สิงคโปร์--18 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- กำไรปันผลสุทธิในส่วนของ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการถอนการลงทุนของแมนดาริน ออร์ชาร์ด สิงคโปร์ และแมนดาริน แกลเลอรี่ ในกองทุนทรัสต์ OUE Hospitality Trust
- รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี เพิ่มขึ้น 17.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นผลจากมูลค่ายุติธรรมสุทธิที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์สินด้านการลงทุนในเครือบริษัทและการสนับสนุนที่ดีจากภาคธุรกิจต่างๆ
- ยอดรวมการจ่ายเงินปันผลในปีงบการเงิน 2557 ซึ่งรวมถึงเงินปันผลงวดสุดท้ายในรูปเงินสดซึ่งมีการนำเสนอ รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 15.9 เซนต์/หุ้นโดยประมาณ
จุดเด่นของผลประกอบการด้านการเงิน
ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ 1 ปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม เปลี่ยนแปลง
ปีงบการเงิน 2556 ปีงบการเงิน 2557 %
รายได้ 416.4 436.6 (4.6)
รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี 185.1 157.0 17.9
กำไร/(ขาดทุน)อื่นๆสุทธิ 1,179.7 (50.2) ไม่สามารถระบุได้
กำไร/ขาดทุนปันผลแก่ผู้ถือหุ้นสุทธิ 1,094.0 (36.6) ไม่สามารถระบุได้
สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (%) 43.9 57.2 (13.3)
มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น (ดอลลาร์สิงคโปร์) 4.23 3.18 33.0
โอยูอี ลิมิเต็ด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ซึ่งจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST: LJ3) ("โอยูอี" หรือ "กรุ๊ป") ส่งท้ายปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ("FY2014") ด้วยกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ พลิกจากภาวะขาดทุนในปีงบการเงินก่อน ("FY2013") ที่ขาดทุนสุทธิ 36.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
กำไรสุทธิดังที่ปรากฎด้านบนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการถอนการลงทุนของแมนดาริน ออร์ชาร์ด สิงคโปร์ และแมนดาริน แกลเลอรี ในกองทุนทรัสต์ OUE Hospitality Trust และมูลค่ายุติธรรมสุทธิที่เพิ่มขึ้นของโอยูอี เบย์ฟรอนท์, ลิปโป พลาซา และยู.เอส. แบงก์ ทาวเวอร์
รายได้จากธุรกิจและการดำเนินการในด้านต่างๆยังทรงตัวที่ระดับ 416.4 ล้านดอลล์สิงคโปร์ ซึ่งลดลงเล็กน้อย 4.6% จากปีก่อน และเป็นผลมาจากการขาดรายได้จากโรงแรมในจีนที่บริษัทได้ถอนการลงทุนไปเมื่อเดือนกันยายน 2556
รายได้ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีปรับตัวขึ้น 17.9% จาก 157.0 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สู่ระดับ 185.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีงบการเงิน 2557 รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากรายได้จากการดำเนินงานที่ออกมาในเชิงบวกในธุรกิจหลายส่วน และจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของมูลค่ายุติธรรมสุทธิที่มาจากทรัพย์สินเพื่อการลงทุนในเครือบริษัท
รายจ่ายสุทธิทางการเงินร่วงลง 30.9% สู่ระดับ 64.0 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากระดับ 92.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีงบการเงิน 2556 เนื่องจากเงินได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น การกู้ยืมต่ำลง และบริษัทไม่ได้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
เนื่องด้วยกำไรปันผลสุทธิแก่ผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2557 กำไรต่อหุ้นของบริษัทจึงอยู่ที่ 1.20 ดอลลาร์สิงคโปร์
เงินปันผล
กรรมการบริหารบริษัทได้เสนอการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในรูปเงินสด 1 เซนต์/หุ้น ทำให้การจ่ายเงิยปันผลในรูปของเงินสดตลอดปีงบการเงิน 2557 อยู่ที่ 2 เซนต์/หุ้น ปันผลดังกล่าวยังไม่รวมการจ่ายปันผลแบบ in specie จำนวน 1 กองทุนทรัสต์ OUE Hospitality ซึ่งค้ำประกันสินทรัพย์ให้หุ้นสามัญโอยูอีทุก 6 หุ้นที่จ่ายปันผลไปเมื่อเดือนมีนาคม 2557 เป็นเงินราว 13.9 เซนต์/หุ้น ดังนั้นยอดจ่ายปันผลรวมของปีงบประมาณ 2557 รวมถึงเงินปันผลงวดสุดท้ายที่เสนอขึ้นมา จึงมียอดรวมทั้งสิ้นราว 15.9 เซนต์/หุ้น
บทวิจารณ์และทบทวนธุรกิจ
ในช่วงปีที่ได้มีการจัดทำบทวิจารณ์และทบทวนนี้ ฝ่ายธุรกิจบริการของกลุ่มบริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 210.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเทียบกับระดับ 229.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีก่อนหน้า สาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้ลดลง 8.2% เนื่องมาจากการขาดรายได้จากการดำเนินงานของโรงแรมในจีน 2 แห่งที่ทางกลุ่มบริษัทได้ถอนการลงทุน
