ASIANET: Cap Gemini คาดผลประกอบการปี 2001 สดใสหลังควบ Ernst & Young

ข่าวต่างประเทศ Friday March 16, 2001 13:36 —Asianet Press Release

ปารีส--15 มี.ค.--พีอาร์นิวสไวร์-เอเชียเน็ท
คณะกรรมการบริหารของบริษัท Cap Gemini S.A. ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาที่กรุงปารีส โดยมีนาย Serge Kampf เป็นประธานนั้น ได้ทำการตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2000 ขั้นสุดท้ายที่สอบทานแล้ว ซึ่งยืนยันตัวเลขที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2001 ดังนี้:-
* รายได้รวมของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ระดับ 6,931 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 60.8 % จากระดับในปี 1999 (4,310 ล้านยูโร)
* ผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ระดับ 703 ล้านยูโร (คิดเป็น 10.1 % ของรายได้) เพิ่มขึ้น 49.9 % จากปีก่อน (469 ล้านยูโร)
* ผลกำไรของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยอยู่ที่ระดับ 431 ล้านยูโรสำหรับปี 2000 เมื่อเทียบกับ 266 ล้านยูโรในปี 1999 ซึ่งคิดเป็น 6.2 % ของรายได้ทั้ง 2 ปี
* ผลกำไรต่อหุ้นที่มีการปรับค่าลงได้อยู่ที่ระดับ 3.99 ยูโร เพิ่มขึ้น 16 % จากปี 1999 (3.44 ยูโร) โดยเกี่ยวข้องกับจำนวนเฉลี่ยของหุ้น 77.3 ล้านหุ้นในปี 1999 และ 107.9 ล้านหุ้นในปี 2000
ในการคำนวณสถานะทางการเงิน ซึ่งได้รวมธุรกิจด้านการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท Ernst & Young นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 1999 แทนที่จะเป็นวันผนวกกิจการที่ได้รับการอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้น (23 พ.ค.2000) เป็นดังนี้:-
* รายได้อยู่ที่ระดับ 8,471 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับ 7,674 ล้านยูโรสำหรับปี 1999 คิดเป็นการขยายตัว 10.4 % (2.8 % หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน)
* ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 893 ล้านยูโร คิดเป็น 10.5% ของรายได้ เมื่อเทียบกับ 786 ล้านยูโร และ 10.2 % ของรายได้ในปี 1999 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.3 %
* ผลกำไรของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยอยู่ที่ระดับ 547 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับ 436 ล้านยูโรในปี 1999 เพิ่มขึ้น 25.5 %
* ผลกำไรต่อหุ้นที่มีการปรับลดค่าได้เพิ่มขึ้น 19.8 % สู่ระดับ 4.35 ยูโร เมื่อเทียบกับ 3.63 ยูโรในปี 1999 (คำนวณจากหุ้นที่ออก ณ วันที่ 23 พ.ค. 2000 สำหรับการควบกิจการธุรกิจด้านการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท Ernst & Young นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 1999)
ทั้งนี้ ตัวเลขงบการเงินดังกล่าวไม่ได้พิจารณาถึงผลบวกของการประหยัดทางด้านการจ่ายภาษีซึ่งทางกลุ่มได้รับประโยชน์หลังจากการควบกิจการธุรกิจด้านการเป็นที่ปรึกษาในอเมริกาเหนือของบริษัท Ernst & Young โดยทางบริษัทจะใช้เม็ดเงินที่ประหยัดได้ดังกล่าวในการลดการชำระภาษีให้กับสหรัฐและแคนาดาเป็นระยะเวลา 15 ปี ซึ่งจะช่วยปรับปรุงสถานะเงินสดของกลุ่มบริษัทได้ในแต่ละปี สำหรับความเป็นไปได้ในการประหยัดการจ่ายภาษีโดยรวมในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,808 ล้านยูโร
ด้านการบัญชีนั้น การคาดการณ์ที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรในอเมริกาเหนือในขณะนี้ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะประเมินการประหยัดการจ่ายภาษีในขณะนี้ ซึ่งอาจจะอยู่ที่ระดับ 698 ล้านยูโร โดยได้มีการสำรองงบดุลอย่างรอบคอบ ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้จะปรากฏในงบดุลบัญชีเท่านั้น และจะไม่ปรากฏในงบรายได้ ณ วันที่ 31 ธ.ค.ปี 2000 ซึ่งตรงข้ามกับการปฏิบัติในงบดุลบัญชีรอบครึ่งปี ณ วันที่ 30 มิ.ย.2000 (สำหรับจำนวนที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 140 ล้านยูโร) โดยแท้จริงแล้ว แนวทางที่ดูเหมือนจะเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดก็คือการไม่เพิ่มผลประกอบการรายปีด้วยจำนวนเงินที่สูงดังกล่าว และการปฏิบัตินี้จะไม่ทำให้ตัวเลขการตัดจ่ายบัญชีในงบรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
