ซานดิเอโก้--22 เม.ย.--พีอาร์เอ็นนิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
ดร.แอนดรู วิเตอร์บี้ รองประธานบริษัทควอลคอมม์ ได้รับการแต่งตั้งจาก ปธน.บิล คลินตันให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาในสำนักงานประมวลผลและ สื่อสารขั้นสูง,เทคโนโลยีและข้อมูลและอินเตอร์เน็ทยุคใหม่ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการที่ ปรึกษานี้จะเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ทำเนียบขาว สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลคลินตันได้พัฒนา นโยบายที่ครอบคลุมการประมวลผลขั้นสูง,การสื่อสาร และการดำเนินการในระบบ เครือข่าย
ทางบริษัทได้เปิดเผยพร้อมกันนี้ด้วยว่า รายได้จากการดำเนินธุรกิจในระบบ การสื่อสารประจำไตรมาสที่ 2 นี้อยู่ที่ระดับ 508 ล้านดอลล่าร์ เพิ่มขึ้น 404 ล้านดอลล่าร์ จากช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว อันเป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในโทรศัพท์ระบบ CDMA และ ASICs และการรับรู้รายได้เกี่ยวพันกับอุปกรณ์สาธารณูปโภคของทางบริษัทที่ติดตั้งใน ตลาดหลักของระบบโทรศัพท์พีซีเอส สปรินต์ในเครือข่าย CDMA ทั่วประเทศ ณ.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยรายได้จากอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานในไตรมาสที่ 2 นี้รวมถึง มาร์จิ้นรายได้ในระดับสูงของอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งในเครือข่ายโทรศัพท์พีซีเอส ตั้งแต่ เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งก็มีแนวโน้มว่า รายได้จากอุปกรณ์สาธารณูปโภคในไตรมาส หลังๆจะขึ้นอยู่กับกำหนดเวลาในการจัดส่งตามสัญญาปัจจุบัน,ความสำเร็จในการเจรจา และการปิดสัญญาในอนาคต โดยผลกำไรรวมจากธุรกิจในระบบการสื่อสารมีสัดส่วน 18 % ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เทียบกับที่ระดับ 24 % ของไตรมาสเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสัดส่วนผลกำไรที่ลดลงนี้เป็นผลจากการขยายตัวของยอดผู้ใช้ในระบบ CDMA และยอด จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ASICs ซึ่งเป็นส่วนที่มีมาร์จิ้นกำไรต่ำกว่ารายได้จากระบบ OmniTRACS
นอกจากนี้ ผลกำไรรวมยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เกี่ยวพันกับ ยอดจำหน่ายอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานในระบบ CDMA และการขยายตัวอย่างมากของกำลัง การผลิตอุปกรณ์รับสัญญาณในระบบ CDMA
รายได้จากการให้บริการตามสัญญาได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 49 ล้านดอลล่าร์ โดย เพิ่มขึ้น 74 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีการเงินที่แล้วที่ระดับ 28 ล้านดอลล่าร์ อันเป็นผลจากข้อตกลงพัฒนากับทางโกลเบิ้ลสตาร์ ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ได้เปิดบริการเมื่อ ปีงบการเงิน 1994 ที่ผ่านมา
ค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาต, ค่าโรยัลตี้ และค่าธรรมเนียมการพัฒนาอยู่ ที่ระดับ 29 ล้านดอลล่าร์ หรือ 5 % ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 2 ของปีนี้ เทียบกับที่ ระดับ 17 ล้านดอลล่าร์ หรือ 11% ของรายได้ทั้งหมดในช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว โดย รายได้จากค่าโรยัลตี้นั้นสัมพันธ์กับยอดขายอุปกรณ์ในระบบ CDMA โดยผู้ได้รับใบอนุญาตใน ไตรมาสปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากจำนวนของเมื่อไตรมาส 2 ของปีการเงินที่แล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าจะยังคงมีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต, ค่าโรยัลตี้และ ค่าธรรมเนียมในการพัฒนาที่ผันผวนในรายไตรมาสต่อไป เนื่องจากจำนวนและกำหนด เวลาของค่าธรรมเนียมและค่าโรยัลตี้ใบอนุญาตในระบบ CDMA ที่หลากหลาย ส่วนค่าใช้ จ่ายในการวิจัยและพัฒนาในช่วงไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 53 ล้านดอลล่าร์ หรือ 9 % ของ รายได้เทียบกับ 35 ล้านดอลล่าร์ หรือ 24 % ของรายได้ทั้งหมดในช่วงเดียวกันของเมื่อ ปีที่แล้วและในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้นั้น ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่ที่ระดับ 99 ล้านดอลล่าร์ หรือ 10 % ของรายได้ทั้งหมดเทียบกับ 68 ล้านดอลล่าร์ หรือ 23 % ของไตรมาสเดียว กันของเมื่อปีที่แล้ว
ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ทางบริษัทยังได้เพิ่มค่าใช้จ่ายทางด้านทรัพยากรด้าน วิศวกรรม รวมถึงการวิจัยและการพัฒนาขึ้น 7 ล้านดอลล่าร์ หรือ 15 % จากเมื่อไตรมาส แรกของปีนี้ อันเป็นผลจากการเติบโต และการจัดซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบเพิ่มขึ้น โดยการจัด ซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนาจะไม่เท่ากันในแต่ละไตรมาส แต่คาดว่าค่า ใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาโดยรวมในรูปเงินสกุลดอลล่าร์ทั้งหมดนั้นจะยังคงเพิ่มขึ้นในไตร มาสต่อๆไป ส่วนค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายและการตลาดก็ได้เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสของปีที่ ผ่านมา ที่ระดับ 17 ล้านดอลล่าร์ สู่ระดับ 31 ล้านดอลล่าร์ แต่ได้ลดลงเมื่อคิดเป็นเปอร์ เซนต์ของยอดจำหน่าย โดยลดลงจาก 11 % เหลือ 5 % ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี นี้นั้น ค่าใช้จ่ายในการจำหน่าย และการตลาดอยู่ที่ระดับ 58 ล้านดอลล่าร์ หรือ 6 % ของ รายได้ทั้งหมด เทียบกับ 32 ล้านดอลล่าร์ หรือ 11 % ในช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว
ค่าเงินดอลล่าร์ที่เพิ่มขึ้นนั้นสัมพันธ์กับกิจกรรมการตลาดในระบบ CDMA ที่ เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ส่วนค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าใช้จ่ายฝ่ายบริหารนั้นอยู่ที่ระดับ 22 ล้านดอลล่าร์หรือ 4 % ของรายได้ในไตรมาสนี้ เทียบกับที่ระดับ 8 ล้านดอลล่าร์ หรือ 6 % ของรายได้ในไตรมาสเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว และในช่วง 6 เดือนแรกนี้ ค่าใช้ จ่ายทั่วไปและค่าใช้จ่ายฝ่ายบริหารนั้นอยู่ที่ระดับ 38 ล้านดอลล่าร์ หรือ 4 % ของรายได้ ทั้งหมดในไตรมาสนี้เทียบกับที่ระดับ 8 ล้านดอลลาร์ หรือ 6 % ของรายได้ในช่วงเดียวกัน ของเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลส่วนใหญ่จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และ บุคคลกรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจำเป็นต่อการส่งเสริมการเติบโตของการดำเนินงานบริษัทโดยรวม ในขณะที่ค่าธรรมเนียมทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้นนั้นก็สัมพันธ์กับคดีฟ้องร้องละเมิดสิทธิบัตร ทั้งนี้ แม้ว่าบริษัทกำลังประสบกับการเติบโตที่รวดเร็ว แต่ทางบริษัทก็ยังเตรียมมุ่งควบคุมค่าใช้ จ่ายในการดำเนินงาน และการลดค่าใช้จ่ายลงเทียบเป็นเปอร์เซนต์ของรายได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ 9 ล้านดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 2 นั้นเกี่ยวพันกับการตัดหนี้ สินครั้งเดียวสำหรับยอดขายและการขจัดสินค้าคงคลัง, สินทรัพย์, และซอร์ฟแวร์ธุรกิจที่มี การจัดซื้อบางรายการ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้สำคัญแก่การดำเนินงานของบริษัท (ยังมีต่อ)
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-วจ/กช--