เยรูซาเลม--16 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- Associated Producers เปิดเผยว่า ผลการเปรียบเทียบทางธรณีเคมีอาจเป็นข้อพิสูจน์ว่า “กล่องเก็บกระดูกของ James” มาจากสุสานในอิสราเอล ซึ่งเป็นที่บรรจุกล่องเก็บกระดูกอีกหลายกล่องที่สลักชื่อบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูตามพระคริสตธรรมใหม่
- ผู้สร้างสารคดี “Lost Tomb of Jesus” เผยว่า ผลการศึกษาดังกล่าวสอดคล้องกับการค้นพบซึ่งปรากฎในสารคดีเมื่อปี 2007
ผลการศึกษาล่าสุดของนักธรณีวิทยาชาวอิสราเอลได้สนับสนุนความเป็นไปได้ที่ว่า สุสานเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ชานกรุงเยรูซาเลมเป็นที่พักสุดท้ายของเยซูแห่งนาซาเรธและครอบครัว
ผลการค้นพบครั้งใหม่ของดร.อาร์เยห์ ชิมรอน ระบุว่า เมื่อพิจารณาจาก “ลายนิ้วมือ” ทางเคมีแล้ว พบว่า ossuary หรือกล่องเก็บกระดูกที่สลักวลี "James, son of Joseph, brother of Jesus" มีความเกี่ยวข้องกับสุสานที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนกุหลาบ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกลุ่มอพาร์ทเมนต์ในย่านทาลปยอต (Talpiot) ชานกรุงเยรูซาเลม สุสานนี้ถูกค้นพบระหว่างการก่อสร้างเมื่อปี 1980 และมีการค้นพบกล่องเก็บกระดูกหลายกล่องที่สลักชื่อบุคคลต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับพระเยซูตามพระคริสตธรรมใหม่
แม้ว่ารายชื่อที่พบในสุสานทาลปยอต (เช่น "Jesus, son of Joseph", "Maria", "Mariamene", "Yose" และอื่นๆ) จะเป็นชื่อที่ได้รับความนิยมในเยรูซาเลมช่วงยุคศตวรรษแรก แต่การค้นพบรายชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับพระเยซูในสถานที่เดียวกันนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่พบได้ยาก ทั้งนี้ หากพิสูจน์ได้ว่ากล่องเก็บกระดูกที่สลักวลี "James, son of Joseph, brother of Jesus" มาจากสุสานทาลปยอต ก็จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในทางสถิติและแทบจะยืนยันได้ว่าสุสานของเยซูแห่งนาซาเรธถูกค้นพบแล้ว
ดร.ชิมรอนกล่าวกับ New York Times ว่า “ผมคิดว่าผมได้ค้นพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กล่องเก็บกระดูกของ James เคยอยู่ในสุสานทาลปยอตมานานแสนนาน”
ดร.ชิมรอน นักธรณีวิทยาจาก Israeli Geological Survey ผู้มีประสบการณ์ยาวนานถึง 25 ปี เชื่อว่า เหตุแผ่นดินไหวในปีค.ศ. 363 ส่งผลให้สุสานทาลปยอตถูกปกคลุมด้วยดินเรนด์ซินาและโคลน จึงเสมือน “ถูกแช่แข็งทางเคมี” และก่อให้เกิด “ลายนิ้วมือ” ทางธรณีเคมีที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์เปรียบเทียบได้แม้เวลาล่วงเลยไปถึง 1,652 ปี โดยดร.ชิมรอนได้ทดสอบตัวอย่างดินและเศษที่ขูดจากกล่องเก็บกระดูกราว 100 ตัวอย่างที่ส่งมาโดย Israeli Antiquities Authority จากสุสาน 15 แห่งทั่วกรุงเยรูซาเลม รวมถึงย่านทาลปยอต (ในช่วงศตวรรษแรก ครอบครัวฐานะมั่งคั่งมักเก็บกระดูกของสมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับ ในสุสานที่สลักขึ้นจากหินปูนเบาซึ่งตั้งอยู่รอบๆกรุงเยรูซาเลม)
