ซานฟรานซิสโก,แคลิฟอร์เนีย--12 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
ปีเตอร์ โรเบิร์ตสัน (Peter Robertson), จอร์จ เคิร์คแลนด์ (George Kirkland)และเรย์ วิลค็อกซ์ (Ray Wilcox)ได้ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก คอร์ป (Chevron Texaco Corp.) เปิดเผยวันนี้ว่า นายริชาร์ด แมทซ์เค (Richard Matzke) รองประธาน บริษัท เชฟรอนเท็กซาโก จะเกษียณอายุก่อนครบ 60 ปี ในช่วงต้นปีหน้า ภายหลังจากที่ทำหน้าที่อย่างดีที่บริษัทมาเป็นเวลามากกว่า 40 ปี
โดยนายปีเตอร์ โรเบิร์ตสัน (Peter Robertson) ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธาน บริษัท เชฟรอนเท็กซาโก และประธาน บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก โอเวอร์ซีส์ ปิโตรเลียม (ChevronTexaco Overseas Petroleum (CTOP) จะดำรงตำแหน่งรองประธานแทนนายแมทซ์เค
ทั้งนี้ นายจอร์จ เคิร์คแลนด์ (George Kirkland) ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธาน บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก และประธานบริษัท เชฟรอน เท็กซาโก นอร์ท อเมริกา เอ็กซ์พลอเรชั่น แอนด์ โปรดัคชั่น (Chevron Texaco North America Exploration and Production (CTNAEP) จะดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เชฟรอน เท็กซาโก โอเวอร์ซีส์ ปิโตรเลียม แทนที่นายโรเบิร์ตสัน ส่วนนายเรย์ วิลค็อกซ์ (Ray Wilcox) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก ไนจีเรีย/มิด แอฟริกา (Chevron Texaco's Nigeria/Mid-Africa) แผนกหน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Business Unit) จะดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ซีทีเอ็นเออีพี แทนนายเคิร์คแลนด์ และนายวิลค็อกซ์ยังจะดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท เชฟรอน เท็กซาโกอีกเช่นกัน
นายเดฟ โอไรย์ลีย์ (Dave O'Reilly) ประธานกรรมการและผู้บริหารระดับสูง บริษัท เชฟรอนเท็กซาโก ได้กล่าวถึงการประกาศดังกล่าวว่า นายดิค แมทซ์เค (Dick Matzke) มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับนับถือกันในวงการอุตสาหกรรมพลังงานถึงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง การยืนหยัด และจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิก โดยการเติบโตอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จจากการปฏิบัติการด้านการสำรวจและการผลิตระหว่างประเทศมาเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะการร่วมลงทุนในประเทศคาซัคสถาน จะเป็นผลงานอันโดดเด่นท่ามกลางผลงานอื่นๆที่จะสืบทอดต่อไปแก่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่อจากนายแมทซ์เคและพนักงานรุ่นต่อๆไปของเชฟรอน เท็กซาโก
" ปีเตอร์ โรเบิร์ตสัน, จอร์จ เคิร์คแลนด์ และเรย์ วิลค็อกซ์ เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับและมีบทบาทสำคัญ ที่จะช่วยบริษัทในการสร้างคุณค่าที่ดีกว่าให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตร พนักงานและกลุ่มประเทศที่บริษัทดำเนินการอยู่ "
ทั้งนี้ นายแมทซ์เคได้ร่วมงานกับบริษัท เชฟรอน ตั้งแต่ปีพ.ศ.2504 ในตำแหน่งนักธรณีวิทยาในมลรัฐหลุยส์เซียน่าและมีความก้าวหน้าในตำแหน่งงานระดับผู้นำหลายตำแหน่งทางด้านการสำรวจ เศรษฐกิจ การวิจัย และการวางแผนธุรกิจ โดยความสำเร็จในอาชีพการงานได้แก่การดำรงตำแหน่งเป็นรองประธาน บริษัท เชฟรอน เคมิคอล (Chevron Chemical Co.) เมื่อปี พ.ศ. 2522 - 2525 , ตำแหน่งกรรมการบริษัท คาลเท็กซ์ แปซิฟิค อินโดนีเซีย (Caltex Pacific Indonesia) พ.ศ.2525-2529, ประธานกรรมการบริษัท เชฟรอน แคนาดา รีซอร์สเซส (Chevron Canada Resources Ltd.) พ.ศ.2529-2532 และประธานกรรมการบริษัท เชฟรอน โอเวอร์ซีส์ ปิโตรเลียม (Chevron Overseas Petroleum) พ.ศ.2532-2542 นายแมทซ์เคยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการบริษัท เชฟรอน ในปีพ.ศ.2540 และตำแหน่งรองประธานกรรมการในเดือนมกราคม พ.ศ.2543
