เจนไน--27 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เฟิร์สท์คอล/อินโฟเควสท์
คาดรายได้ปีงบการเงิน 59 โต 10%-12% ภายใต้เงื่อนไขค่าเงินคงที่
อัตราจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุด 50% ของกำไรหลังหักภาษี โดยมีผลในปีงบการเงิน 58
ออกหุ้นโบนัสในสัดส่วน 1:1 ของหุ้นสามัญ และจ่ายหุ้นปันผลในสัดส่วน 1:1 ของหุ้น American Depositary Shares
กำไรต่อหุ้น ปีงบ 58 โต 15.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อัตรากำไรจากการดำเนินงานขยายตัว 1.90% ในปีงบการเงิน 58 สู่ระดับ 25.9%
การลดจำนวนพนักงานรายปีสำหรับบริษัท อินโฟซิส จำกัด ปรับตัวลดลงแตะ 13.4% ในไตรมาส 4 เทียบกับ 23.4% ในไตรมาส 1
บรรลุข้อตกลงซื้อ Kallidus Inc. (d.b.a Skava) และเข้าลงทุนใน Airviz
ประเด็นเด่นด้านการเงิน
ผลประกอบการรวมตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards: IFRS) สำหรับงวดปีและไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
งวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
- รายได้ 8,711 ล้านดอลลาร์ สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 7.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ภายใต้เงื่อนไขค่าเงินคงที่; เพิ่มขึ้น 5.6% ภายใต้เงื่อนไขตามรายงาน
- กำไรสุทธิ 2,013 ล้านดอลลาร์ สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 15.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- กำไรต่อหุ้น (EPS) 1.76 ดอลลาร์ สำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 15.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
- รายได้ 2,159 ล้านดอลลาร์ สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 3.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว; (2.6%) เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ภายใต้เงื่อนไขตามรายงาน
เพิ่มขึ้น 7.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ภายใต้เงื่อนไขค่าเงินคงที่;
- กำไรสุทธิ 498 ล้านดอลลาร์ สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 2.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว; (4.6%) เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- กำไรต่อหุ้น (EPS) 0.44 ดอลลาร์ สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558
เพิ่มขึ้น 2.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน; (4.6%) เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- สินทรัพย์สภาพคล่อง ซึ่งรวมถึงเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด, สินทรัพย์ทางการเงินที่พร้อมจำหน่าย บัตรเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาล อยู่ที่ 5,214 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 มีนาคม2558 เมื่อเทียบกับ 5,532 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 และ 5,048 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557
- ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณา อนุมัติ และเสนอแนะให้มีการออกหุ้นโบนัสในสัดส่วนหนึ่งหุ้นเดิมต่อหนึ่งหุ้นใหม่ และการจ่ายหุ้นปันผลในสัดส่วนหนึ่งหุ้นปันผลต่อหุ้น American Depositary Share (ADS) เดิม โดยจะกำหนดวันจ่ายหุ้นปันผลในภายหลัง
- นโยบายปัจจุบันของบริษัทคือ จ่ายปันผลสูงสุด 40% ของกำไรหลังหักภาษี อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเพิ่มอัตราจ่ายเงินปันผลเป็นสูงสุด 50% ของกำไรหลังหักภาษี โดยให้มีผลตั้งแต่ปีงบการเงิน 2558
- คณะกรรมการบริษัทเสนอจ่ายเงินปันผล 29.50 รูปีต่อหุ้น สำหรับปีงบการเงิน 2558 (เทียบเท่ากับ 14.75 รูปีต่อหุ้น ซึ่งจะมีผลหลังการออกหุ้นโบนัสในสัดส่วน 1:1 หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น) หรือแปลได้ว่า เงินปันผล 0.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น ก่อนการออกหุ้นโบนัส และ 0.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังการออกหุ้นโบนัส (ที่อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ/รูปีที่ 62.50)
