ASIANET : คาลเอ็นเนอร์จี้รุกคืบแผนควบกิจการ NYSEG

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 31, 1997 15:07 —Asianet Press Release

นิวยอร์ค--31 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
บริษัทคาลเอ็นเนอร์จี้ คอมพานี อิงค์ได้ออกแถลงการณ์หลังจากที่บริษัทนิวยอร์ค สเตท อิเล็คทริค แอนด์ แก๊ส คอร์ปอเรชั่น (NYSEG) ได้ปฏิเสธการทำเท็นเดอร์ออฟเฟอร์ สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 6,540,670 หุ้นของบริษัท NYSEG ที่ระดับราคา 24.50 ดอลล่าร์/ หุ้นและการที่ทางบริษัท NYSEG ได้ตัดสินใจที่จะไม่สานต่อการเจรจาควบกิจการที่ระดับราคา หุ้นละ 27.50 ดอลล่าร์ด้วย
ทั้งนี้ นายเดวิด แอล.โซคอล ประธานและซีอีโอของบริษัทคาลเอ็นเนอร์จี้ได้ กล่าวว่า "เรามีความผิดหวังที่บอร์ดของ NYSEG ได้ปฏิเสธข้อเสนอของเรา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการตัดสินใจดังกล่าว แต่เราตั้งใจที่จะดำเนินการทำธุรกรรมนี้โดยการเสนอราคา ซื้อหุ้นที่ระดับ 9.9 % และจะผลักดันแผนการควบกิจการบริษัท NYSEG ของเราอย่างมุ่งมั่น แต่ก็เป็นโชคไม่ดีที่บอร์ดของ NYSEG ได้พยายามที่จะปฏิเสธผลประโยชน์มหาศาลของการ รวมกันในครั้งนี้ที่จะมีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้น,ลูกค้าและพนักงานและชุมชนที่ทาง NYSEG ให้บริการอยู่ สำหรับการเสนอราคาซื้อหุ้นของเราในขั้นตอนแรกได้กำหนดราคาสำหรับผู้ถือหุ้นที่ระดับ 24.50 ดอลล่าร์และให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของ NYSEG สามารถที่จะส่งหนังสือไปยังบอร์ด NYSEG ว่าควรจะมีการเจรจาเกี่ยวกับการผนวกกิจการอย่างเป็นเอกฉันท์"
นอกจากนี้ นายโซคอลยังได้กล่าวอีกว่า "บอร์ด NYSEG เชื่อว่ากลุ่มผู้ถือหุ้น ของ NYSEG ไม่น่าที่จะได้รับอนุญาตให้ทำการตัดสินใจเองว่าจะยอมรับค่าพรีเมียมเงินสด จำนวนมากสำหรับหุ้นของ NYSEG หรือไม่ สำหรับข้อเสนอในการรวมตัวที่ใช้เงินสดที่ระดับ ราคาหุ้นสามัญของ NYSEG ที่ 27.50 ดอลล่าร์นั้น จะให้ค่าพรีเมียมแก่ผู้ถือหุ้นของ NYSEG สูงกว่าราคาปิดตลาดที่ 20 7/8 ดอลล่าร์/หุ้นเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาถึง 32 %"
นายโซคอลได้เสริมว่า "จริงๆแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลที่ NYSEG จะ ปฏิเสธข้อเสนอพรีเมียมเงินสดในบรรดาหนึ่งในตลาดที่มีความคึกคักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ เท่าที่เคยมีมา เมื่อบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลกระทบจากการลดลง 32 % ของราคา หุ้นของ NYSEG ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.1992 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.ปีนี้ และการลดลงของเงิน ปันผลในช่วงปี 1994 เหตุผลเพียงประการเดียวที่จะสามารถสรุปได้ว่าทางบอร์ดและคณะ บริหารของ NYSEG ได้พยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนไว้ก็คือการที่ทางบอร์ดและ คณะบริหารไม่ได้มีความวิตกกังวลในการที่จะหารือเงื่อนไขของข้อเสนอด้านเงินสดกับเรา และไม่เชื่อว่าการยอมรับความคิดเห็นของผู้ถือหุ้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เราเชื่อว่าผู้ถือหุ้น ของ NYSEG ควรที่จะได้สิ่งที่ดีขึ้น"
นายโซคอลกล่าวว่า "การประกาศในวันนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของสิ่งที่บริษัท อย่างคาลเอ็นเนอร์จี้สามารถที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ที่ NYSEG ได้ปกป้องการผูกขาด และต่อสู้กับคณะกรรมาธิการบริการสาธารณะ (พีเอสซี) อย่างหัวชนฝาเพื่อที่จะให้มีการดำเนินการปรับขึ้นอัตราค่าบริการ และยังเป็นเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์จากช่วงเวลาดังกล่าวที่เราได้ยื่นข้อเสนอและเริ่มการหารือเกี่ยวกับการปรับ ลดอัตราค่าบริการกับพีเอสซีและลูกค้าของ NYSEG ซึ่งทาง NYSEG ก็ได้ปรับเปลี่ยน แนวทางโดยฉับพลันและได้บรรลุข้อตกลงในหลักการกับพีเอสซี โดยช่วงเวลาดังกล่าวไม่ ใช่ช่วงเวลาเดียวกันอย่างชัดเจน เนื่องจากแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างวิธีการ รับมือของการผูกขาด และวิธีการรุกไล่ของบริษัทคาลเอ็นเนอร์จี้ที่มีต่อการแข่งขัน เรา ไม่เคยทำการผูกขาดและเราจึงไม่คิดเช่นนั้น ทั้งนี้ แทนที่จะปกป้องระบบแฟรนไชส์แบบ ผูกขาดที่กำลังถดถอยลงนั้น เราคาดว่าจะใช้การมุ่งเน้นการแข่งขันที่ให้ประโยชน์ต่อการ ทำธุรกรรมของ NYSEG ต่อบรรยากาศที่มีการผ่อนคลายข้อกำหนดลงและรับมือกับความ ท้าทายของการแข่งขันที่กำลังเผชิญอยู่ เราเชื่อว่าผู้ถือหุ้น, ลูกค้า, พนักงานและชุมชน ของบริษัท NYSEG จะได้ประโยชน์มากขึ้นในการรวมตัวกับบริษัทคาลเอ็นเนอร์จี้
