้นในทุกๆ 100 ต้นเท่านั้นที่สามารถสกัดน้ำมันกฤษณาได้ และใน 7 ต้นนั้นสามารถสกัดน้ำมันกฤษณาได้ในปริมาณเพียงน้อยนิด ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีการลักลอบตัดไม้กฤษณามากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดการลงทุนในรูปแบบใหม่และเปิดโอกาสในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน
คำตอบสำหรับปัญหานี้เป็นเรื่องง่ายๆ นั่นคือ การปลูกต้นไม้เพิ่มและรอให้เวลาผ่านไปไม่กี่ปีก็สามารถทำเงินได้อย่างถล่มทลาย
ความจริงแล้ว การปลูกต้นกฤษณาและเลี้ยงดูให้เติบโตนั้นทำได้ไม่ยาก เคล็ดลับอยู่ที่การใช้เทคโนโลยีเฉพาะ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และระบบการผลิต ไปจนถึงการกระจายผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย เพื่อแปรรูปไม้เนื้ออ่อนที่แทบไม่มีมูลค่าให้กลายเป็นน้ำมันที่มีมูลค่าสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม
ด้วยเหตุนี้เอง ความลับในการสร้างมูลค่าจึงมีการปกปิดเป็นอย่างดี และ Asia Plantation Capital (APC) เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งได้อ้างถึงการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ แต่มีเพียง APC รวมถึงเกษตรกรรายย่อยและบริษัทรายเล็กไม่กี่แห่งซึ่งส่วนใหญ่ทำงานให้กับ APC Group เท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตามคำกล่าวอ้าง
Asia Plantation Capital ใช้โมเดลธุรกิจ “Soil to Oil to You” ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินงานแนวดิ่งตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดไปจนถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าซื้อปลีก โดยได้รับการรับรองต่างๆมากมาย รวมถึงการสนับสนุนจากเครือข่ายกระจายสินค้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
http://photos.prnasia.com/prnvar/20150102/8521500008-c
เมื่อไม่นานมานี้ Asia Plantation Capital Group ได้ร่วมงานกับเหล่าผู้จัดการด้านการลงทุน กองทุน ผู้บริหารกองทุนสำหรับครอบครัว และนายธนาคารผู้ดูแลลูกค้ารายใหญ่ในยุโรปและตะวันออกกลาง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันแปลกใหม่นี้
บุคคลหลากหลายกลุ่มที่ได้มีโอกาสเยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูก โรงงาน และร้านค้าปลีกของบริษัทในประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ด้วยตาตนเองนั้น ต่างรู้สึกฉงนสนเท่ห์และเกิดความสนใจอย่างมากต่อกระแสความนิยมนี้
กระแสดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางบริษัทและโครงการต่างๆภายใต้การดูแลได้รับรางวัล “ผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ป่าไม้ยอดเยี่ยมประจำปี 2557” จาก CFI Magazine และเข้ารอบสุดท้ายในการประกาศรางวัล “ธุรกิจที่ส่งเสริมความยั่งยืนยอดเยี่ยมของโลก” ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปารีสโดย Organic Monitor เช่นเดียวกับรางวัลอื่นๆที่ให้การยกย่องผลิตภัณฑ์น้ำหอมของ Fragrance Du Bois บริษัทในเครือของ APC ที่นำเสนอน้ำมันกฤษณาจากธรรมชาติ 100% ด้วยคุณภาพเหนือมาตรฐาน
คุณแกรี เครตส์ ซีอีโอประจำยุโรป กล่าวว่า “หลังจากที่สินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทได้เติบโตแตะ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2556 เราก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากบรรดานักลงทุนสถาบัน กองทุนบำนาญ และสำนักงานบริหารกองทุนสำหรับครอบครัว นอกเหนือจากกลุ่มนักลงทุนมากประสบการณ์และเหล่าผู้ถือหุ้นในโครงการเพาะปลูกของเครือบริษัทในประเทศต่างๆ”