- อินโฟซิสมีรายจ่าย 42 ล้านดอลลาร์ในปีงบการเงิน 58 ในส่วนของความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยดำเนินการผ่านทาง Infosys Foundation ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการกุศลของบริษัท Infosys Foundation ดำเนินโครงการต่างๆหลายโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาความหิวโหย สนับสนุนการศึกษา การรู้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน ส่งเสริมสุขภาพ ช่วยพัฒนาชนบท ส่งเสริมศิลปะ และช่วยเหลือผู้ยากไร้
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20130122/589162)
ประเด็นเด่นด้านอื่นๆ
- มีพนักงานเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 คนตลอดทั้งปี
- อัตราการใช้กำลังการผลิต (ไม่รวมผู้ฝึกงาน) ขยายตัว 4.50% ตลอดทั้งปี
- การลดจำนวนพนักงานรายปีสำหรับบริษัทอินโฟซิส จำกัด ปรับตัวลดลงแตะ 13.4% ในไตรมาส 4
"เรามองเห็นว่าอุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างและพื้นฐาน แม้ไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไตรมาสที่ท้าทาย แต่ผมก็พอใจที่การดำเนินกลยุทธ์ Renew-New ของเรานั้นประสบความสำเร็จตั้งแต่ระยะเริ่มแรก" Dr. Vishal Sikka ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการกล่าว "แผนงานสร้างความผูกพันของพนักงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาส่งผลให้อัตราการลดจำนวนพนักงานปรับตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่การลงทุนในด้านนวัตกรรมและในการต่อยอดขีดความสามารถของเรานั้น กำลังช่วยให้เรายกระดับความสัมพันธ์กับลูกค้า"
"การขยายตัวของบริการต่างๆในช่วงไตรมาสสี่ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ แม้ชุดโปรแกรม Finacle และ Edge เติบโตแข็งแกร่งก็ตาม โดยเรายังคงถูกกดดันในเรื่องการกำหนดราคา เนื่องจากการที่สินค้าและบริการต่างๆในธุรกิจเอาท์ซอร์สมีความคล้ายคลึงกันมากขึ้นทุกที จนแทบจะไร้ความแตกต่าง (commoditization) ทำให้เราต้องเพิ่มกำลังผลิตผ่านระบบอัตโนมัติ และยกระดับบริการของเราให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งมากขึ้น" U.B. Pravin Rao ซีโอโอกล่าว "อย่างไรก็ดี เราอยู่ในจุดที่จะสามารถเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ต่อไปในปีงบการเงินใหม่"
"ถึงแม้เราลงทุนไปกับพนักงานและในด้านอื่นๆที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ แต่ความสามารถในการทำกำไรของเราก็ยังคงปรับตัวดีขึ้นในระหว่างปีงบการเงินที่ผ่านมา เราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ เพราะประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น แม้ถูกดดันจากปัจจัยท้าทายเรื่องการกำหนดราคาก็ตาม" Rajiv Bansal ซีเอฟโอกล่าว "คณะกรรมการอนุมัติให้เพิ่มอัตราจ่ายเงินปันผลเป็น 50% ของกำไรหลังหักภาษี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้เสนอให้ออกหุ้นโบนัสในสัดส่วน 1:1 ของหุ้นสามัญ และจ่ายหุ้นปันผลในสัดส่วน 1:1 ของหุ้น American Depositary Shares"
แนวโน้ม*
แนวโน้มของบริษัท (รวมบริษัทในเครือ) สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ภายใต้มาตรฐาน IFRS มีดังนี้:
- คาดว่ารายได้จะขยายตัว 10%-12% ภายใต้เงื่อนไขสกุลเงินคงที่;
- คาดว่ารายได้จะขยายตัว 6.2%-8.2% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
*อัตราแลกเปลี่ยน: AUD/USD - 0.76; Euro/USD - 1.08; GBP/USD - 1.48 สำหรับปีงบการเงิน 2559
ประเด็นเด่นด้านธุรกิจ
ในขณะที่เราเดินหน้ากลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจหลัก ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่ขอบเขตใหม่ๆนั้น เราได้เห็นว่ามีลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายรายในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ เรายังได้ยกระดับการลงทุนในด้านการศึกษาและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมการเรียนรู้และสร้างสรรค์
การทำข้อตกลงกับลูกค้า
- ABN AMRO เลือกเราเป็นหนึ่งในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ เราจะมอบบริการในด้านการพัฒนาแอพลิเคชัน ตลอดจนการบำรุงรักษา การทดสอบ และการออกผลิตภัณฑ์