นายโซคอลกล่าวด้วยว่า "มันเป็นสิ่งที่น่าแปลกที่จะถามถึงขีดความสามารถ ของคาลเอ็นเนอร์จี้ในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้า เพราะคาลเอ็นเนอร์จี้ดำเนินกิจการของ นอร์เธิร์น อิเล็คทริคในอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายไฟฟ้าที่มีฐานลูกค้าใหญ่กว่า NYSEG และภายใต้การควบกิจการระหว่างคาลเอ็นเนอร์จี้-NYSEG นั้น ทาง NYSEG จะยังคง ดำเนินการโดยพนักงานเดิมของ NYSEG และลูกค้าของ NYSEG ก็จะยังคงได้รับบริการ ที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยต่อไป โดยเราจะยังคงให้มีสำนักงานใหญ่ในของ NYSEG อยู่ในเมืองบิงแฮมตันต่อไป และจะให้ NYSEG เป็นฐานในการสร้างและขยายธุรกิจพลัง งานระดับภูมิภาคในขณะที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมทั้งเราจะไม่ดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนกันซึ่ง จำเป็นต้องมีการปรับการดำเนินงานหลังการควบกิจจการของเรา"
นอกจากนี้ นายโซคอลยังกล่าวว่า เราได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่าทาง NYSEG กำลังพยายามที่จะอ้างว่าปัญหาบางส่วนของบริษัทนั้นเป็นผลมาจากการทำสัญญากับบริษัท ซาราแนค พาร์ตเนอร์ชิพซึ่งคาลเอ็นเนอร์จี้ไม่ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยจนกระทั่งมีการควบ กิจการของฟัลคอน ซีบอร์ดในปีที่ผ่านมา บรรดาลูกค้าไม่ควรถูกบิดเบือนความจริง โดย ราคาสัญญาซาราแนคขึ้นอยู่กับการที่พีเอสซีอนุมัติการประเมินต้นทุนในอนาคตของ NYSEG เพื่อผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ผมได้ชี้แจงกับลูกค้าของ NYSEG และราคาที่ NYSEG เรียก เก็บในปัจจุบันนั้นสูงกว่าที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับซาราแนคอย่างมาก ทั้งนี้ คณะกรรมการ บอร์ดและคณะบริหารของ NYSEG จะใช้เวลาร่วมงานกับคาลเอ็นเนอร์จี้เพื่อหาแนวทาง การดำเนินงานที่สร้างสรรค์ในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มากกว่าจะหาข้ออ้าง สำหรับอดีตที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายโซคอลได้สรุปว่า "อีกตัวอย่างหนึ่งของการผูกขาดซึ่งใช้เวลาและ เงินทุนไปอย่างเปล่าประโยชน์ก็คือการฟ้องร้องทางกฏหมายของ NYSEG ซึ่งเป็นความ พยายามที่จะเลื่อนข้อเสนอของเราออกไป ดังนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจที่มีการฟ้องร้องของ ผู้ถือหุ้น NYSEG ต่อคณะกรรมการบอร์ดของ NYSEG โดยได้มีการกล่าวหาว่า คณะกรรม การบอร์ดกำลังละเมิดหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายที่มีต่อผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ในวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทซีอี อิเล็คทริค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ของคาลเอ็นเนอร์จี้ได้เริ่มเสนอราคาซื้อหุ้นสามัญจำนวน 6,540,670 หุ้นของ NYSEG อย่างเป็นทางการที่ระดับราคา 24.50 ดอลล่าร์/หุ้น รวมทั้งหุ้นที่คาลเอ็นเนอร์จี้ถืออยู่ ด้วยซึ่งเป็นจำนวนหุ้นสูงสุดที่บริษัทสามารถถือได้ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติให้ทำการควบกิจ การ โดยการเสนอซื้อหุ้นจะสิ้นสุดลงในช่วงเที่ยงคืนตามเวลานิวยอร์ควันที่ 14 ส.ค.ที่ จะถึงนี้ นอกเสียจากว่าจะมีการขยายเวลาออกไป
ทั้งนี้ คาลเอ็นเนอร์จี้ ซึ่งดำเนินการและถือหุ้นในการประกอบการ,การก่อ สร้างและการพัฒนาโรงงานผลิตไฟฟ้าซึ่งมีกำลังผลิตกว่า 5,000 เม็กกะวัตต์ทั่วโลกนั้น ปัจจุบันดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า 19 แห่ง รวมทั้งจัดหาและส่งกระแสไฟฟ้าให้กับลูกค้า 1.5 ล้านราย--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-พค/กช--

แท็ก AsiaNet   asian  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