เมื่อเดือนที่แล้ว โอเด็ด โกลาน เจ้าของกล่องเก็บกระดูกของ James ได้อนุญาตให้ดร.ชิมรอนสำรวจกล่องที่ว่านี้ และในที่สุดก็สามารถสรุปผลการศึกษาที่ดำเนินมานานถึง 7 ปี ซึ่งผลการค้นพบของเขาน่าทึ่งมาก โดยจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 100 ตัวอย่าง พบว่ามีเพียง 9 ตัวอย่างจากสุสานทาลปยอตที่มีลักษณะทางธรณีเคมีเหมือนกับกล่องเก็บกระดูกของ James ทั้งองค์ประกอบของแมกนีเซียม ซิลิคอน และธาตุเหล็ก ขณะที่ตัวอย่างจากสุสานอีกแห่งที่ตั้งอยู่ห่างจากสุสานทาลปยอตไปเพียง 60 เมตรนั้นมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ผลการค้นพบของดร.ชิมรอนเป็นการยืนยันผลการสำรวจรอยคร่ำบนกล่องเก็บกระดูกในเชิงธรณีเคมีเมื่อปี 2006 ของซิมชา จาโคโบวีซี นักข่าวอิสระ และเจมส์ คาเมรอน ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง ซึ่งปรากฏอยู่ในภาพยนตร์สารคดีปี 2007 ชื่อ "The Lost Tomb of Jesus" ซึ่งคาเมรอนเป็นผู้สร้าง สารคดีเรื่องนี้สรุปว่าสุสานทาลปยอตที่ทางการอิสราเอลมองข้าม เป็นสุสานของพระเยซูและครอบครัว โดยอ้างอิงจากรายชื่อที่สลักบนกล่องเก็บกระดูกหลายกล่อง ประกอบกับหลักฐานสนับสนุนจากเหล่านักวิชาการและตัวพระคัมภีร์เอง
นายโกลานซึ่งเป็นนักสะสมศิลปวัตถุ ได้จุดชนวนการถกเถียงถึงที่มาและความน่าเชื่อถือของกล่องเก็บกระดูกของ James เมื่อเขาเผยโฉมศิลปวัตถุชิ้นนี้สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 2002 ต่อมาในปี 2004 เขาถูกจับกุมและตั้งข้อหาปลอมแปลงข้อความจารึกส่วนท้ายบนกล่องตรงที่ระบุว่า "Brother of Jesus" จากนั้นในปี 2012 หลังสู้คดีมานานหลายปี ในที่สุดศาลแขวงของเยรูซาเลมได้ตัดสินว่านายโกลานไม่มีความผิด พร้อมส่งกล่องเก็บกระดูกคืน คำตัดสินดังกล่าวเป็นผลพวงจากการที่ศาสตราจารย์วูลฟ์กัง ครัมไบน์ ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านรอยคร่ำโบราณ ได้ให้การว่าข้อความจารึกทั้งหมดนั้นเป็นของจริง อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากล่องเก็บกระดูกดังกล่าวตกอยู่ในความครอบครองของนายโกลานได้อย่างไร ทั้งนี้ หากผลการศึกษาของดร.ชิมรอนถูกต้องแล้ว กล่องดังกล่าวน่าจะถูกนำออกมาจากสุสานทาลปยอตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเมื่อไม่นานมานี้หรือตั้งแต่สมัยโบราณ จนตกเป็นของสะสมส่วนตัวของนายโกลานในที่สุด
บรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า รายชื่อบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูตามพระคริสตธรรมใหม่ที่ค้นพบในสุสานทาลปยอตนั้นเป็นเรื่องเหนือความบังเอิญ โดยเมื่อปี 2007 หลังการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมถึงการปรากฏของชื่อในเยรูซาเลมโบราณแล้ว อังเดรย์ เฟอร์เวอร์เกอร์ ศาสตราจารย์สาขาสถิติจาก University of Toronto ได้สรุปว่า แทบไม่มีโอกาสพบกลุ่มรายชื่อดังกล่าวปรากฏพร้อมกัน แม้ว่าจะเป็นชื่อที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อนก็ตาม เว้นแต่ว่าจะเป็นครอบครัวของเยซูแห่งนาซาเรธจริงๆ ขณะที่ภาพยนตร์สารคดี "The Lost Tomb of Jesus" สรุปไว้ว่า โอกาสที่สุสานดังกล่าวจะไม่ใช่สุสานของเยซูแห่งนาซาเรธมีเพียง 1 ใน 600 หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า มีโอกาสมากกว่า 99% ที่สุสานดังกล่าวจะเป็นของพระเยซูตามพระคริสตธรรมใหม่ และผลการค้นพบทางนิติเวชครั้งใหม่ซึ่งเชื่อมโยงกล่องเก็บกระดูกของ James เข้ากับสุสานทาลปยอต ยิ่งทำให้มีความเป็นไปได้มหาศาลว่าสุสานดังกล่าวเป็นของเยซูแห่งนาซาเรธ
หากดร.ชิมรอนพิสูจน์ได้ว่ากล่องเก็บกระดูกของ James มาจากสุสานทาลปยอต “หลักฐานดังกล่าวจะไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป” ซิมชา จาโคโบวีซี กล่าว “หลักฐานทางโบราณคดี ข้อความจารึก ข้อมูลสถิติ พ่วงด้วยหลักฐานทางเคมีที่จับต้องได้ ทั้งหมดล้วนชี้ไปในทิศทางเดียวกัน จึงนับได้ว่าเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่มีความสำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
ติดต่อ:
นิโคล ออสติน
อีเมล: naustin@apltd.ca
โทร. +1-416-504-6662
แหล่งข่าว: Associated Producers http://www.apltd.ca