ซูริก--10 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
รถไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมด้วยระยะเวลาในการเดินทางถึง 800 กิโลเมตร พร้อมสมรรถนะอันเหนือชั้น
- อ้างอิง: สามารถรับชมรูปภาพได้ที่สำนักข่าว epa european pressphoto agency ( http://www.epa.eu ) และhttp://www.presseportal.de/pm/112223/nanoflowcell-ag -
นุนซิโอ ลา เวคเคีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัท นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี กล่าวถึง QUANT F รุ่นใหม่ว่า “รถรุ่นนี้เปี่ยมไปด้วยพละกำลังมหาศาล อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแฝงด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว” โดยจะมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่นี้สู่สายตาผู้คนทั่วโลกในมหกรรม 2015 Geneva International Motor Show วันที่ 3 มีนาคม 2558
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150210/728362-a )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150210/728362-b )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150210/728362-c )
รถยนต์อี-สปอร์ตส์ซาลูนขนาด 4 ที่นั่งที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบ nanoFlowcell(R) นับเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของ QUANT E ตั้งแต่เมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นยานยนต์โฟลว์เซลล์รุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานตรวจสอบทางเทคนิคอย่าง German TUEV
“QUANT F รุ่นใหม่ได้รับการวางระบบวิศวกรรมและออกแบบใหม่โดยเบ็ดเสร็จ ด้วยชุดส่งกำลังอัตโนมัติสองความเร็วตัวใหม่ เราจึงได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนใหม่ขึ้นมา ซึ่งยังไม่เคยปรากฎที่.fมาก่อน โดยชุดส่งกำลังสองความเร็วนี้ได้รับการพัฒนาภายในองค์กร เพื่อหนุนให้เทคโนโลยี nanoFlowcell(R) สามารถส่งเสริมศักยภาพของยานยนต์ QUANT ได้เป็นอย่างดี ขณะที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงในโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าผ่านเทคโนโลยี nanoFlowcell(R) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่รวมอยู่ใน QUANT F รุ่นใหม่
ยานยนต์ QUANT F รุ่นใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยสมรรถนะ 1090 แรงม้า/ 801.69 กิโลวัตต์
“QUANT F ได้รับการออกแบบใหม่แบบเบ็ดเสร็จจากรถรุ่นก่อนอย่าง QUANT E และมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์สีแดงร้อนแรง และจากการผสมผสานส่วนประกอบเชิงเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เราได้บรรลุความก้าวหน้าไปอีกขั้นในแง่ของสมรรถนะของ nanoFlowcell(R) และด้วย QUANT F ปัจจุบันเราจึงสามารถทำพีคเอาต์พุตได้สูงสุดถึง 1090 PS/801.69 kW ในช่วงเวลาจำกัด ด้วยค่าแรงดันกำหนดสูงสุด 735V (จากเดิม 600V) ซึ่งนับเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่สำหรับรถไฟฟ้า และด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงอยากเรียนให้ทราบว่า ทางคณะนักวิจัยไม่ได้ให้ความสนใจในการยกระดับตัวเลข hp/kW แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดความเป็นไปได้ทางเทคนิค โดย QUANT F จะถูกตั้งค่าแรงดันกำหนดไว้ที่ราว 400V ในอนาคตสำหรับการทำงานทั่วไป เนื่องด้วยเหตุผลทางเทคนิคและอัตราการใช้พลังงาน ซึ่งจะส่งผลให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน และทำให้ยานยนต์สามารถขับเคลื่อนในระยะทางที่ไกลขึ้นผ่านสมรรถนะที่เหนือกว่า อีกทั้งยังปล่อยมลพิษเป็นศูนย์” นุนซิโอ ลา เวคเคีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค อธิบาย
