เท็กซัส--1 ก.ค.--พีอาร์นิวสไวร์/เอเชียเน็ท
บริษัทไมโครกราฟซ์ อิงก์ ซึ่งเป็นผู้นำซอฟต์แวร์กราฟฟิคของโลก เมื่อวานนี้ได้ ประกาศการเข้าซื้อบริษัทแอดแวนเอดจ์ เทคโนโลยีส์ ในโอเรกอน ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ พัฒนาอุปกรณ์การวางผัง, การทำโมเดล และการทำแบบจำลองสำหรับบริษัทหลายแห่งใน จำนวนบริษัท 500 แห่งที่มีรายชื่ออยู่ในทำเนียบนิตยสารฟอร์จูน
ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงการซื้อบริษัทแอดแวนเอดจ์ของบริษัทไมโครกราฟซ์นั้น บริษัทแอดแวนเอดจ์จะจัดหาระบบการทำโมเดลแบบจำลองโดยเครื่องพีซีที่ล้ำหน้าที่สุด ซึ่งมี มูลค่ากว่า 3.5 ล้านดอลล่าร์ ทั้งนี้ ไมโครกราฟซ์จะรับผิดชอบการดำเนินการดังกล่าวใน ฐานะการซื้อ ซึ่งส่วนหนึ่งของการซื้อดังกล่าวจะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่สี่ของปีงบ การเงิน 1997 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เป็นผลมาจากการเข้าซื้อจะถูกรวมไว้ในไตรมาส ปัจจุบันของงบการเงิน ซึ่งหากไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้แล้ว ก็คาดว่าการ เข้าซื้อดังกล่าวจะไม่ทำให้รายได้ในอนาคตลดลง
นายดั๊ค ริชาร์ด ประธานและซีอีโอของไมโครกราฟซ์กล่าวว่า การเข้าซื้อบริษัท แอดแวนเอดจ์จะมีบทบาทด้านกลยุทธต่ออนาคตของไมโครกราฟซ์ โดยระบุว่า "ผลิตภัณฑ์ Optima! 2.0 ของแอดแวนเอดจ์ได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อการวิเคราะห์กระบวนการและ การออกแบบ รวมทั้งการสร้างแบบจำลองที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามีความประสงค์ที่ จะต้องดำเนินการให้ได้ภายในศตวรรษที่ 21" นอกจากนี้ นายริชาร์ดยังกล่าวอีกว่า "โซลู ชั่นการปรับปรุงการดำเนินการ และอุปกรณ์ด้านการจัดการจะเป็นตลาดที่สำคัญและกำลัง เติบโตสำหรับเรา รวมทั้งการแข่งขันในระดับบริษัทภายในตลาดก็จะเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ การก่อตั้งไมโครกราฟซ์ในฐานะเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นการบริหารกระบวนการด้านธุรกิจที่กว้าง ขวาง"
นอกจากนี้ ฐานที่แอดแวนเอดจ์ได้สร้างไว้ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐาน ของไมโครกราฟซ์ในตลาดหลายๆแห่ง ซึ่งได้แก่ การประกันภัย, เงินทุน, การผลิต, เวช ภัณฑ์ และโทรคมนาคม โดยตามปรกติแล้วผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Optima! ใช้ในหลายฝ่ายของ องค์กร ตั้งแต่ฝ่ายวิศวกรรม และฝ่ายบริการลูกค้า ไปจนถึงฝ่ายการผลิตและการตลาด และแอดแวนเอดจ์ก็เป็นผู้จัดหาโซลูชั่นอย่างแท้จริงที่จะให้คำแนะนำแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือไปจากการซื้อในขั้นต้น โดยพนักงานที่แอดแวนเอดจ์มีความชำนาญระดับโลกใน อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และด้วยเวลากว่า 6 ปีที่ทุ่มเทให้กับซอฟต์แวร์การสร้างแบบจำลอง การวิเคราะห์กระบวนการ พนักงานมืออาชีพเหล่านี้เป็นบุคลากรที่หาได้ยาก และจะมีบท บาทสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคตอีกด้วย
ด้านนายเคนเนธ เอ คาร์ราเฮอร์ อดีตประธานของแอดแวนเอดจ์ ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองประธานของฝ่ายทัศนอุปกรณ์ของไมโครกราฟซ์ กล่าวว่า "แอดแวนเอดจ์ ไม่เพียงแต่เหมาะสมสำหรับไมโครกราฟซ์เท่านั้น แต่เราคำนึงถึงอนาคตของตลาดวิศวกรรม ธุรกิจในแบบเดียวกันกับไมโครกราฟซ์อีกด้วย" นอกจากนี้ ยังระบุว่า "Optima! เป็นส่วน ประกอบที่สำคัญของบริษัท ในบริษัทชั้นนำหลายแห่งที่ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการ กระบวนการที่จะมีผลต่อภาวะทางการแข่งขันอีกด้วย"
นายคาร์ราเฮอร์ยังกล่าวอีกว่า "Optima! 2.0 รวมเอาประสบการณ์ที่มาก มายจากลูกค้าเข้าไว้ด้วยกัน และยังได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวกับการ ปรับปรุงกระบวนการ" และระบุอีกว่า "ผมและคุณดั๊คมีทัศนะเช่นเดียวกัน และผมก็เชื่อว่า ด้วยการสร้างฐานลูกค้าทั่วโลกของโฟลชาร์เตอร์ของไมโครกราฟซ์ เราจะสามารถเสนอ โซลูชั่นสำหรับการจัดการกระบวนการได้ พร้อมกันนี้เราจะเสนอโซลูชั่นที่มีความกว้างขวาง, ความลุ่มลึก และมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้เรามีความสามารถที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมนี้"
