กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย--14 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมื่อเร็วๆนี้ Asia Plantation Capital ได้ให้การต้อนรับลูกค้ากลุ่มเกษตรกรและผู้จัดการทรัพย์สินและความมั่งคั่งจากฝรั่งเศส เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ที่โรงกลั่นและโรงงานที่สร้างขึ้นตามจุดประสงค์เฉพาะในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ทำพิธีเปิดไปเมื่อวันเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และมีกำหนดจะเปิดดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปีนี้ นับเป็นโรงกลั่นและโรงงานแปรรูปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับไม้กฤษณาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่เป็นที่ปรารถนามากที่สุด
http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-a
ศูนย์เพาะเลี้ยงต้นกฤษณาของ Asia Plantation Capital ที่รัฐยะโฮร์
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ความต้องการไม้กฤษณาเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะในรูปแบบน้ำมันหอม (Oud) ชิ้นไม้ และผลงานแกะสลักจากไม้ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ที่มีมูลค่าสูงที่สุด (เมื่อเทียบเป็นกิโลกรัม) ในตลาด ที่ผ่านมาการลักลอบตัดไม้อย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนต้นกฤษณาลดลงอย่างมาก (แหล่งของไม้กฤษณา) สู่ระดับที่เกือบจะสูญพันธุ์
Asia Plantation Capital มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสร้างความมั่นใจว่า พันธุ์ไม้นี้จะดำรงอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นนี้เองทำให้เราพุ่งเป้าไปยังส่วนที่มีความสำคัญมากๆอย่างการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวผลิตผลจากต้น Asia Plantation Capital ได้ออกแบบและจัดตั้งโครงการต่างๆด้วยความตระหนักถึงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งห้ามการค้าชนิดสัตว์และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) โดยมีการติดตามสถานะของผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณาทั้งหมดที่ส่งไปต่างประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีแหล่งที่มาถูกกฎหมาย สำหรับโครงการที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนารอบด้านเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตที่ได้จากต้น เพื่อไม่ให้มีส่วนใดเหลือทิ้ง นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะปลูกต้นกฤษณาอย่างน้อย 1 ต้น (โดยปกติจะมากกว่านั้น) ทดแทนต้นที่ผ่านการเก็บเกี่ยวแล้ว 1 ต้น เพื่อให้แน่ใจว่าพันธุ์ไม้นี้จะไม่สูญพันธุ์ Asia Plantation Capital มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการนำพันธุ์ไม้นี้กลับมาปลูกใหม่ในหลายพื้นที่ในเอเชีย ที่ซึ่งต้นไม้พันธุ์นี้ถูกใช้ไปจนหมด อาทิ ฮ่องกง และศรีลังกา
"การเดินทางไปยังพื้นที่เพาะปลูก สำนักงาน และบูติกต่างๆกับ Asia Plantation Capital นั้น ให้ข้อมูลดีมาก" คุณไวซ์ ลูกค้ารายหนึ่งจากเยอรมนีกล่าว "สำหรับฉัน การสาธิตกระบวนการตั้งแต่การปลูกต้นไม้ไปจนถึงการกลั่นน้ำมัน และการได้สัมผัสน้ำหอมที่ทำจากน้ำมันนั้นน่าประทับใจมาก ฉันตระหนักในทันทีว่ากลิ่นหอมของไม้และน้ำมันนั้นพิเศษจริงๆ"
http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-b
สตีฟ วัตส์ ซีอีโอประจำเอเชีย แปซิฟิค (ที่ 2 จากขวา) อธิบายคุณสมบัติต่างๆของโรงกลั่นจากไม้กฤษณาของ Asia Plantation Capital ให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมจากเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์
เหล่าผู้เยี่ยมชมได้แสดงความชื่นชมในสิ่งที่ได้เห็นและสัมผัส หลายๆคนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการที่จำเป็นและความพยายามของ Asia Plantation Capital ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดที่มีความยั่งยืน
"การเดินทางเพื่อเยี่ยมชมกระบวนการดำเนินงานของ Asia Plantation Capital จากทางเหนือสู่ทางตะวันออกของประเทศไทย ไปยังรัฐยะโฮร์และสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ รวมถึงบูติก Fragrance Du Bois อันโดดเด่นที่โรงแรม Fullerton นั้นน่าพึงพอใจมาก" ดร.นายแพทย์แดเนียล เดอเลอโว กงศุลกิตติมศักดิ์มาดากัสการ์ประจำประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ.2539 กล่าว"ถือเป็นการเดินทางที่เป็นประโยชน์ และเพิ่มความรู้ของผมเกี่ยวกับต้นกฤษณาและน้ำมันกฤษณา ผมอยากจะขอขอบคุณทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ของ Asia Plantation Capital ซึ่งอัธยาศัยดี และจัดการทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ"
http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-c
ผู้เข้าเยี่ยมชมบูติก Fragrance Du Bois แห่งแรกที่สิงคโปร์ ณ โรงแรมฟุลเลอร์ตัน โฮเต็ล