- Western Union Financial Services เลือกเราดำเนินโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (turnkey) ระยะ 11 ปี โดยเรามีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในการยกระดับระบบชำระเงินทั่วโลกของบริษัทให้มีความทันสมัย รวมทั้งดำเนินการบำรุงรักษาและสนับสนุนระบบ
- เราได้รับสัญญาจ้างระยะหลายปีจาก House of Fraser (ซึ่ง Sanpower Group China เพิ่งซื้อกิจการไปเมื่อเร็วๆนี้) ให้ดำเนินการปฏิรูปธุรกิจหลายช่องทางและโครงสร้างพื้นฐานไอทีของบริษัท
Frank Slevin ประธาน House of Fraser กล่าวว่า "โครงการนี้จะช่วยให้เรานำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่และทันสมัยเพื่อยกระดับธุรกิจแบบหลายช่องทางของเรา โครงการนี้ยังจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายธุรกิจ ในขณะที่เราขยายกิจการไปทั่วโลก และเรามุ่งหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับอินโฟซิสต่อไปในระยะยาว"
- เราได้รับเลือกจากร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสัญชาติอเมริกันรายหนึ่งให้เป็นผู้จัดการระบบบริการ โครงสร้างพื้นฐาน และบริการสนับสนุนแอพลิเคชั่น โซลูชั่นนี้จะช่วยให้ลูกค้ารายนี้ประหยัดต้นทุนลงได้เป็นอย่างมาก ตลอดจนได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยตรง และเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรม ซึ่งจะเปิดทางให้บริษัทหันไปมุ่งเน้นที่แผนงานธุรกิจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างเต็มที่
- บริษัทขนส่งด่วนชั้นแนวหน้าของโลกรายหนึ่งเลือกให้เราเป็นผู้ดำเนินการปรับเปลี่ยนแอพลิชั่นเทคโนโลยีของบริษัทให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยเราจะช่วยพัฒนาแอพพลิเคชั่นและให้บริการบำรุงรักษา ตลอดจนนำเสนอเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อลดความยุ่งยากและลดต้นทุน พร้อมกับทำให้ลูกค้ามีความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น
แพลตฟอร์ม
Infosys Information Platform (IIP) ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในตลาด โดย IIP สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเราในการสร้างแพลตฟอร์มล้ำสมัย ด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้านโดเมน ศักยภาพในการเรียนรู้ และระบบนิเวศแบบเปิด รวมถึงทีมงานที่มีความกระตือรือร้นสูงมารวมเข้าไว้ด้วยกัน
- Syngenta ผู้นำโลกด้านธุรกิจการเกษตร เผชิญกับความท้าทายด้านประสิทธิภาพการทำงานของโซลูชั่น Management Reporting Solution เนื่องจากข้อมูลมีขนาดใหญ่ อินโฟซิสจึงดำเนินการทดสอบความเป็นไปได้ หรือ Proof of Concept ด้วยการใช้ Infosys Information Platform ในการปรับปรุงผลการทำงานของ Management Reporting Solution โดย IIP สามารถฉีดข้อมูล 19 ล้านรายการภายใน 6 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดข้อมูลครึ่งล้านรายการภายในเวลากว่า 1 ชั่วโมง ในทำนองเดียวกัน IIP ยังสามารถกำหนดการรายงาน/แดชบอร์ดภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มทั่วไปที่ใช้เวลามากกว่า 1 นาที
- Syngenta ใช้แพลตฟอร์ม Infosys Automation สำหรับการกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งาน SAP โดยระบบอัตโนมัตินี้ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานทางด้านไอทีลงไปได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงผลิตภาพของผู้ใช้ ด้วยการปิดคำร้องกำหนดสิทธิ์ใช้งานที่รวดเร็ว
- The Hershey Company บริษัทผู้ผลิตขนมหวานชั้นนำของโลก ทำสัญญาให้เราเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในด้านบริการให้คำปรึกษาและเทคโนโลยี โดยบริษัทเลือกใช้ Infosys Information Platform (IIP) เพื่อเปลี่ยนข้อมูลที่มีหลากหลายให้กลายเป็นความรู้และข้อมูลเชิงลึก ซึ่งช่วยให้บริษัทตัดสินใจโดยอาศัยความเข้าใจในผู้บริโภค ลูกค้า ตลาด และอุตสาหกรรมเป็นที่ตั้ง
Carlos E. Amesquita ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ The Hershey Company กล่าวว่า "หัวใจของ Hershey คือการเป็นองค์กรแห่งความรู้ อินโฟซิสและแพลตฟอร์มใหม่อย่าง IIP ได้ผนวกรวมศักยภาพและความเร็วที่สูงขึ้น เพื่อเปิดรับชุดข้อมูลอันหลากหลาย พร้อมประสานและผูกโยกชุดข้อมูลให้ผสมกลมกลืนกัน เพื่อที่จะแปลงข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงให้กลายเป็นความรู้และข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้"