เขากล่าวเสริมว่า “พวกเขากำลังมองหาโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงและที่สำคัญคือต้องมีความยั่งยืน โดยในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ให้การต้อนรับกลุ่มผู้จัดการสินทรัพย์และคณะที่ปรึกษาสำหรับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงจากฝรั่งเศส เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะตลอดทั้งปีมีเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกและนักลงทุนในเอเชียมาเยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูก ร้านค้า และโรงงานของเรากว่า 3,000 รายในแต่ละเดือน โดย 95% ของผู้เยี่ยมชมทั่วไปเป็นชาวเอเชีย ซึ่งมึความเข้าใจโดยตรงถึงโอกาสในการเพาะปลูก ทั้งนี้ การให้การต้อนรับเหล่าผู้จัดการสินทรัพย์จากยุโรปและบางส่วนจากตะวันออกกลางนับเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเรา และเป็นผลพวงจากการทำงานอย่างหนักของคณะทำงานทั่วเอเชียที่มีส่วนสร้างความสำเร็จและการเติบโตของบริษัทและพื้นที่เพาะปลูก”
คุณแว็งซองต์ เดอ โมซ์ จาก Athos Patrimoine กล่าวว่า “ผมมองหาโอกาสต่างๆในภาคการเพาะปลูก และได้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทและโครงการต่างๆอย่างถี่ถ้วนในนามของลูกค้าเป็นเวลาหลายปี ก่อนหน้านี้ผมพยายามเปิดใจให้กว้างแต่ก็ยังรู้สึกกังขาอยู่บ้าง แต่เมื่อมาเยี่ยมชมสถานที่จริง ผมได้เห็นว่าการดำเนินงานในวงกว้าง การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และระบบการทำงานที่ Asia Plantation Capital พัฒนาขึ้นมาจนเข้าที่เข้าทางนั้น ได้ก่อเกิดเป็นโมเดลธุรกิจการเพาะปลูกที่น่าประทับใจที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา”
“นอกจากนี้ กระบวนการส่วนหลังและการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของบริษัทเองในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ได้ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง มีการผนวกรวมกระบวนการแนวดิ่ง และแฝงไปด้วยความแปลกใหม่ อีกทั้งยังเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ทางบริษัทประสบความสำเร็จมากขนาดนี้” เขากล่าวสรุป “และที่พิเศษสุดสำหรับโลกของเราคือ ความยั่งยืนสมบูรณ์ 100% โดยบริษัทได้รับมาตรฐาน ISO ด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย”
คุณไซมอน เฟรนช์ ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมน้ำหอม กล่าวว่า “จากประสบการณ์มากมายหลายปีในตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทน้ำหอมและสารปรุงแต่งรายใหญ่ๆของโลก ผมกล้าพูดว่าไม่มีส่วนผสมใดที่เป็นที่นิยมหรือได้รับความต้องการในตลาดมากเท่าน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ บริษัทมากมายได้ทำการสังเคราะห์น้ำมันหอมระเหยและส่วนผสมที่มีลักษณะคล้ายน้ำมันกฤษณา แต่คุณสมบัติตามธรรมชาติของน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ที่ถูกนำไปผสมในน้ำหอมนั้น มีความพิเศษเฉพาะตัวซึ่งผู้ผลิตน้ำหอมหรือผู้ดมกลิ่นสามารถแยกออก น้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์มีลักษณะเฉพาะตัวและไร้คู่แข่งในแง่ของความคงทนและประสิทธิภาพในการรักษากลิ่นของน้ำหอมชั้นเลิศ”
เครือบริษัทได้เปิดร้านค้าและมีแผนเปิดบูติกสุดหรูเพิ่มเติมอีกหลายแห่งตามจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั่วโลก เพื่อนำเสนอแบรนด์น้ำหอมพิเศษของบริษัทอย่าง Fragrance Du Bois บริษัทมีแผนร่วมเป็นพันธมิตรกับบรรดาผู้จัดจำหน่ายน้ำหอมชั้นนำของโลกในการก่อตั้งเครือร้านค้าปลีกเฉพาะกลุ่มทั่วโลก เพื่อนำเสนอคอลเล็กชั่นน้ำหอมชั้นเลิศและสร้างสรรค์น้ำหอมตามความต้องการของลูกค้า โดยจะประกอบไปด้วยผลงานน้ำหอมในคอลเล็กชั่นน้ำหอมที่ผลิตจากน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% ที่รังสรรค์ขึ้นโดยกลุ่มผู้ผลิตน้ำหอมชั้นนำของโลก
