Fragrance Du Bois จับมือ Asia Plantation Capital ปลูกและผลิตน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% ที่ได้รับการรับรองจาก CITES

ข่าวต่างประเทศ Monday October 12, 2015 11:38 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย--12 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ Fragrance Du Bois เดินหน้าครั้งสำคัญสู่การซื้อและเป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกต้นกฤษณา หนึ่งในส่วนประกอบน้ำหอมซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก น้ำมันหอมกฤษณา (Oud) หรือที่รู้จักกันในชื่อไม้กฤษณา (agarwood) ซึ่งมาจากต้นกฤษณาพันธุ์ Aquilaria เป็นพันธุ์ไม้ที่มีความต้องการสูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแบรนด์ชั้นสูงในวงการน้ำหอมที่ออกมาเรียกร้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งแหล่งต้นกฤษณาอย่างยั่งยืนเป็นของตนเอง ต้นกฤษณาจากธรรมชาติเป็นส่วนประกอบที่มีเอกลักษณ์ที่ทำให้น้ำหอมมีความแตกต่าง สร้างกลิ่นหอมที่น่าหลงไหล พร้อมกับความลึกซึ้งและยาวนานของกลิ่นอย่างที่ยากจะเทียบเคียงได้ http://photos.prnasia.com/prnvar/20150917/8521506120-a แหล่งไม้กฤษณาเริ่มมีจำนวนน้อยลง เนื่องจากต้นกฤษณาในป่าถูกตัดจนเกือบสูญพันธุ์ด้วยความไร้สำนึกรับผิดชอบและความละโมบของเหล่าผู้ลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่เจ้าของสวนกฤษณา โดยเฉพาะ Asia Plantation Capital เริ่มดำเนินการแก้ไขด้วยตนเอง ในขณะที่ความต้องการน้ำมันกฤษณาธรรมชาติแบบบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแซงหน้าอุปทาน ประกอบกับราคาไม้กฤษณาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 140 ปี นับตั้งแต่ที่ได้มีการเก็บบันทึกข้อมูล ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วยส่วนประกอบที่มีราคา แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการและผู้ผลิตน้ำหอมต่างมีความเห็นว่าไม่มีสิ่งใดสามารถเทียบเคียงกับของจริงได้ ด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และอุปทานลดน้อยลง Fragrance Du Bois เล็งเห็นแนวโน้มดังกล่าว จึงมีแผนที่จะร่วมมือกับบริษัทเพาะปลูกชั้นแนวหน้า เพื่อสนับสนุนการปลูกต้นกฤษณาและจัดหาพื้นที่ปลูกต้นกฤษณาอย่างยั่งยืน ไม่มีวันหมด และถูกต้องตามหลักจรรยาบรรณ เพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำมันกฤษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ประณีตของแบรนด์ ปัจจุบัน Fragrance Du Bois ร่วมงานกับ Asia Plantation Capital ซึ่งคว้ารางวัลในฐานะบริษัทที่มีการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจัดส่งไม้กฤษณาอย่างยั่งยืนให้แก่แบรนด์น้ำหอม การเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ Fragrance Du Bois แข็งแกร่ง ด้วยน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% ที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญและขาดไม่ได้ในการสร้างสรรค์น้ำหอมทุกรุ่นที่โดดเด่นไม่ธรรมดาของ Fragrance Du Bois ไม้กฤษณาที่ใช้ในการผลิตน้ำหอมของ Fragrance Du Bois ได้รับการรับรองจาก CITES ทั้งสิ้น และได้รับการรับประกันว่าเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ถูกกฏหมายและยั่งยืน ด้วยความเคารพที่มีต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงชุมชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เพาะปลูกต้นกฤษณา Fragrance Du Bois ได้รับการยอมรับจากวงการน้ำหอมระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้พลิกสถานการณ์ในตลาดด้วยการขยายผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่ใช้น้ำมันกฤษณาเป็นส่วนผสม ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ความต้องการที่สูงขึ้น ส่งผลให้ Fragrance Du Bois เปิดบูติคเพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพฯ รวมถึงเอาท์เล็ทใหม่ที่ดูไบ ลอนดอน ปารีส ลักเซมเบิร์ก และเจนีวา โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงต้นปี 2559 การขยายกิจการดังกล่าวผลักดันให้ Fragrance Du Bois มีความคิดที่จะปลูกต้นกฤษณาและผลิตน้ำมันหอมระเหยด้วยตนเอง