Finacle
Finacle(TM) ยังคงรักษาอัตราความสำเร็จทางธุรกิจ ด้วยการทำสัญญาใหม่กับลูกค้า 23 ราย และเริ่มให้บริการลูกค้า 11 รายในไตรมาสนี้ โดย Discover Financial Services บริษัทชั้นนำของสหรัฐผู้ให้บริการด้านการธนาคารและการชำระเงินโดยตรง ซึ่งทำสัญญากับ Finacle เมื่อปีที่แล้ว ได้รับรางวัล Celent Model Bank จากโครงการเปลี่ยนระบบ Core Banking ทั้งนี้ รายงานการประเมินธนาคาร 1,000 อันดับแรกของโลก เผยให้เห็นว่าธนาคารที่ใช้ Finacle มีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 50% อัตราผลตอบแทนต่อทุนเพิ่มขึ้น 30% และต้นทุนต่อรายได้ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ 8.1% ในระหว่างไตรมาสดังกล่าว Feedback Business Consulting ได้ดำเนินการวิจัยนี้โดยอาศัยข้อมูลที่ตีพิมพ์โดย 'The Banker' for top 1000 world banks[1]
- Qantas Credit Union ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ Finacle ในไตรมาสนี้สำหรับตลาดออสเตรเลีย Scott King ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Qantas Credit Union กล่าวว่า "ระบบดิจิตอลกำลังเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในภาคธนาคารอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เราสามารถแข่งขันและตามทันความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของสมาชิก เราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและการดำเนินงานของเรา หลังการประเมินอย่างถี่ถ้วนเป็นเวลาหลายเดือน เราจึงได้ตัดสินใจร่วมมือกับอินโฟซิส ผมเชื่อมั่นว่าอินโฟซิสและแพลตฟอร์ม Finacle ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก จะช่วยปูรากฐานแห่งความสำเร็จของเราในอนาคต และจะช่วยให้เรามอบบริการด้านการธนาคารที่ดีที่สุดแก่สมาชิกของเรา"
[1]The Banker Top 1000 world banks - http://www.thebanker.com/Top-1000-World-Banks
EdgeVerve
EdgeVerve เติบโตทั้งในแง่รายได้และฐานลูกค้า เราได้ทำข้อตกลงกับลูกค้า 12 ราย และเริ่มให้บริการลูกค้า 3 รายในไตรมาสนี้
- Syngenta เริ่มใช้งาน TradeEdge Dealer Management System เพื่อบริหารจัดการผู้จัดจำหน่ายในสองรัฐของอินเดีย และจะเริ่มเปิดให้ผู้จัดจำหน่ายในรัฐอื่นๆได้ใช้งานในปีหน้า
- สองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินของสหรัฐเลือกใช้ CreditFinanceEdge ของเรา เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการระดับโลกของบริษัท ขณะที่บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐแห่งหนึ่งได้ขยายการใช้งาน AssistEdge พร้อมก้าวไปอีกขั้นสู่การเปลี่ยนโฉมศูนย์ติดต่อลูกค้า ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และลดต้นทุนด้านบริการลูกค้า AssistEdge ยังถูกนำไปใช้ในระบบผลิตหุ่นยนต์แบบอัตโนมัติเพื่อยกระดับขั้นตอนการบริหารจัดการคำสั่งสำหรับลูกค้ารายหนึ่งในอุตสาหกรรมไฮเทค
การซื้อกิจการ การลงทุน และพันธมิตร
- ไตรมาสนี้ เราเสร็จสิ้นการซื้อธุรกิจ Panaya ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติ โดยบริการ CloudQuality(TM) ของ Panaya จะเปิดทางให้เราสามารถใช้ระบบอัตโนมัติกับบริการต่างๆ ผ่านทางโมเดล SaaS อันว่องไว อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยง ต้นทุน และระยะเวลาออกสู่ตลาดแก่ลูกค้า
- เราบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อ Kallidus Inc. (d.b.a Skava) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นดิจิตอล ทั้งระบบการพาณิชย์ผ่านมือถือและการช็อปปิ้งในร้านแก่ลูกค้ารายใหญ่ในภาคค้าปลีก การซื้อกิจการดังกล่าวจะเป็นการซื้อด้วยเงินสดทั้งหมดเป็นมูลค่าราว 120 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเงินโบนัสและเงินรอตัดบัญชี โดย Skava นำเสนอแพลตฟอร์มระบบคลาวด์สำหรับเว็บไซต์บนมือถือ ตลอดจนแอพพลิเคชั่น และระบบช็อปปิ้งดิจิตอลอื่นๆบนโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เดสก์ท็อป ภายในร้านค้า และช่องทางใหม่ๆทั้งหมด แก่ลูกค้ารายใหญ่ในภาคค้าปลีกทั่วโลก แพลตฟอร์มดังกล่าวเปิดโอกาสให้เหล่าผู้ค้าปลีกสามารถนำเสนอประสบการณ์การใช้มือถือที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ผ่านสภาพแวดล้อมที่ฉับไวและยืดหยุ่น อีกทั้งยังสามารถปรับได้ตามความต้องการ และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในช่องทางต่างๆได้อีกด้วย