อุตสาหกรรมน้ำหอมเป็นหนทางสร้างรายได้จากน้ำมันกฤษณาและต้นกฤษณาช่องทางหนึ่งจากหลากหลายช่องทาง ดังนั้นแผนธุรกิจนี้จึงมีความมั่นคง ยั่งยืน และดึงดูดใจเป็นอย่างมาก
น้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ ความหรูหราอันบริสุทธิ์ ถือกำเนิดจากธรรมชาติและสร้างสรรค์ขึ้นในฝรั่งเศส ผสมผสานกลิ่นอายฝรั่งเศสอย่างแท้จริงในยุคปัจจุบัน
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เอเดรียน เฮง
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
อีเมล: adrian.heng@asiaplantationcapital.com
สำนักงาน: +65 6222 3386
มือถือ: +65 9750 7440
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Quick facts:
- 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของและอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัท
- 53.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่าผลประกอบการในปีงบการเงินที่ผ่านมา
- 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – ประมาณการผลประกอบการในปีงบการเงินปัจจุบัน
- 2,000,000 – จำนวนต้นกฤษณาที่มีอยู่ในปัจจุบันบนพื้นที่เพาะปลูกไม้กฤษณา
Asia Plantation Capital (APC) เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจเพาะปลูกและฟาร์มเชิงพาณิชย์อันหลากหลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ซึ่งอยู่ในเครือของ Asia Plantation Capital Group โดยจุดมุ่งหมายหลักของบริษัทคือ โครงการเพาะปลูกหลากประเภทในหลายวัฒนธรรม เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและความต้องการเชิงพาณิชย์ของประเทศที่บริษัทดำเนินงานอยู่ หลักการดำเนินงานของบริษัทคือ การร่วมงานอย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนอันดีแก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรมรวมทั้งการลงทุน เพื่อดึงชุมชนเหล่านี้ให้ออกจากวงจรการตัดไม้ทำลายป่าและการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบางพื้นที่ในเอเชีย ทั้งนี้ บริษัทจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 (แม้ว่าได้มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545) ปัจจุบันเครือบริษัทมีโครงการเพาะปลูกและการเกษตรใน 4 ทวีป ได้แก่ โครงการดำเนินงานในขั้นต่างๆในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา พม่า เวียดนาม อเมริกาเหนือ และยุโรป
การส่งเสริมการใช้ไม้ที่ได้รับการรับรองนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งยังช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงต่อสู้กับปัญหาความยากจนในภูมิภาคป่าฝนเมืองร้อน และสำหรับวงการเดินเรือยอชต์ที่มีการใช้ไม้สักจำนวนมาก ทั้งยังแสวงหาความเป็นเลิศและมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้น นี่เป็นอีกหนทางหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำไม้ที่ผิดกฎหมายมาใช้กับเรือยอชต์
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150102/8521500008-a
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150102/8521500008-b
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150102/8521500008-c
ภาพที่ 1: Barry Rawlinson ซีอีโอของ APC และ Olivier Breda ที่ปรึกษาอิสระ ขณะกำลังตรวจดูต้นกฤษณา
ภาพที่ 2: Sebastien Gouspillou ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาประจำยุโรป กับต้นอ่อนของกฤษณา
ภาพที่ 3: Sebastien Gouspillou ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาประจำยุโรป และ Mrs Jinda Tonkhambai ผู้อำนวยการของ APC Malaysia พร้อมด้วยคณะนักลงทุนซึ่งประกอบด้วย Vincent De Meaux (Athos Patrimoine), Alexandre de Mahieu (Small Trees) และ Patrick Philppeau (Philimmo)