ASIANET: บ.เอฟอีไอ คอมพานีประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 21, 1998 14:24 —Asianet Press Release

ฮิลล์สโบโร่--21 พ.ค.--พีอาร์นิวสไวร์-เอเชียเน็ท
บริษัทเอฟอีไอ คอมพานีได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้แต่งตั้งให้นายวาห์ ซาร์คิสเซียนขึ้นดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอ และนายซาร์คิสเซียนจะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทด้วย โดยนายซาร์คิสเซียนจะเข้าดำรงตำแหน่งแทนนายบิล วิทเวิร์ดซึ่งจะเกษียณจากบริษัทหลังจากที่ได้ทำหน้าที่บริหารบริษัทมาตั้งแต่การรวมธุรกิจเข้ากับบริษัทฟิลิปส์ อิเล็คตรอน ออปติคส์ในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นายซาร์คิสเซียนมีประสบการณ์ด้านการจัดการเทคโนโลยีชั้นสูงมากว่า 30 ปี โดยในช่วง 14 ปีสุดท้ายนั้นได้มีบทบาทเป็นผู้นำในการบริหารงานและได้ดำรงตำแหน่งประธานบริหาร, ซีอีโอหรือประธานของบริษัทต่างๆที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับระบบข้อมูลสารสนเทศและเซมิคอนดักเตอร์เป็นเวลา 9 ปี รวมทั้งยังมีประสบการณ์เป็นพิเศษทางด้านเทคโนโลยี focused charged partical beam ด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ นายซาร์คิสเซียนได้ดำรงตำแหน่งประธานของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่หลายแห่ง โดยก่อนหน้านี้ เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทเมโทรโลจิกซ์ อิงค์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสัญญานอิเล็กตรอนที่ได้ถูกเทคโอเวอร์โดยบริษัทเคแอลเอและก่อนหน้าที่จะมาทำงานให้กับบริษัทเมโทรโลจิกซ์นั้น นายซาร์คิสเซียนได้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทซิลิคอน วัลเล่ย์ กรุ๊ป อิงค์และยังเคยดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทเอสวีจี ลิโธกราฟฟี่ ซิสเทมส์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอสจีวีด้วย
นอกจากนี้ นายซาร์คิสเซียนยังเคยดำรงตำแหน่งรองประธานของบริษัทดาต้า เจเนอรัล คอร์ป โดยดูแลฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมก่อนหน้าที่จะเข้าทำงานกับบริษัทซิลิคอน วัลเล่ย์ กรุ๊ปด้วย และนายซาร์คิสเซียนยังเคยทำงานในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงขยาย, ด้านเทคโนโลยีและการบริหารธุรกิจให้กับบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์รวมถึงบริษัทเอเอ็มดีเป็นเวลา 12 ปี
ตลอดอายุงานของนายซาร์คิสเซียนนั้น เขาได้รับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาและการแนะนำผลิตภัณฑ์ด้านไมโครโพรเซสเซอร์และหน่วยความจำเป็นจำนวนมาก โดยที่บริษัทเอสวีจี ลิโธกราฟฟี่ ซิสเทมส์นั้น นายซาร์คิสเซียนได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Micrascan และเขายังได้บริหารงานในองค์กรที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งหลายแห่งเช่น บริษัทแอคเทล, พาวเวอร์ อินทีเกรชั่นและแอคคูเรล ซิสเทมส์ โดยในองค์กรหลายแห่งนั้น นายซาร์คิสเซียนได้ผลักดันให้มีการเป็นหุ้นส่วนกับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงระดับโลกด้วย
ดร.ลีน สแวนสัน ประธานคณะกรรมการบริหารของเอฟอีไอเปิดเผยว่า "เป็นเวลากว่า 25 ปีที่บริษัทเอฟอีไอ และฟิลิปส์ อิเล็กตรอน ออปติกส์ได้ร่วมงานกันเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกในด้านเทคโนโลยี focused charged particalbeam" และกล่าวด้วยว่า "นายวาห์มีความเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับคุณค่าของเทคโนโลยีนี้และมีประสบการณ์อย่างมากในการที่จะนำพาบริษัทเอฟอีไอก้าวไปข้างหน้าในฐานะผู้ประกอบการที่สำคัญรายหนึ่งในตลาดหลักๆทั้งหมด"