- นอกจากนี้ เรายังบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายสำหรับการลงทุนเบื้องต้นเป็นจำนวน 2 ล้านดอลลาร์ใน Airviz เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อย Airviz เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพอากาศส่วนบุคคลที่แยกตัวออกมาจาก Carnegie Mellon University การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเม็ดเงินลงทุนราว 500 ดอลลาร์ในกองทุนส่งเสริมนวัตกรรม หรือ Innovation Fund โดยกองทุนนี้มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และหนุนให้เราเป็นกำลังขับเคลื่อนในตลาดดูแลสุขภาพส่วนบุคคลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยโซลูชั่นบิ๊กดาต้าที่ช่วยตรวจจับมลพิษทางอากาศในแหล่งที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ เครื่องตรวจจับอนุภาคละเอียดราคาย่อมเยา Airviz Speck ซึ่งใช้เทคโนโลยีจาก Carnegie Mellon University ที่กำลังรอการจดสิทธิบัตรนั้น จะเสริมสร้างพลังของผู้ใช้และชุมชนในการทำความเข้าใจและรับทราบถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มีสาเหตุมาจากคุณภาพของอากาศ
- เราพยายามผลักดันให้ทั่วทั้งองค์กรยึดหลักปรัชญาการคิดเชิงออกแบบ (design thinking) ซึ่งจนถึงวันนี้ บริษัทได้ฝึกอบรมด้านการคิดเชิงออกแบบให้กับพนักงานมากกว่า 25,000 ราย และยังได้คิดค้นหลักสูตรอบรมการคิดเชิงออกแบบสำหรับพนักงานใหม่ที่ศูนย์ Infosys Global Education Center ในเมืองไมซอร์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวกว่า 22,000 รายในปีการเงิน 2559 ทั้งนี้ เรามีความมุ่งมั่นต่อการสานต่อกลยุทธ์นี้ร่วมกับลูกค้าของเรา โดยในไตรมาสนี้ เราประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการส่งเสริมการคิดเชิงออกแบบกว่า 20 รายการร่วมกับลูกค้าของเรา และได้รับกระแสตอบรับดีมาก
สำหรับโครงการส่งเสริมการคิดเชิงออกแบบที่ RWE AG ได้ดำเนินร่วมกับอินโฟซิสนั้น Peter Terium ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RWE AG กล่าวว่า “บริษัทของเรา หรืออันที่จริงแล้วทั้งอุตสาหกรรม กำลังอยู่ในระหว่างการปฏิรูปครั้งใหญ่ และเมื่อพิจารณาถึงขนาดของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป RWE จึงได้เลือกที่จะก้าวออกจากกรอบเดิมๆเพื่อยกระดับนวัตกรรมจากภายใน เมื่อครั้งที่เราได้ริเริ่มคิดค้นนวัตกรรมเมื่อกว่าสองปีก่อน และด้วยความเปลี่ยนแปลงนี้เอง RWE ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรเก่าแก่อย่างอินโฟซิส โดยอินโฟซิสได้ช่วยให้ความน่าตื่นเต้นนี้ปรากฏขึ้นจริงที่สำนักงานซิลิคอนแวลลีย์ของ RWE การดำเนินงานร่วมกับอินโฟซิสด้านการคิดเชิงออกแบบนั้นได้มอบผลตอบแทนอันยอดเยี่ยม ผ่านการขยายขอบข่ายตามที่เราเห็นว่าเป็นไปได้ อินโฟซิส ช่วยให้เราสามารถเร่งกระบวนการเรียนรู้ พร้อมเพิ่มพูนความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นเพื่อความเป็นเลิศ ซึ่งนับเป็นเสาหลักของ RWE มาโดยตลอด โดยผ่านความร่วมมือกับ d.Global และ Stanford d.school ทั้งนี้ ผมมุ่งหวังที่จะสานต่อความเป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์และความร่วมมือต่อไป ระหว่างบริษัทของเราในซิลิคอนแวลลีย์และทั่วโลก”
- เรากำลังประสานงานกับมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ East China Normal University, University of California, Irvine และ University of Wisconsin-Madison ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการวิจัยในสาขาต่างๆ เช่น ฐานข้อมูลแบบขนานขนาดใหญ่ บิ๊กดาต้า และระบบบริหารจัดการหน่วยเก็บ โดยเราจะดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยเหล่านี้ โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัย อีกทั้งดำเนินโครงการร่วม และตรวจสอบระบบอันทันสมัยนี้กับลักษณะการใช้งานและปริมาณงานตามจริง ความร่วมมือนี้จะยกระดับความรู้ความเชี่ยวชาญและศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา (เช่น IIP) ในขอบข่ายต่างๆที่กำลังเกิดความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่น บิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ อินเมมโมรี่คอมพิวติ้ง และหน่วยความจำแบบกระจาย พร้อมเร่งการใช้นวัตกรรมเหล่านี้ภายในองค์กรที่เป็นลูกค้าของเรา
