ASIANET : บริษัทเอฟอีไอรายงานผลประกอบการไตรมาส2ปีนี้

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 7, 1997 16:41 —Asianet Press Release

ฮิลส์โบโร่, รัฐโอเรก้อน--7 ส.ค.--สำนักข่าวเอเชียเน็ท
บริษัทเอฟอีไอ คอมปานีได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ ออกมาเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีนี้ บริษัทเอฟอีไอได้ยุติการรวมธุรกิจของ บริษัทเข้ากับของบริษัทฟิลิปส์ อีเลกตรอน ออปติกส์ (พีอีโอ) โดยตัวเลขที่นำมาแสดงนี้เป็น ผลประกอบการของบริษัทที่เกิดจากการรวมกันในช่วงไตรมาสแรกของการดำเนินงาน นอก จากนี้ บริษัทเอฟอีไอยังได้รายงานตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาสแรกปีนี้ที่ได้รับการ ปรับปรุงใหม่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรวมธุรกิจอีกด้วย
ยอดขายสุทธิในช่วงไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายนปีนี้ อยู่ที่ระดับ 43,958,000 ดอลล่าร์ พุ่งขึ้น 33 %จากยอดขายสุทธิล่วงหน้าของบริษัทเอฟอีไอและบริษัท พีอีโอรวมกันซึ่งอยู่ที่ระดับ 33,058,000 ดอลล่าร์ในช่วงไตรมาส 2 ปีก่อน ส่วนในช่วง 6 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนปีนี้นั้น ยอดขายสุทธิอยู่ที่ระดับ 76,025,000 ดอลล่าร์ เพิ่มขึ้น 27 % จากยอดขายสุทธิรวมล่วงหน้าที่ระดับ 59,887,000 ดอลล่าร์ในช่วงเดียว กันในปีก่อน สำหรับมูลค่าสินค้าที่ส่งให้ลูกค้าไม่ทันคำนวณเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมปีนี้นั้น อยู่ที่ ระดับ 49,570,000 ดอลล่าร์ (1 ดอลล่าร์เท่ากับ 2.068 กิลเดอร์เนเธอร์แลนด์) เทียบกับระดับ 39,350,000 ดอลล่าร์ของเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมปีก่อน (1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 1.653 กิลเดอร์เนเธอร์แลนด์)
รายรับสุทธิในช่วงไตรมาสนั้นอยู่ที่ระดับ 2,235,000 ดอลล่าร์ โดยมีรายรับ ต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.13 ดอลล่าร์ต่อหุ้น ทั้งนี้ สำหรับช่วง 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 29 มิถุนายน ปีนี้นั้น ยอดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ระดับ 42,000,000 ดอลล่าร์ โดยมียอดขาดทุนต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.72 ดอลล่าร์
นายบิล ไวท์เวิร์ด ประธานและซีอีโอของบริษัทเอฟอีไอ ได้กล่าวว่า "ผมรู้สึก พึงพอใจเป็นอย่างยิ่งกับความแข็งแกร่งของยอดขายของบริษัทรวมแห่งใหม่นี้ หน่วยปฏิบัติงาน ทั่วโลกของบริษัทเราซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ, เนเธอร์แลนด์ และสาธารณรัฐเชคนั้น กำลัง ดำเนินการจัดตั้งเอฟอีไอให้ขึ้นมาเป็นผู้ทำธุรกิจ field emission applications สำหรับอุตสาหกรรมอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์ในระดับระหว่างประเทศให้ได้"
ดร. ลินวู้ด สแวนสัน ประธานกรรมการบริษัทเอฟอีไอ ได้กล่าวว่า "สินค้า ใหม่ของบริษัทเรากำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อทางบริษัทได้นำเทคโนโลยีมาใช้ให้ตรง ตามความต้องการของลูกค้า ยอดสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทไม่เคยแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน"
บริษัทเอฟอีไอได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกปีนี้ออกมาอีกครั้ง โดยได้มีการปรับให้ตรงตามหลักการทางการบัญชีสำหรับการรวมบริษัทเข้าด้วยกัน และได้มี การปรับเพื่อให้ตรงตามหลักการทางการบัญชีที่ได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในประเทศ สหรัฐด้วย
ส่วนหลัก ๆ ที่ได้รับการปรับใหม่นั้นมีตั้งแต่การปรับสินค้าคงคลังให้กลายเป็นต้น ทุนการขาย (เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านดอลล่าร์) และการปรับยอดรายจ่ายในการขาย, รายจ่าย ทั่วไป และรายจ่ายในการบริหารด้วย (เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านดอลล่าร์)
การปรับตัวเลขใหม่นี้ เมื่อรวมเข้ากับผลประโยชน์จากภาษีมูลค่า 1.3 ล้าน ดอลล่าร์ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว ได้ส่งผลให้รายงานผลประกอบการ ไตรมาสแรกมียอดขาดทุนสุทธิเปลี่ยนจากระดับ 41,339,000 ดอลล่าร์ สู่ระดับ 44,235,000 ดอลล่าร์
นอกจากรายงานบัญชีในอดีตแล้ว เนื้อหาในรายงานข่าวชิ้นนี้ ซึ่งรวมถึงเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับตลาด, การจัดสรรทรัพยากร และการคาดการณ์เกี่ยวกับการรวมกิจการ ให้ถือเป็นรายงานข่าวในเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง และความไม่แน่นอนได้
ปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้นั้นรวมถึงความยุ่งยากในการรวม การปฏิบัติงานของบริษัทเอฟอีไอและบริษัทฟิลิปส์ อีเลกตรอน ออปติกส์เข้าด้วยกัน; สภาวะ การณ์ทางธุรกิจและการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ รวมทั้งการเติบโตของ วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตและที่เกี่ยวข้องกับวัตถุทั้งในระดับภายในประเทศและ ในระดับระหว่างประเทศ; ยอดสั่งซื้อของลูกค้าที่ต่ำกว่าที่คาด; ปัจจัยทางการแข่งขัน ซึ่ง รวมถึงแรงกดดันในการกำหนดราคาและ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสินค้าของ บริษัทคู่แข่ง; ความยุ่งยากทางเทคโนโลยีและปัญหาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในการ พัฒนาสินค้าใหม่; และช่วงระยะเวลาในการออกสินค้าใหม่รวมทั้งการยอมรับของทางตลาด ต่อตัวสินค้าด้วย--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-จพ/กก--

แท็ก AsiaNet   asian  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