ทั้งนี้ นายซาร์คิสเซียนได้เตรียมที่จะใช้ภูมิหลังที่หลากหลายในการดำรงตำแหน่งใหม่ในบริษัทเอฟอีไอ โดยเขาได้กล่าวว่า "ผมมีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทที่มีคุณภาพอย่างเอฟอีไอ ผมเชื่อว่าบริษัทเอฟอีไอเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นบริษัทที่สร้างและขยายโอกาสในอนาคตสำหรับเทคโนโลยีสัญญานไอออนและอิเล็กตรอนและผมหวังว่า ประสบการณ์ของผมจะช่วยในการสร้างสรรผลงานที่นำพาบริษัทเอฟอีไอในการก้าวขึ้นเป็นผู้จำหน่ายชั้นนำในอุตสาหกรรมดังกล่าว"
นายซาร์คิสเซียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัย Northrup University และจบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัย University of Santa Clara
ส่วนนายบิล วิทเวิร์ดจะเกษียณอายุจากตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทเอฟอีไอ โดยนายวิทเวิร์ดกล่าวว่า "เราได้ร่วมงานกันอย่างหนักเพื่อสร้างรากฐานที่มีประสิทธิภาพสำหรับอนาคตของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทเอฟอีไอ, ดำเนินการรวมธุรกิจของเอฟอีไอกับบริษัทฟิลิปส์และสร้างความแข็งแกร่งให้กับการรวมธุรกิจนี้"และกล่าวด้วยว่า "ผมมีความยินดีอย่างมากที่จะส่งมอบหน้าที่ในการบริหารให้แก่นายวาห์ผู้ซึ่งผมเชื่อว่ามีทักษะและประสบการณ์ในการนำพาบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก"
นายโดนัลด์ แวนลูวานี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของเอฟอีไอและดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทอิเล็กโตร ไซแอนทิฟิค อินดัสทรี่ส์ อิงค์ได้กล่าวว่า "นายซาร์คิสเซียนประสบการณ์ด้านการบริหาร, ด้านเทคนิคและเป็นผู้นำของบริษัทหลายแห่ง และความคุ้นเคยอย่างมากของเขาต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยให้บริษัทเอฟอีไอก้าวขึ้นเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ"
สำหรับบริษัทเอฟอีไอ คอมพานีได้จัดตั้งขึ้นในปี 1971 โดยเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการผลิตกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสำหรับการสแกนนิ่ง, อุปกรณ์ focused ion beam, กล้องจุลทรรศน์ส่งสัญญานอเล็กตรอนและอุปกรณ์สำหรับการสร้างภาพ, วิเคราะห์, แก้ไขและประดิษฐ์ในระดับ submicron โดยในปีที่แล้วบริษัทเอฟอีไอได้มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อได้รวมกิจการกับบริษัทฟิลิฟส์ อิเล็กตรอน ออปติคส์โดยบริษัทฟิลิป อินดัสเทรี่ยล อิเล็กทรอนิคส์ อินเตอร์เนชั่นแนล บี.วีได้ถือหุ้นสามัญของบริษัทใหม่อยู่ 55 % สำหรับ workstation ของเอฟอีไอนั้นใช้กันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เบื้องต้นสำหรับการแก้ไขแบบ, การวิเคราะห์ความล้มเหลวและการวิเคราะห์กระบวนการ สำหรับผู้ใช้กล้องจุลทรรศน์สัญญานอิเล็กตรอนและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนสำหรับการสแกนนิ่งรายหลักๆนั้นได้แก่ บรรดาสถาบันวิจัย, โรงพยาบาล,มหาวิทยาลัยและลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, เวชภัณฑ์, เคมีภัณฑ์, โลหะ,และเหมืองแร่ โดยบริษัทเอฟอีไอมีพนักงานประมาณ 1,000 คนทั่วโลกโดยทำการผลิตในสหรัฐและยุโรป--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-กช/กก--

แท็ก AsiaNet   ซีอีโอ   asian  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