กองทุนส่งเสริมนวัตกรรม
ไตรมาสนี้ อินโฟซิสได้ประกาศก่อตั้งกองทุน 'Innovate in India Fund' โดยใช้เงินลงทุนจากกองทุน Innovation Fund มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน Innovate in India Fund มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ (1.55 หมื่นล้านรูปี) จะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในบริษัทหน้าใหม่ในอินเดียที่มีศักยภาพ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะได้รับโอกาสในการก้าวขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่เรากำลังสร้างขึ้น
เรากำลังจะประกาศเปิดตัว Infosys Incubator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Infosys Innovation Fund โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหา บ่มเพาะ และส่งเสริมกลุ่มบริษัทที่มีบทบาทพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเรา และก่อให้เกิดขอบข่ายงานใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต โดยจากการชี้แนะและให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจเกิดใหม่เหล่านี้ เราหวังที่จะชิงนวัตกรรมที่ได้รับการคิดค้นใหม่นี้ก่อนใคร เพื่อนำเสนอสู่ตลาดต่อไป นับเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดาบริษัทหน้าที่ใหม่ที่เกี่ยวข้องได้อยู่รอดและประสบความสำเร็จต่อไปในระยะยาว
มากกว่าธุรกิจ
ในปีการเงินนี้ อินโฟซิสได้จัดสรรงบประมาณ 2.54 พันล้านรูปี เพื่อนำไปใช้ในโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานผ่านมูลนิธิ Infosys Foundation ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการกุศลของบริษัท
สำหรับไตรมาสและปีงบการเงิน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 นั้น อินโฟซิสและบริษัทในเครือได้บริจาคเงิน 11 ล้านดอลลาร์ และ 42 ล้านดอลลาร์แก่มูลนิธิ Infosys Foundation และโครงการ Spark-IT
ในช่วงไตรมาสดังกล่าว สมาคม Association for Computing Machinery (ACM) และมูลนิธิ Infosys Foundation ประกาศมอบรางวัล 2014 ACM-Infosys Foundation Award สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์แก่ Dan Boneh เพื่อยกย่องผลงานอันยอดเยี่ยมของ Boneh ในการพัฒนากระบวนการเข้ารหัสแบบ pairing-based และการเข้ารหัสแบบ identity-based ทั้งนี้ รางวัล ACM-Infosys Foundation Award จะมอบให้แก่นวัตกรรมที่ได้รับการคิดค้นขึ้นใหม่โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนาระบบรุ่นเยาว์ในสาขาคอมพิวติ้ง ซึ่งทาง Infosys Foundation มอบเงินสนับสนุนรางวัลนี้ทั้งสิ้น 175,000 ดอลลาร์
เกี่ยวกับ อินโฟซิส จำกัด
อินโฟซิส เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการให้คำปรึกษา เทคโนโลยี เอาท์ซอร์ซ และบริการยุคหน้า เราช่วยให้ลูกค้าในกว่า 50 ประเทศอยู่ในระดับแถวหน้าของแนวโน้มธุรกิจเกิดใหม่ และรักษาความได้เปรียบด้านการแข่งขัน เราช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงและเติบโตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วยการร่วมกันสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ทันสมัยซึ่งประกอบไปด้วยความรู้เชิงลึกในเรื่องกลยุทธ์ และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน
กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.infosys.com เพื่อศึกษาว่าอินโฟซิส (NYSE: INFY) ซึ่งมีรายได้ 8.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และมีพนักงานกว่า 165,000 คน สามารถช่วยให้องค์กรต่างๆฟื้นฟูตนเอง พร้อมกับสร้างสรรค์ลู่ทางใหม่ๆในการสร้างมูลค่าได้อย่างไร
ข้อยกเว้นความรับผิด