รายได้ที่เกิดจากแผนกการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเพิ่มขึ้น 19.6 ล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 157.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ภายหลังจากที่รวมรายได้จากธุรกิจ ลิปโป พลาซา ในเซี่ยงไฮ้ และยู.เอส. แบงก์ ทาวเวอร์ในลอสแองเจลิส
สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยโครงการเดียวของกลุ่มบริษัท ซึ่งได้แก่ โอยูอี ทวิน พีคส์ นั้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 38.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีงบการเงิน 2557 ซึ่งลดลง 39.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากยอดขายในปีงบการเงินดังกล่าวต่ำลง สาเหตุจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่ซบเซาในสิงคโปร์
กลุ่มบริษัทปิดท้ายปีงบการเงิน 2557 ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงสู่ระดับ 43.9% จากระดับ 57.2% ซึ่งเป็นผลจากการจ่ายผลตอบแทนหุ้นกู้อนุพันธ์ในอัตราคงที่รวม 300.0 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนเมษายน 2557 ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ต่อหุ้นอยู่ที่ 4.23 ดอลลาร์สิงคโปร์
สถานการณ์ทางธุรกิจและแนวโน้มทางธุรกิจ
สำหรับในอนาคต กลุ่มบริษัทจะมุ่งเน้นการบริหารจัดการการเช่าอย่างเต็มที่ รวมทั้งกิจกรรมการพัฒนาสินทรัพย์ที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มรายได้ประจำจากสายผลิตภัณฑ์สินทรัพย์เพื่อการลงทุน
การเพิ่มสินทรัพย์ ณ ชั้นดาดฟ้าเพื่อสังเกตการณ์และภัตตาคารของยู.เอส. แบงก์ ทาวเวอร์นั้น อยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยทั้งสองโครงการนี้มีเป้าหมายว่า จะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2558 โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ยู.เอส. แบงก์ ทาวเวอร์มีสัญญาเช่าใหม่หรือต่อสัญญาเช่ารวมเนื้อที่ราว 650,000 ตารางฟุตนับตั้งแต่กลุ่มบริษัทได้เข้าซื้ออาคารแห่งนี้ และมีอัตราเช่าระยะยาว 79.6%
ส่วนงานตกแต่ง โอยูอี ดาวน์ทาวน์ นั้น คืบหน้าไปได้ด้วยดี และคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปี 2559 งานตกแต่งใหม่ครั้งนี้จะพลิกโฉมเวทีแบบยกพื้นเดิมของโอยูอี ดาวน์ทาวน์ให้เป็นห้างสรรพสินค้าปลีก 5 ชั้นที่นำเสนอตัวเลือกร้านอาหารและสินค้าที่ผ่านการคัดสรรพิเศษไม่เหมือนใคร ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตที่จัดเตรียมอาหารเพื่อตอบสนองผู้อยู่อาศัยและพนักงานในพื้นที่ตามรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน
การถอนการลงทุนออกจากคราวน์ พลาซา ชางงี แอร์พอร์ท โฮเทล ให้แก่ OUE Hospitality Trust ที่เสร็จสมบูรณ์ไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558 นั้น สอดคล้องกับกลยุทธ์ของโอยูอีที่จะระบายสินทรัพย์มีค่าในการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทและนำเงินทุนกลับคืนมายังบริษัท เพื่อคว้าโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆและขยายธุรกิจการจัดการกองทุน การถอนการลงทุนจากส่วนต่อขยาย 10 ชั้นของคราวน์ พลาซา ชางงี แอร์พอร์ท โฮเทลจะเกิดขึ้นหลังจากการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้รับในอนุญาตชั่วคราวแล้ว การก่อสร้างส่วนต่อขยายคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงสิ้นปี 2558 และจะไม่ล่วงเลยไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2559
"กิจกรรมในการยกระดับสินทรัพย์ของเราที่ผ่านมาออกดอกออกผลงอกงาม และส่งผลต่อมูลค่าระยะยาวของผู้ถือหุ้น สำหรับในอนาคต เราจะเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์นี้ต่อไป ขณะเดียวกันเราจะมองหาโอกาสที่เอื้อและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานรายได้ประจำของเรา" ดร.สตีเฟน เรียดี ประธานบริหารของโอยูอี ลิมิเต็ด กล่าว
เกี่ยวกับ โอยูอี ลิมิเต็ด
โอยูอี ลิมิเต็ด (SGX:LJ3) เป็นเจ้าของ นักพัฒนา และผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท โดยดำเนินธุรกิจในพื้นที่สำคัญต่างๆในเอเชีย และสหรัฐอเมริกา ธุรกิจของโอยูอี ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผ่านการยกระดับแบรนด์และความรู้ความเชี่ยวชาญ ในสายการพัฒนาและบริหารจัดการสินทรัพย์สำคัญ ตลอดภาคการพาณิชย์ งานบริการ ค้าปลีก และที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์เป็นส่วนหลัก ด้วยกลยุทธ์หลักขององค์กรในการลงทุน และต่อยอดธุรกิจอสังหาด้วยความโดดเด่น โอยูอี มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพสร้างฐานรายได้อันมั่นคง สร้างสมดุลให้กับกำไรจากการพัฒนา เพื่อส่งเสริมมูลค่าผู้ถือหุ้นในระยะยาว โอยูอี เป็นผู้สนับสนุนกองทุนทรัสต์ OUE Hospitality Trust และกองทุน OUE Commercial REIT
สำหรับข่าวสารล่าสุดจากโอยูอี สามารถรับชมได้ที่ www.oue.com.sg .
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
ที แอล หวู่ (T.L. Woo)
โทร: +65-6809-6050
อีเมล: tlwoo@oue.com.sg