นายแมทซ์เค เป็นชาวอิลลินอยส์ ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำในหลายองค์กรได้แก่ ประธานกรรมการบริหาร สมาคมธุรกิจแห่งสหรัฐอเมริกาและคาซัคสถาน (United States-Kazakhstan Business Association) เขายังเป็นสมาชิกของสภาธุรกิจแห่งสหรัฐอเมริกาและคาซัคสถานและสภาธุรกิจแห่งความเข้าใจระหว่างประเทศ (Business Council for International Understanding) นายแมทซ์เคยังเป็นกรรมการสภาอเมริกัน-อิหร่าน (American-Iranian Council) คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน (National Committee on United States-China Relations) และยังเป็นประธานกรรมการหอการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาและอาเซอร์ไบจัน (United States-Azerbaijan Chamber of Commerce)
ทั้งนี้ นายแมทซ์เคยังเป็นคณะกรรมการบริหารแห่งสถาบันทรัสตีส์ ออฟ ดิ แอฟริกัน อเมริกา (Board of Trustees of The African American Institute) คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์กลางการศึกษาเชิงยุทศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies) และคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภาแห่งสหรัฐอเมริกาว่าด้วยธุรกิจระหว่างประเทศ (United States Council for International Business)
นายโรเบิร์ตสัน ได้ร่วมงานกับเชฟรอนเมื่อปีพ.ศ. 2516 หลังจากที่จบปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ จากวาร์ตัน สคูล (Wharton School) ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย (University of Pennsylvania) โดยมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งทางด้านธุรกิจในบริษัท
นายโรเบิร์ตสัน เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีให้กับบริษัท เชฟรอน ออยล์ ยุโรป (Chevron Oil Europe)ในกรุงลอนดอน เมื่อปีพ.ศ.2523 และเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีให้กับบริษัท เชฟรอน ยู.เอส.เอ. (Chevron U.S.A.) .ในพ.ศ. 2530 ต่อมาในพ.ศ.2532เขาได้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ฝ่ายการเงิน บริษัท เชฟรอน ยูเอสเอ (Chevron U.S.A.) และในปีพ.ศ.2534 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริษัท วอร์เรน ปิโตรเลียม (Warren Petroleum) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดั้งเดิมของเชฟรอนที่ดำเนินการด้านแก็สธรรมชาติ ในปีพ.ศ.2537 ดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท เชฟรอน คอร์ป (Chevron Corp.) ซึ่งรับผิดชอบด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ และเมื่อปีพ.ศ.2540 ได้ดำรงตำแหน่งประธาน บริษัท เชฟรอน ยูเอสเอ โปรดัคชั่น (Chevron U.S.A. Production Co.) จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ส่วนนายเคิร์คแลนด์ ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำจำนวนมากในประเทศอินโดนีเซีย มิดแลนด์ เท็กซัส เดนเวอร์ ซานฟรานฺซิสโก ลากอส และไนจีเรีย เขาได้ร่วมงานกับบริษัท เชฟรอนในตำแหน่งวิศวกรก่อสร้างในนิวออร์ลีนส์ เมื่อปีพ.ศ.2517 และย้ายไปอยู่บริษัท คาลเท็กซ์ แปซิฟิค อินโดนีเซีย (Caltex Pacific Indonesia) ในปีพ.ศ.2521 เขาได้เป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมโครงการให้กับโครงการดุรี สตีม ฟลัด โปรเจค (Duri Steam Flood project) ในอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2523 - 2528 หลังจากที่กลับมาที่สหรัฐอเมริกาแล้วเขาได้ดำรงตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้นในฝ่ายปฏิบัติการของเชฟรอนในมิดแลนด์ เดนเวอร์ และซานฟรานซิสโก ในปีพ.ศ.2533 นายเคิร์คแลนด์ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการกลุ่ม ฝ่ายอัพสตรีม เทคโนโลยี (Upstream Technology) ให้กับบริษัท เชฟรอน รีเสิร์ช แอนด์ เทคโนโลยี (Chevron Research and Technology Co.)
นายเคิร์คแลนด์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการผลิต บริษัท เชฟรอน ไนจีเรีย (Chevron Nigeria Ltd.) ในปีพ.ศ. 2535 ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน บริษัท เชฟรอน ไนจีเรีย ในปีพ.ศ. 2539 และในปีต่อมาเขาได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท เชฟรอน ไนจีเรีย นายเคิร์คแลนด์ได้เป็นประธานบริษัท เชฟรอน ยูเอสเอ โปรดัคชั่น (Chevron U.S.A. Production Co.) เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2543 และเคยดำรงตำแหน่งปัจจุบันเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 ด้วยการก่อตั้งบริษัท เชฟรอนเท็กซาโก คอร์ป
ส่วนนายวิลค็อกซ์ ได้ร่วมงานกับเชฟรอนเมื่อปีพ.ศ. 2511 ในตำแหน่งวิศวกรออกแบบและก่อสร้างในแคลิฟอร์เนียใต้ โดยมีประสบการณ์ในอาชีพการงานที่หลากหลายด้านการผลิตบนฝั่งและนอกชายฝั่งในแคลิฟอร์เนียและหลุยเซียน่า เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เชฟรอน เอเชียติค (Chevron Asiatic) ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในปีพ.ศ. 2533 เขาได้เป็นรองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการขนส่งทางน้ำ บริษัท เชฟรอน ชิปปิ้ง (Chevron Shipping co.) ในปีพ.ศ.2539 เขายังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารทรัพย์สินในประเทศไนจีเรีย เมื่อปีพ.ศ.2542 และดำรงตำแหน่งปัจจุบันในเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2543
ที่มา: บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก คอร์ป (ChevronTexaco Corp.)
หมายเหตุ: บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก คอร์ป (ChevronTexaco Corp.) เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบกิจการเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2544 ระหว่างบริษัท เชฟรอน คอร์ป (Chevron Corp.) และบริษัท เท็กซาโก (Texaco Inc.) โดยมีกิจการในธุรกิจพลังงานระดับโลกและมีสาขาจำนวนมากมากกว่า 180 ประเทศ บริษัทเป็นบริษัทด้านพลังงานที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ทางด้านน้ำมันสำรองระดับโลกและเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในด้านการผลิตน้ำมันและแก็สธรรมชาติระดับโลก บริษัทจำหน่ายน้ำมันมากกว่า 35 ล้านบาร์เรลต่อวันสำหรับผลิตภัณฑที่เกิดจากกลั่น และมีสถานีบริการภายใต้ยี่ห้อเชฟรอน เท็กซาโก และคาลเท็กซ์ บริษัทใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นของโลก และผู้นำอุตสาหกรรมด้านธุรกิจพลังงานและแก็ส ทั้งยังมีการปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งจากการวิจัยธุรกิจหลัก การพัฒนาไปสู่พาณิชย์อิเลคทรอนิค และการจัดหาการลงทุนในกิจการที่มีโอกาสทางธุรกิจ
ติดต่อ: เฟรด โกเรลล์ (Fred Gorell) บริษัท เชฟรอน เท็กซาโก คอร์ป (ChevronTexaco Corp.,)
โทร. +1-415-894-4443
ข้อมูลข่าวสารของบริษัทแบบออนไลน์ที่ http://www.prnewswire.com/comp/158075.html
เว็บไซต์: http://www.chevron.com
--แปลและเรียบเรียงโดย สพ/รค--