ข้อความบางข้อความในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ที่เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวในอนาคตของอินโฟซิส ถือเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเกี่ยวกับธุรกิจในอนาคตของเรา ซึ่งถือว่าเข้าข่าย “ข้อยกเว้นความรับผิด” ภายใต้กฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจส่งผลให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้นแตกต่างอย่างมากจากข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับข้อความเหล่านี้ประกอบไปด้วย ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากความผันผวนของผลประกอบการ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความสามารถของเราในการบริหารการเติบโต ความรุนแรงของการแข่งขันในการให้บริการด้านไอที ซึ่งรวมไปถึงปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อความได้เปรียบด้านต้นทุนของเรา การเพิ่มค่าแรงในอินเดีย ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีทักษะความสามารถสูงไว้กับบริษัท ระยะเวลาและต้นทุนในการดำเนินการตามสัญญาที่กำหนดกรอบเวลาและราคาที่แน่นอน การให้ความสำคัญของลูกค้า การควบคุมเรื่องการย้ายถิ่นฐาน การให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรม ความสามารถของเราในการบริหารจัดการการดำเนินงานในต่างประเทศ ความต้องการที่ลดลงสำหรับเทคโนโลยีที่เราให้ความสำคัญ ภาวะติดขัดหรือความล้มเหลวของโครงข่ายโทรคมนาคม ความสามารถของเราในการเข้าซื้อและผนวกรวมธุรกิจใหม่ให้สำเร็จลุล่วง หนี้สินที่เกิดจากความเสียหายจากการให้บริการตามสัญญาของเรา ความสำเร็จของบริษัทต่างๆที่อินโฟซิสได้เข้าไปลงทุนเชิงกลยุทธ์ การยกเลิกหรือการหมดอายุของมาตรการสร้างแรงจูงใจทางการคลังของรัฐบาล ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความขัดแย้งในภูมิภาค ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อกิจการภายนอกประเทศอินเดีย และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเราและภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เราดำเนินงาน สำหรับความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเรานั้นได้มีการอธิบายอย่างละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งรวมไปถึง Annual Report ใน Form 20-F สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 และ Form 6-K สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557, 30 กันยายน 2557 และ 31 ธันวาคม 2557 สามารถดูเอกสารเหล่านี้ได้ที่ http://www.sec.gov อินโฟซิสอาจแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจา ซึ่งรวมไปถึงข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และในรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น โปรดทราบว่า วันที่ของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้คือวันที่ 24 เมษายน 2558 และข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตซึ่งระบุถึงในที่นี้ เกิดจากสมมติฐานที่เราเชื่อว่าสมเหตุสมผล ณ วันที่ระบุ ทั้งนี้ บริษัทไม่มีหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อความที่เป็นลักษณะการคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งอาจมีการจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราว หรือในนามของบริษัท เว้นแต่กฎหมายกำหนด
Infosys Limited and subsidiaries
Unaudited Condensed Consolidated Interim Balance Sheets as of
(Dollars in millions except equity share data)
March 31, 2015 March 31, 2014
ASSETS
Current assets
Cash and cash equivalents 4,859 4,331
Available-for-sale financial assets 140 367
Investment in certificates of deposit - 143
Trade receivables 1,554 1,394
Unbilled revenue 455 469
Prepayments and other current assets 527 440
Derivative financial instruments 16 36
Total current assets 7,551 7,180
Non-current assets
Property, plant and equipment 1,460 1,316
Goodwill 495 360
Intangible assets 102 57
Investment in Associates 15 -
Available-for-sale financial assets 215 208
Deferred income tax assets 85 110
Income tax assets 654 254
Other non-current assets 38 37
Total non-current assets 3,064 2,342
Total assets 10,615 9,522
LIABILITIES AND EQUITY
Current liabilities
Trade payables 22 29