"ที่ Asia Plantation Capital เราไม่ได้มุ่งมั่นผลิตวนผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากธรรมชาติเพียงเท่านั้น" มร.สตีฟ วัตส์ ซีอีโอประจำเอเชียแปซิฟิกของ Asia Plantation Capital กล่าว "แต่เรายังดำเนินการผลิตอย่างยั่งยืนด้วย รวมทั้งการทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสริมความตระหนักรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อม เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินงานเพื่อมอบผลประโยชน์ให้กับสังคมในภาพรวม เรายินดีที่ได้ต้อนรับเหล่าผู้มาเยือนโรงงานของเราทั่วทั้งเอเชีย และมีความภูมิใจที่มีส่วนช่วยส่งมอบความรู้ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับคุณประโยชน์อันแสนวิเศษของต้นกฤษณาที่ก่อให้เกิดไม้กฤษณา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้" เขากล่าวสรุป "มีจุดประสงค์เพื่อสื่อความว่า ความยั่งยืนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของโลกใบนี้"
โรงงานและโรงกลั่นในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ถือกำเนิดขึ้นจากแผนการลงทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐของAsia Plantation Capital เพื่อขยายการดำเนินงานในมาเลเซียในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ปัจจุบัน ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเสาะหาพื้นที่เพาะปลูก ทั้งผ่านการซื้อและการเป็นพันธมิตร เพื่อยกระดับการทำธุรกิจในมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างเรือนเพาะชำและศูนย์วิจัยต้นกฤษณาทางตอนใต้ของมาเลเซีย ด้วยความร่วมมือกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านไม้กฤษณา รวมทั้งคณะกรรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของบริษัทเอง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
เอเดรียน เฮง
ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: adrian.heng@asiaplantationcapital.com
สำนักงาน: +65-6222-3386
มือถือ: +65-9750-7440
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Quick facts:
- 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของและอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัท
- 53.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – มูลค่าผลประกอบการในปีงบการเงินที่ผ่านมา
Asia Plantation Capital เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจเพาะปลูกและฟาร์มเชิงพาณิชย์อันหลากหลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก ซึ่งอยู่ในเครือของ Asia Plantation Capital Group โดยจุดมุ่งหมายหลักของบริษัทคือ โครงการเพาะปลูกหลากประเภทในหลายวัฒนธรรม เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและความต้องการเชิงพาณิชย์ของประเทศที่บริษัทดำเนินงานอยู่ หลักการดำเนินงานของบริษัทคือ การร่วมงานอย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนอันดีแก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรมรวมทั้งการลงทุน เพื่อดึงชุมชนเหล่านี้ให้ออกจากวงจรการตัดไม้ทำลายป่าและการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบางพื้นที่ในเอเชีย ทั้งนี้ บริษัทจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2551 (แม้ว่าได้มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2545) ปัจจุบันเครือบริษัทมีโครงการเพาะปลูกและการเกษตรใน 4 ทวีป ได้แก่ โครงการดำเนินงานในขั้นต่างๆในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา เมียนมาร์ เวียดนาม อเมริกาเหนือ และยุโรป
การส่งเสริมการใช้ไม้ที่ได้รับการรับรองนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งยังช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงต่อสู้กับปัญหาความยากจนในภูมิภาคป่าฝนเมืองร้อน และสำหรับวงการเดินเรือยอชต์ที่มีการใช้ไม้สักจำนวนมาก ทั้งยังแสวงหาความเป็นเลิศและมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้น นี่เป็นอีกหนทางหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำไม้ที่ผิดกฎหมายมาใช้กับเรือยอชต์
เกี่ยวกับ Fragrance Du Bois
Fragrance Du Bois เป็นแหล่งรวมน้ำหอมสุดหรูที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับแหล่งเพาะปลูกที่มีความยั่งยืนในเอเชีย เพื่อนำเสนอน้ำหอมที่ผลิตจากน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% สู่ตลาดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลกFragrance Du Bois เป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่มีจิตสำนึกที่ดี ด้วยการเสาะแสวงหาวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอย่างยั่งยืนจากทั่วโลก พร้อมร่วมงานกับบรรดาผู้ผลิตน้ำหอมชาวฝรั่งเศสเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย อีกทั้งยังนำเสนอบริการผลิตน้ำหอมตามความต้องการของลูกค้าด้วย Fragrance Du Bois มีร้านจำหน่ายน้ำหอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก ทั้งในดูไบ ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อน้ำหอมที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
Fragrance Du Bois เป็นที่รู้จักในชื่อ Parfums Du Bois ในฝรั่งเศส และใช้ชื่อ Fragrance Du Bois ในตลาดที่ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสทั่วโลก
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-a
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-b
รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150807/8521505181-c