เทคโนโลยี nanoFlowcell(R) ตัวใหม่มีหน้าที่ในการป้อนกระแสไฟฟ้ากว่า 50 แอมแปร์สู่ระบบบัฟเฟอร์ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ของ QUANT F โดยระบบบัฟเฟอร์นี้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าต่อได้กว่า 2,000 แอมแปร์เมื่อเครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ “เท่าที่เราทราบ ไม่เคยมีค่ายไหนที่ได้วางระบบที่สามารถป้อนกระแสไฟฟ้าได้กว่า 2,000 แอมแปร์ภายในรถยนต์โดยสาร นับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างยิ่ง เราสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจากการผนวกรวมโฟลว์แบตเตอรี่ของเราเข้ากับระบบบัฟเฟอร์ตัวใหม่ ทั้งนี้ นวัตกรรมข้างต้นถือเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญสู่อนาคตของวงการยานยนต์ไฟฟ้า” นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าว
สำหรับตัวถังได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยใช้คาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมเสาเอที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้พื้นที่ภายในของ QUANT F กว้างขวางมากขึ้นด้วยลายเส้นหรูหรา ขณะที่ส่งมอบความปลอดภัยอย่างเหนือชั้นให้แก่ผู้โดยสารบนยานยนต์ขนาดสี่ที่นั่ง
วิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรด้วยเทคโนโลยี nanoFlowcell(R) และของเหลวไอออนิก
นอกเหนือจากสมรรถนะและการออกแบบอันโดดเด่นของ QUANT F แล้ว รถรุ่นใหม่นี้ยังสามารถทำระยะทางได้อย่างน่าประทับใจ “ขอให้ลองนึกตามว่าเรากำลังขับรถสปอร์ตส์ซาลูนยาว 5.25 เมตรในโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดด้วยระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร นี่ไม่ใช่รถยนต์ขนาดเล็ก แต่เป็นรถซาลูนขนาดใหญ่ขนาดสี่ที่นั่ง หรือที่เรียกว่ารถสปอร์ตส์ซาลูน ด้วยเหตุนี้ นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี จึงช่วยชี้ทางสู่อนาคตของวงการยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความยั่งยืน” ลา เวคเคีย กล่าว ด้วยการเป็นระบบขับเคลื่อนทางเลือก nanoFlowcell(R) จึงขับเคลื่อนด้วยของเหลวไอออนิก “แทนที่จะใช้ไฮโดรเจนและออกซิเจนอย่างที่ใช้กันทั่วไป เราใช้ของเหลวไอออนิกสองประเภทด้วยกัน หนึ่งคือประจุบวก และสองเป็นประจุลบ” นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวอธิบาย ด้วยพื้นที่ถังบรรจุรวม 500 ลิตร แยกเป็น 250 ลิตรสองถังในโครงสร้างพื้นฐานของ QUANT ภายในระยะเวลาเพียง 9 เดือน ยานยนต์รุ่นใหม่ของเราสามารถทำระยะทางได้ไกลกว่าเดิมถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่น QUANT E ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2557 “ขณะนี้เราอยู่แค่เพียงช่วงเริ่มต้นของแผนพัฒนานวัตกรรม การที่เราใช้ของเหลวเป็นแหล่งให้พลังงานสำหรับการขับเคลื่อนนั้น ทำให้เรามีข้อได้เปรียบครั้งสำคัญในเรื่องระบบที่ได้นำมาปรับใช้ในแวดวงรถไฟฟ้า เราสามารถใช้ช่องที่มีอยู่ทั้งหมดในรถเพื่อส่งของเหลวไอออนิก เนื่องจากของเหลวไอออนิกนั้นไม่มีคุณสมบัติไวไฟหรือเป็นพิษ ทั้งนี้ เราเชื่อว่าเรากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่เหมาะสมด้วยนวัตกรรมนี้” นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวเสริม
ระบบแกนล้อหน้าแบบ Disengageable เพื่อสมรรถนะสูงสุด
QUANT F ยังมาพร้อมกับอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 all-wheel drive แบบถาวร ซึ่งได้รับการติดตั้งบนมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว และสามารถเปลี่ยนไปขับเคลื่อนระบบล้อหลังได้อัตโนมัติในอัตราความเร็วและอัตราเร่งที่เหมาะสม ส่วนระบบแกนล้อหน้านั้นจะถูกปล่อยคลัทช์และวิ่งต่อในโหมด idling “เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบอัตราเร่งและเสถียรภาพที่เหมาะสมให้แก่ผู้ขับในทุกๆสภาวะการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะความเร็วสูง ซึ่งจะสามารถบรรลุได้ง่ายขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มากกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร” ลา เวคเคีย กล่าวอธิบาย
แพนอากาศหลังแบบ 2-stage สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต
แพนอากาศแบบ 2-stage นี้เป็นอีกฟีเจอร์ใหม่ของ QUANT F ซึ่งจะเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อวิ่งที่ระดับความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจะปล่อยแรงกดลงบนส่วนล้อหลังสำหรับการขับขี่ความเร็วสูง “ด้วยการออกแบบที่อิงหลักอากาศพลศาสตร์ QUANT F มีสัมประสิทธิ์แรงต้านอันโดดเด่น โดยแพนอากาศหลังแบบ 2-stage นั้นเปิดโอกาสให้ผู้ขับสามารถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นแม้ว่าจะขับขี่อย่างเร้าใจ หรือแม้แต่เมื่อขับด้วยความเร็วและอัตราเร่งสูง นับเป็นสุดยอดแห่งความตื่นเต้นหลังพวงมาลัยรถ” นุนซิโอ ลา เวคเคีย กล่าวด้วยความตื่นเต้น
ไฟหน้า "QUANTeYES"
“ในฐานะที่เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนา เรามีความมุ่งมั่นมาโดยตลอดที่จะผลักดันขีดจำกัดเดิมๆ พร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆซึ่งไม่เคยเป็นที่รู้จักในตลาด อย่างเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว sensorFlow Technology(R) อันเป็นคาปาซิทีฟสวิตช์ที่แสดงภาพลงบนไม้แท้ และปัจจุบัน เราได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่อีกครั้งในเทคโนโลยีระบบแสง โดยส่วนไฟหน้าของ QUANT F ได้รับการติดตั้งคริสตัลที่มีไฟส่องจากด้านหลัง ซึ่งโชว์ตัว "Q" สัญลักษณ์ของ QUANT เมื่อมีการเปิดไฟหน้า และทำให้ไฟหน้าของ QUANT F เปรียบได้เสมือนดวงตาที่มีรูม่านตา จนกลายเป็นที่มาของชื่อ QUANTeYES ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ส่วนหน้าทั้งหมดของตัวรถนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวและมีความพิเศษยิ่งขึ้น” ลา เวคเคีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค กล่าว
ตัวรถภายนอกเป็นไปตามข้อกำหนดการรับรองชิ้นส่วนแล้ว 100% ขณะที่ยานยนต์ภายในนั้นผ่านข้อกำหนดแล้วกว่า 90%
ด้วยรถ QUANT F รุ่นใหม่ บริษัท นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี มีเป้าหมายที่จะผ่านการทดสอบคุณภาพเพื่อขอผลิตเป็นจำนวนมากให้ได้ “ตัวรถด้านนอกของ QUANT F รุ่นใหม่นั้นเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการรับรองเพื่อการผลิตเป็นจำนวนมากแล้ว 100% ในทางเทคนิค ส่วนตัวรถด้านในนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดราว 90% ทั้งนี้ ข้อกำหนดในการรับรองนั้นยังเหลือในส่วนของระบบแสดงผลส่วนหลัง ถุงลมนิรภัย การทดสอบการชนอันซับซ้อน ตลอดจนแบบทดสอบและเอกสารทางการ โดยจะมีการจัดทดสอบการชนในสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี แต่ผมขอบอกเลยว่า การนำรถยนต์อันน่าทึ่งเข้ารับการทดสอบการชนนั้นทำให้ผมรู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก” นุนซิโอ ลา เวคเคีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี กล่าว
ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
ผู้ที่สนใจรับชมนวัตกรรมยานยนต์ QUANT F ด้วยตาของตนเองสามารถรับชมได้ที่มหกรรม 2015 Geneva International Motor Show (รอบสื่อมวลชน: 3-4 มีนาคม 2558, PALEXPO, ฮอลล์ 1,บูธหมายเลข 1224 และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมวันที่ 5-15 มีนาคม 2558) สามารถติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เดี่ยวได้ที่นี่ สำหรับผู้ที่สนใจ กรุณาติดต่อฝ่ายสื่อมวลชนเพื่อเข้ารับการรับรองบุคคล วางแผน และนัดหมายอื่นๆ ส่วนการแถลงข่าวสำหรับสื่อมวลชนจะจัดขึ้นที่บูธของ QUANT วันที่ 3 มีนาคม 2558 เวลา 08.30 น.
สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
สามารถติดต่อฝ่ายสื่อมวลชนของนาโนโฟลว์เซลล์ เอจี เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ที่มหกรรม 2015 Geneva International Motor Show หรือติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
Press Office nanoFlowcell AG
Volker Pulskamp-Bocking
c/o HERING SCHUPPENER
Mainzer Landstrasse 41, 60329 Frankfurt/Main, Germany
โทร: +49-(0)69-92-18-74-28
มือถือ: +49-(0)173-70-161-30
อีเมล: presse@nanoflowcell.com
เว็บไซต์: http://www.nanoflowcell.com
เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/nanoflowcell
ทวิตเตอร์: https://twitter.com/nanoflowcell
แหล่งข่าว: นาโนโฟลว์เซลล์ เอจี