คณะกรรมการบริหารได้ตัดสินใจที่จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญในวันที่ 16 พ.ค. 2001 เกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2000 ที่ระดับ 1.20 ยูโร/หุ้น เพิ่มขึ้น 20 % จากปี 1999 (1 ยูโร) คิดเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 149 ล้านยูโรสำหรับหุ้น 124.3 ล้านหุ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค.ปี 2000
หลังการควบกิจการประสบความสำเร็จในระยะเวลา 7 เดือน โครงสร้างองค์กรใหม่ก็ได้รวมความแข็งแกร่งของ Ernst & Young และ Cap Gemini เข้าด้วยกัน ซึ่งการพัฒนาธุรกิจใหม่และการจัดโครงสร้างการบริหารควรสามารถช่วยสร้างศักยภาพที่เกิดจากการควบกิจการในครั้งนี้อันเป็นผลจากความเหมาะสมด้านกลยุทธ์ที่ดีเลิศของ 2 องค์กร ส่วนแนวโน้มของบริษัทนั้น คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทางกลุ่มกำลังเข้าสู่ปี 2001 ด้วยยอด order-book ที่แข็งแกร่ง และอัตรา retention rate ของพนักงานที่ดีขึ้น แม้แต่ในภูมิภาคซึ่งประสบกับภาวะที่ยากลำบากในช่วงครึ่งแรกของปี 2000 (สหรัฐ, อังกฤษและกลุ่มประเทศยุโรปตอนเหนือ)
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนและไม่มีผู้ใดสามารถคาดการณ์ในขณะนี้ถึงขนาดของผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจโลก และต่องบประมาณด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ของบริษัทต่างๆ แต่ท่ามกลางภาวะดังกล่าวและการพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของผลกระทบนั้น เป้าหมายของกลุ่มบริษัทำหรับปีนี้ยังคงได้แก่:-
* เพิ่มรายได้ขึ้นสู่ระดับ 9,600 ล้านยูโร (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนปี 2000)
* รักษาและเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานขึ้นเล็กน้อยหากเป็นไปได้
ทั้งนี้ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นใด บริษัท Cap Gemini Ernst & Young จะร่วมมือกันเป็นอย่างดีในการรักษาแนวโน้มของบริษัทในปัจจุบัน
* บริษัทจะดำเนินกลยุทธ์และเทคโนโลยีร่วมกันต่อไป, และเป็นอิสระจากภาวะเศรษฐกิจ และกลุ่มบริษัทจะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญที่สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับความต้องการของตลาด
* มีการแยกกลุ่มลูกค้าของบริษัทตามภาคเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน และการมุ่งเน้นแนวทางเฉพาะกลุ่มในองค์กรใหม่จะช่วยปรับปรุงการเสนอบริการต่อการพัฒนาใหม่ๆของแต่ละภาคธุรกิจ
* สายบริการของกลุ่มบริษัทจะรองรับความต้องการของบริษัทต่างๆอย่างเต็มที่ รวมทั้งลูกค้าซึ่งมุ่งเน้นกลยุทธ์การจัดการในด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย
* การเปลี่ยนแปลงบริษัทกำลังเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกตลาด ซึ่งทำให้บริษัทต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปรับตัวสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่และเห็นได้จากการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาดเสมือนจริงหรือโดยวิธีการใหม่ในการจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์
* ด้านตลาดการจ้างงานนั้น ชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทใหม่และการอุทิศของบริษัทต่อการจัดการสำหรับมืออาชีพที่แตกต่างกันจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับพนักงานและเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดของบริษัทในการจ้างงาน
แหล่งข่าว: Cap Gemini Ernst & Young
ติดต่อ: Philippe Guichardaz บริษัท Cap Gemini Ernst & Young โทร +33-1-47-54-50-45 --จบ--
--แปลและเรียบเรียงโดย-กช/กก--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