โดยได้รับการบริหารจัดการจาก Asia Plantation Capital ซึ่งได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่ออนุรักษ์ต้นกฤษณาไม่ให้สูญพันธุ์พร้อมกับขยายพันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึง ต้นพิมเสน หญ้าแฝก ถั่วทองก้า ต้นไผ่ กุหลาบ ต้นสน ต้นไซปรัส ตะไคร้ และอื่นๆที่อยู่ระหว่างการจัดเตรียม ด้วยความสัมพันธ์อันดีกับ Asia Plantation Capital นั้น ในเร็วๆนี้ Fragrance Du Bois ก็จะสามารถดูแลแหล่งเพาะปลูกของบริษัทได้ มิใช่เพียงแต่น้ำมันกฤษณาที่มีราคาสูงและเป็นที่ต้องการเท่านั้น แต่รวมถึงน้ำมันหอมระเหยประเภทอื่นๆ ที่ได้รับการรับรองด้านแหล่งที่มา ความบริสุทธิ์ และคุณภาพอีกด้วย นิโคลา พาร์คเกอร์ ผู้อำนวยการแบรนด์ Fragrance Du Bois กล่าวว่า "นี่คือสิ่งที่เราวางแผนมาเป็นเวลานาน และได้รับการออกแบบมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จอันเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องราว 'Soil to Oil to You' ของเราที่จับจินตนาการของผู้คนมากมาย ขณะนี้ เราสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานเพื่อรวรวมน้ำมันจากธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งใช้ในการผลิตน้ำหอมของเรา ฉันยังจำกระแสความตื่นตัวที่อะนิตา ร็อดดิค ปลุกวงการขึ้นมาได้ ในช่วงที่เธอพัฒนาแบรนด์บอดี้ ช็อป (Body Shop) โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีความยั่งยืน การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่ Asia Plantation Capital ช่วยให้เราสามารถพาคอนเซ็ปต์นี้ไปไกลขึ้นอีกขั้น เพื่อให้เราเพาะปลูกส่วนผสมของตัวเองได้อย่างแท้จริง หรือแม้กระทั่งสกัดส่วนผสมได้เอง" พาร์คเกอร์สรุปว่า "ในตลาดผู้บริโภคยุคปัจจุบัน เราพบว่าลูกค้าของเราไม่ได้ใส่ใจแค่ที่มาของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังมองเรื่องคุณภาพและความบริสุทธิ์ด้วย เราเชื่อว่า ในขณะนี้เราเป็นแบรนด์น้ำหอมหรูเพียงแห่งเดียว ที่สามารถทำเช่นนี้ได้จริงๆ และเรากำลังยืนอยู่เบื้องหลังหลักการ 'Soil to Oil to You' ซึ่งเป็นกุญแจสู่ทุกๆสิ่งที่เราทำและน้ำหอมทั้งหมดที่เรารังสรรค์ขึ้น สำหรับเครือข่ายร้านบูติคที่กำลังเติบโตของเรา" Fragrance Du Bois ได้ร่วมทำข้อตกลงเพื่อสร้างพื้นที่เพาะปลูกในมาเลเซีย และเข้าซื้อพื้นที่เพาะปลูกไม้กฤษณาที่เติบโตเต็มที่แล้วจาก Asia Plantation Capital ในประเทศไทย นอกจากนี้ แบรนด์กำลังมองหาหนทางเข้าซื้อพื้นที่ในอินเดียและอินโดนีเซียในอนาคต เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์ภายในท้องถิ่นคุณภาพสูงที่มีความครอบคลุม ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์หลักๆของ Fragrance Du Bois ไม่ว่าจะเป็นเทียนหอม ไม้ชิ้นหอม และน้ำมัน สามารถผลิตขึ้นได้อย่างยั่งยืนภายในท้องถิ่น นอกเหนือจากนี้ Oud Du Bois ธุรกิจการผลิตน้ำหอมของ Fragrance Du Bois py'เข้ามาสร้างสรรค์น้ำหอมให้กับแบรนด์ระดับนานาชาติและบริษัทน้ำหอม โดยใช้น้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์ที่จะเพาะปลูกขึ้นเอง พร้อมด้วยน้ำมันต่างๆ จากธรรมชาติที่มีความยั่งยืน 100% "จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่งกับ Fragrance Du Bois" แกรี่ เครทส์ ซีอีโอประจำยุโรปของ Asia Plantation Capital กล่าว "แท้จริงแล้ว เราเป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งธุรกิจ และได้ลงทุนเป็นจำนวนมากในการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบและการพัฒนาแบรนด์ช่วงแรก จึงอาจกล่าวได้ว่า ช่างคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแบรนด์กำลังเติบโตในขณะนี้ รวมทั้งการเป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกภายใต้สัญญาของเรา นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจพอควรที่เราได้เห็นแนวโน้มนี้ในบรรดาแบรนด์และบริษัทผลิตน้ำหอมรายใหญ่รายอื่นๆ เราอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างห่วงโซ่อุปทานไม้กฤษณาและไม้สายพันธุ์ผสม ซึ่งตรวจสอบได้และมีความยั่งยืนที่คล้ายคลึงกัน ร่วมกับหลากหลายบริษัทและแบรนด์ เราเชื่อว่านี่เป็นแนวโน้มที่กำลังขยายตัวในธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ซึ่งแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบจากธรรมชาติ ในกรณีของไม้กฤษณาที่กำลังใกล้สูญพันธุ์นั้น การเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น จะช่วยนำมาซึ่งจริยธรรม หลายบริษัทที่เราทำงานด้วยในขณะนี้ต่างเข้าใจแนวโน้มดังกล่าว และยังตระหนักว่าได้สร้างความรู้สึกเชิงพาณิชย์ที่ดี ไม่ใช่แค่การปกป้องดูแลห่วงโซ่อุปทานของตนเท่านั้น แต่ยังสามารถได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ในราคาที่ลดลงเพื่อเปิดราคาในตลาด เหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งความยั่งยืนและแนวทางซึ่งมีจริยธรรม คุณจะได้หัวใจสำคัญสามประการตามหลัก 'triple bottom line' ที่เรากำลังมองหาในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน" ในเบื้องต้น Fragrance Du Bois จะลงทุนมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 12 เดือนข้างหน้า ในพื้นที่เพาะปลูกที่ Asia Plantation Capital จะเป็นผู้จัดการดูแล ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากเงินลงทุนภายนอกหรือไพรเวท อิควิตี้ และพันธมิตรในวงการน้ำหอมที่ได้ร่วมมือกับบริษัทไปเมื่อไม่นานนี้ เกี่ยวกับ Fragrance Du Bois Fragrance Du Bois เป็นแหล่งรวมน้ำหอมสุดหรูที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับแหล่งเพาะปลูกที่มีความยั่งยืนในเอเชีย เพื่อนำเสนอน้ำหอมที่ผลิตจากน้ำมันกฤษณาธรรมชาติ 100% สู่ตลาดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก Fragrance Du Bois เป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่มีจิตสำนึกที่ดี ด้วยการเสาะแสวงหาวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอย่างยั่งยืนจากทั่วโลก พร้อมร่วมงานกับบรรดาผู้ผลิตน้ำหอมชาวฝรั่งเศสเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย อีกทั้งยังนำเสนอบริการผลิตน้ำหอมตามความต้องการของลูกค้าด้วย Fragrance Du Bois มีร้านจำหน่ายน้ำหอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก ทั้งในดูไบ ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อน้ำหอมที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า Fragrance Du Bois เป็นที่รู้จักในชื่อ Parfums Du Bois ในฝรั่งเศส และใช้ชื่อ Fragrance Du Bois ในตลาดที่ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสทั่วโลก เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital The Asia Plantation Capital Group เป็นบริษัทจัดการและเป็นผู้ประกอบการเพาะปลูกอย่างยั่งยืนที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ด้วยโครงการต่างๆใน 4 ทวีป และพนักงานมากกว่า 2,000 คนทั่วโลก คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของเราประกอบไปด้วยนักวิชาการระดับแนวหน้าจากหลายประเทศ ทั้งจีน ไทย มาเลเซีย อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ร่วมกันพัฒนา ตลอดจนจดสิทธิบัตรระบบและเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม ด้วยการให้ความสำคัญกับโครงการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ และธุรกิจแบบบูรณาการในแนวดิ่ง (vertically integrated) ซึ่งมอบผลประโยชน์ที่ผสมผสานกันระหว่างชุมชน สิ่งแวดล้อม และการค้า Asia Plantation Capital จึงก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จและไม่หยุดนิ่งด้วยหัวใจสำคัญสามประการตามหลัก 'triple bottom line' หมายเหตุถึงบรรณาธิการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ซูเรนา ไมดิน ผู้อำนวยฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์, มาเลเซีย อีเมล: zureina@fragrancedubois.com โทร. +6013-774-1009 ซาแมนธา ธาม ผู้บริหารฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์, สิงคโปร์ อีเมล: samantha.tham@fragrancedubois.com โทร. +65-9144-0933 http://photos.prnasia.com/prnvar/20150917/8521506120-b รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150917/8521506120-a รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20150917/8521506120-b

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