Derivative Financial Instruments - -
Current income tax liabilities 451 365
Client deposits 4 6
Unearned revenue 168 110
Employee benefit obligations 171 159
Provisions 77 63
Other current liabilities 927 792
Total current liabilities 1,820 1,524
Non-current liabilities
Deferred income tax liabilities 25 11
Other non-current liabilities 8 54
Total liabilities 1,853 1,589
Equity
Share capital- INR 5 ($0.16) par value 1,200,000,000
(600,000,000) equity shares authorized, issued and
outstanding 1,142,805,132 (571,402,566), net of
5,667,200 (2,833,600) treasury shares as of March
31, 2015 (March 31, 2014), respectively 109 64
Share premium 659 704
Retained earnings 10,090 8,892
Other components of equity (2,096) (1,727)
Total equity attributable to equity holders of the
company 8,762 7,933
Non-controlling interests - -
Total equity 8,762 7,933
Total liabilities and equity 10,615 9,522
Infosys Limited and subsidiaries
Unaudited Condensed Consolidated Interim Statements of Comprehensive Income
(Dollars in millions except share and per equity share data)
Three months Three months Year ended Year ended
ended March ended March March 31, March 31,
31, 2015 31, 2014 2015 2014
Revenues 2,159 2,092 8,711 8,249
Cost of sales 1,317 1,318 5,374 5,292
Gross profit 842 774 3,337 2,957
Operating expenses:
Selling and marketing expenses 118 104 480 431
Administrative expenses 169 136 599 547
Total operating expenses 287 240 1,079 978
Operating profit 555 534 2,258 1,979
Other income, net 141 139 560 440
Share in associate's profit /
(loss) - - - -
Profit before income taxes 696 673 2,818 2,419
Income tax expense 198 186 805 668
Net profit 498 487 2,013 1,751
Other comprehensive income
Items that will not be
reclassified to profit or
loss:
Re-measurement of the net
defined benefit
liability/(asset) (2) (10) (8) -
Items that may be reclassified
subsequently to profit or
loss:
Fair value changes on
available-for-sale financial
asset (2) (3) 14 (17)
Exchange differences on
translation of foreign
operations 53 228 (375) (616)
Total other comprehensive
income, net of tax 49 215 (369) (633)
Total comprehensive income 547 702 1,644 1,118
Profit attributable to:
Owners of the company 498 487 2,013 1,751
Non-controlling interests - - - -
498 487 2,013 1,751
Total comprehensive income
attributable to:
Owners of the company 547 702 1,644 1,118
Non-controlling interests - - - -
547 702 1,644 1,118
Earnings per equity share(*)
Basic ($) 0.44 0.43 1.76 1.53
Diluted ($) 0.44 0.43 1.76 1.53
Weighted average equity shares
used in computing earnings per
equity share(*)
Basic 1,142,805,132 1,142,805,132 1,142,805,132 1,142,805,132
Diluted 1,142,833,626 1,142,805,132 1,142,821,470 1,142,805,132
*Adjusted for 1:1 bonus issue in December, 2014
NOTE:
1. The unaudited Condensed Consolidated interim Balance sheets and Condensed Consolidated interim Statements of Comprehensive Income for the three months and year ended March 31, 2015 have been taken on record at the Board meeting held on April 24, 2015
2. A Fact Sheet providing the operating metrics of the company can be downloaded from http://www.infosys.com
IFRS-INR Press Release: http://multivu.prnewswire.com/prnehost/Infosys_INR_press_release.pdf
Fact Sheet: http://multivu.prnewswire.com/prnehost/Infosys_Fact_sheet.pdf
ติดต่อ
นักลงทุนสัมพันธ์
Sandeep Mahindroo
+91 80 3980 1018
Sandeep_Mahindroo@infosys.com
สื่อมวลชนสัมพันธ์
Sarah Vanita Gideon, India
+91 80 4156 3373
Sarah_Gideon@Infosys.com
John Gallagher
Brunswick Group for Infosys, USA
+1 415 316 8060
jgallagher@brunswickgroup.com
ที่มา: อินโฟซิส