ฮิลล์สโบโร่--21 เม.ย.--พีอาร์เอ็นนิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท
บริษัทเอฟอีไอ คอมพานี ได้ประกาศตัวเลขผลประกอบการประจำไตรมาส แรกของปีนี้ โดยในวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ทางบริษัทได้ตกลงร่วมกิจการกับบริษัทฟิลิปส์ อิเลคตรอน อ็อปติค (พีอีโอ) ดังนั้น ตัวเลขผลประกอบการดังกล่าวจึงเป็นตัวเลขผลประ กอบการของบริษัทที่รวมกิจการแล้ว ซึ่งจะแสดงถึงผลประกอบการของบริษัทพีอีโอตลอดช่วง ไตรมาส รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทเอฟอีไอก่อนรวมกิจการเฉพาะในช่วงตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.จนถึงสิ้นไตรมาสแรก
สำหรับยอดขายสุทธิในช่วงไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 32,241,000 ดอลล่าร์ ในขณะที่ตัวเลขขาดทุนสุทธิของบริษัทประจำไตรมาสอยู่ที่ระดับ 41,339,000 ดอลล่าร์ ส่วนค่าใช้จ่ายรวมช่วงไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับประมาณ 40 ล้าน ดอลล่าร์ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆที่ไม่ใช่เงินสดที่เกิดขึ้นครั้งเดียวโดยเกี่ยวข้องกับการทำธุร กรรมของพีอีโอและการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ผลขาดทุนต่อหุ้นที่ไม่รวมค่าใช้ จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวของพีอีโอนั้นอยู่ที่ระดับ 0.057 ดอลล่าร์/หุ้นสำหรับผลขาดทุนสุทธิ ต่อหุ้นที่ระดับ 1,104,000 ดอลล่าร์ และหนี้ค้างชำระรวม ณ วันที่ 18 เม.ย.ได้เพิ่มขึ้น สู่ระดับประมาณ 56 ล้านดอลล่าร์
ทางด้านนายบิล วิทเวิร์ด ประธานบริษัทเอฟอีไอ คอมพานีได้กล่าวว่า เขา รู้สึกตื่นเต้นกับการรวมตัวของบริษัทใหม่ และคาดว่าการร่วมมือทางด้านเทคนิค ซึ่งเป็นข้อ ได้เปรียบทางด้านการแข่งขันนั้นกำลังใกล้ที่จะบรรลุผล และคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายขึ้น ในช่วง 2 ไตรมาสหน้า
ส่วนดร.ลินวู้ด สแวนสัน ประธานกรรมการบริษัทเอฟอีไอได้กล่าวว่า ใน ขณะนี้ ทางบริษัทได้เตรียมพร้อมเข้าเจะตลาดโลกทั้งหมดที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอล ล่าร์ โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะเป็น การเปิดโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ของทางบริษัท นอกจากนี้ ทางบริษัทจะให้ความสน ใจกับทรัพยากร ซึ่งสอดคล้องที่สุดกับโอกาสทางการตลาด และจะนำไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้ รับการคัดเลือก ซึ่งจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้แก่ทางบริษัทต่อไป โดยบริษัทเอฟอีไอจะยังคง เป็นบริษัทที่มีการขยายตัว แต่ก็จะมีสถานะทางตลาดที่มั่นคงมากขึ้น
นอกเหนือจากแถลงการณ์ประวัติศาสตร์ดังกล่าว ก็มีประเด็นต่างๆที่มีการ กล่าวถึงในการจดหมายข่าวนี้ ซึ่งรวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการตลาด,การจัดสรรทรัพยากร และความคาดหมายเกี่ยวกับการรวมตัวกันนั้น รวมทั้งจะมีแถลงการณ์เกี่ยวกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนต่างๆด้วย สำหรับปัจจัยต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการที่แท้ จริงนั้นได้แก่ปัญหาในการดำเนินการผนวกกิจการของบริษัทเอฟอีไอและบริษัทฟิลิปส์ อิเลค ตรอน อ็อปติค,เงื่อนไขทางด้านธุรกิจและการขยายตัวในภาคอิเลคทรอนิคส์,วิทยาศาสตร์ เพื่อชีวิต,อุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจโดยทั่วไปทั้งภายในและระหว่างประเทศ, คำสั่งซื้อของลูกค้าที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้, ปัจจัยในด้านการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงความกดดัน ทางด้านราคา, การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ต่างๆของคู่แข่ง,ปัญหาทางด้านเทคโนโลยี, ข้อจำกัดด้านทรัพยากรซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ, การหลั่งไหลของผลิตภัณฑ์ รุ่นใหม่ของคู่แข่งในระยะเวลาที่เหมาะสมและการยอมรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของตลาด--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-พค/กช--