ทั้งนี้ การซื้อบริษัทแอดแวนเอดจ์จะช่วยสนับสนุนจุดยืนของไมโครกราฟซ์ใน ฐานะที่เป็นผู้จัดหาชั้นนำในด้านอุปกรณ์แผนผังโครงสร้างพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ในชุดโฟลชาร์ เตอร์ และทำให้ไมโครกราฟซ์สามารถเสนอพอร์ตฟอลิโอที่สำคัญของอุปกรณ์ซอฟต์แวร์การ จัดการกระบวนการด้านธุรกิจได้
ส่วนนายคริส เลอ ทอค ผู้อำนวยการและนักวิเคราะห์ด้านซอฟต์แวร์คนสำคัญ ของบริษัทดาต้าเควสท์ กล่าวว่า "การเข้าซื้อในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของไมโคร กราฟซ์ในการที่จะแสดงตนเองในฐานะผู้ผลิตโซลูชั่นชั้นนำสำหรับการจัดการกระบวนการ ด้านธุรกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นความเคลื่อนไหวที่เหมาะสมและได้จังหวะ ซึ่งการรวมความ สามารถด้านบริหารที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของไมโครกราฟซ์เข้ากับเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ ของแอดแวนเอดจ์ก็ทำให้ไมโครกราฟซ์อยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มอีกด้วย"
ในฐานะส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อ ไมโครกราฟซ์จะเพิ่มจำนวนพนักงานของแอด แวนเอดจ์ในบริษัทในเครือแห่งใหม่ซึ่งจะอยู่ที่พอร์ตแลนด์ ที่จะเป็นจุดสำคัญสำหรับการที่ไม โครกราฟซ์จะขยายเข้าไปสู่ตลาดวิศวกรรมธุรกิจต่อไป ซึ่งความตั้งใจดังกล่าวได้ทำให้มี การตั้งบริษัทในเครือที่สำคัญของไมโครกราฟซ์ในพอร์ตแลนด์ และเป็นการเพิ่มแผนงานเทค โนโลยีระดับสูงของภูมิภาคอีกด้วย โดยแผนงานต่างๆมีความพร้อมที่จะขยายบริษัทดังกล่าว ในด้านการอบรม, การให้คำปรึกษา และการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นการเปิด โอกาสในหลายๆด้านในพอร์ตแลนด์สำหรับพนักงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้าน C/C++, ดาต้าเบส, อินเตอร์เน็ท, OLE และ วินโดว์
ผลิตภัณฑ์ย่อยในกลุ่ม Optima! ซึ่งก็คือ Optima! และ Optima! Express ที่ช่วยในด้านการวางผังกระบวนการเท่านั้น จะนำเสนอโซลูชั่นหลายระดับที่จะทำให้ลูกค้า สามารถตัดสินได้ว่าผู้ใดในองค์กรจำเป็นจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในระดับใดในความพยายาม ปรับปรุงกระบวนการ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทั้งสองสามารถทำงานทดแทนกันได้ โดยก็ทำให้มีความ ยืดหยุ่นทั้งในเรื่องราคาและความสามารถ โดย Optama! 2.0 ได้ถูกตั้งราคาไว้ที่ 695 ดอลล่าร์ ขณะที่ Optima! Express 2.0 มีราคา 349 ดอลล่าร์
สำหรับไมโครกราฟซ์นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1982 และเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน กราฟฟิคสำหรับบริษัท และซอฟต์แวร์ส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังเป็นผู้บุกเบิกที่ได้รับการยอม รับในเรื่องธุรกิจวินโดว์ และซอฟต์แวร์กราฟฟิคของลูกค้า อีกทั้งยังมีซอฟต์แวร์กราฟฟิคที่ได้ รับรางวัล ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า อเมริกัน กรีตติ้งส์, ครีตาการ์ด, โกลด์ แอนด์ ครีตาการ์ด พลัส, โฟลชาร์เตอร์, กราฟฟิคส์ สูท, ซิมพลี 3ดี, เว็บทริซิตี้, ดีไซเนอร์, พิคเจอร์ พับลิชเชอร์, และวินโดว์ ดรอว์ และเนื่องในการเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ของการก่อตั้งบริษัทในปีนี้นั้น บริษัทไมโครกราฟซ์ที่มีมูลค่า 70 ล้านดอลล่าร์นั้นมีสำนักงาน ปฏิบัติการตั้งอยู่ในเมืองริชาร์ดสัน รัฐเท็กซัส โดยที่สำนักงานการพัฒนาตั้งอยู่ในลอสแองเจ ลิส, พอร์ตแลนด์ และซานฟรานซิสโก ส่วนบริษัทสาขาในต่างประเทศนั้นมีอยู่ในออสเตร เลีย, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น,เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ สำหรับ สำนักงานตัวแทนนั้นตั้งอยู่ในเดนมาร์ก, โปแลนด์, สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผู้ที่ต้อง การทดลองดาวน์โหลดและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์กราฟฟิคที่น่าสนใจ ของไมโครกราฟซ์ สามารถติดต่อได้ผ่านทาง http://www.micrografx.com.-- จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สอ/กก--