แอนเดอร์สัน--24 ก.ค.--พีอาร์นิวสไวร์-เอเชียเน็ท
บริษัท เดลโค เรมี อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ และ บริษัท ฮิตาชิ (NYSE:HIT) แห่งประเทศญี่ปุ่น ประกาศในวันนี้ถึงการร่วมลงทุนทางธุรกิจ โดยในเดือนนี้ได้มีการจัดตั้ง บริษัท ฮิตาชิ เรมี ออโตโมทีฟ GmbH (Hitachi Remy Automotive GmbH) มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซูค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความร่วมมือในระยะแรกจะเป็นการวางรากฐานสำหรับการเป็นหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อพัฒนา ทั้งการผลิต และการทำตลาด ไดสตาร์ท (Starting Motors) และไดชาร์จ (Alternator) สำหรับรถยนต์ ในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ บริษัท เดลโค เรมี และ ฮิตาชิ จะแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตระหว่างกันทั้ง ไดสตาร์ท (Starter) และไดชาร์จ (Alternator) และร่วมมือกันในการแนะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดโลกผ่านหน่วยงานผลิตและหน่วยงานขายที่มีอยู่ทั่วโลกของทั้ง 2 บริษัทฯ
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเริ่มต้นที่หน่วยงานในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งในระยะแรกจะจัดหาสินค้าให้แก่ลูกค้าในปัจจุบันของทั้ง ฮิตาชิ และเดลโค เรมี ในการร่วมทุนจะเริ่มต้นที่การร่วมมือกันด้านการขายและการตลาดในการเข้าถึงตลาดเป้าหมายอย่างทันที สำหรับการสนับสนุนการผลิตจะเริ่มในโปแลนด์ และ เม็กซิโก ในปี พ.ศ.2545 โดยความเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจนี้จะสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้แก่ เดลโค เรมี และทำให้ ฮิตาชิ อยู่ในตำแหน่งที่ดียิ่งขึ้นในการรองรับลูกค้าของตนทั่วโลก ผ่านโรงงานผลิตที่ใหญ่โตของ เดลโค เรมี ในประเทศต่างๆ
โธมัส เจ ชไนเดอร์ (Thomas J. Snyder) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลโค เรมี อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ กล่าวว่า "ความเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นการรวมกันของสองผู้นำในตลาด ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่แข็งแกร่ง การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การมีผลประกอบการที่ดี มีความสามารถในการแข่งขัน และการเติบโตของยอดขายอย่างคงที่ เราเชื่อมั่นว่า การร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยทั้ง 2 บริษัทของเราในการตอบสนองลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ การผลิตที่มีประสิทธิภาพ และ ความสามารถในการจัดจำหน่ายที่ดียิ่งขึ้น"
คูนิฮิเดะ คาเนโกะ (Kunihide Kaneko) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด กล่าวว่า "เราคาดหมายว่าลูกค้าของเราซึ่งมีอยู่ทั่วโลกจะพอใจต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และการมีผลิตภัณฑ์ของเราจำหน่ายไปทั่วโลก เราเชื่อว่าการรวมตัวกันของ ฮิตาชิ เทคโนโลยี และ เดลโค เรมี จะนำไปสู่การขยายตัวทางธุรกิจของเราในอนาคต"
เดลโค เรมี และฮิตาชิ ได้คาดหมายถึงประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของส่วนอุปกรณ์ดั้งเดิม และส่วนของการผลิตซ้ำโดยมีการมุ่งผลิตหลักไปที่ไดสตาร์ท (Starter) และไดชาร์จ (Alternator) ซึ่งในอนาคตความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ฐานอันมั่นคงในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนี้ด้วยการผลิตระบบ และการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น 42-volt and dual voltage component packages รวมทั้งไดชาร์จที่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water-Cooled Alternators) นอกจากนี้ยังรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง
คาซูฮิโกะ ยามากูชิ (Kazuhiko Yamaguchi) ผู้จัดการทั่วไปของฮิตาชิ และหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทร่วมทุนนี้ ร่วมกับโรเบิร์ต ลอว์สัน (Robert Lawson) ผู้จัดการทั่วไปสายงานระบบยานยนต์ (Automotive Systems) และรองประธานอาวุโสของเดลโค เรมี อเมริกา ประกาศแต่งตั้งโยชิอากิ ฮอนดะ (Yoshiaki Honda) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และจาโนส ซาโบ (Janos Szabo) เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
นายฮอนดะ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยจะรับผิดชอบกิจกรรมทั้งหมดของบริษัทร่วมทุน ก่อนหน้านี้นายฮอนดะดำรงตำแหน่งล่าสุดเป็นหัวหน้าผู้จัดการโครงการ (Chief Project Leader) หน่วยงาน Rotating Machines & Energy Management ที่บริษัท ฮิตาชิ จำกัด ในส่วนผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ทั้งนี้นายฮอนดะ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านเทคโนโลยี วิชาเอกวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยโตยามา
ส่วนนายซาโบ (Szabo) ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (Chief Financial Officer) ของบริษัทร่วมทุนนี้ ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งล่าสุดเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (Director of Finance) ที่บริษัท เดลโค เรมี ในยุโรป ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผนการเงิน การรายงาน การบริหารเงินสด และการควบคุมด้านการเงิน ให้กับการดำเนินงานในยุโรปซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ นายซาโบสำเร็จการศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (University of Economics in Budapest, Hungary)
สำนักงานใหญ่ของเดลโค เรมี อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ ตั้งอยู่ที่ แอนเดอร์สัน รัฐอินเดียน่า (สหรัฐอเมริกา) ก่อตั้งเมื่อพ.ศ. 2537 โดยจากเดิมเคยเป็นแผนกเดลโค เรมี ในเจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งก่อตั้งครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2439 ในชื่อเรมี อิเลคทริค ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับยานยนต์ อุตสาหกรรมด้านการบินและการทหาร อาทิเช่น แมกนีโต (Magnetos) และไดสตาร์ท (Starting Motors) ในช่วงศตวรรษล่าสุดซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับจรวดของนาซา
ปัจจุบันนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า พาวเวอร์เทรน/ไดรฟ์เทรน และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้บริการแลกเปลี่ยนหลักสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็ก รถบรรทุกขนาดกลาง และรถบรรทุกหนัก รวมไปถึงอุปกรณ์ด้านอุตสาหกรรมและการใช้งานหนัก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ไดสตาร์ท ไดชาร์จ เครื่องยนต์ ทรานสมิชชั่น ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบแทรคชั่นคอนโทรลบริษัทฯ ให้บริการแก่ตลาดผู้ผลิตอุปกรณ์โดยหลักในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิค ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ http://www.delcoremy.com
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้า มียอดขายรวมประจำปีบัญชี พ.ศ. 2543 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2544) เท่ากับ 8,417 พันล้านเยน (67.9 พันล้านดอลล่าร์*) บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงคอมพิวเตอร์ เซมิคอนดัคเตอร์ สินค้าอุปโภค ตลอดจนอุปกรณ์ด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
* ที่อัตราแลกเปลี่ยน 124 เยนต่อดอลล่าร์
ข้อความแถลงในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ มีข้อความแถลงที่คาดการณ์ถึงอนาคตของธุรกิจซึ่งมิใช่ข้อเท็จจริงในอดีตและอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่งและความไม่แน่นอนต่างๆ รวมถึง ความไม่แน่นอนในตัวเลขผลประกอบการ การรวมกิจการ ความต้องการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ผลกระทบทางด้านการแข่งขันด้านราคา ผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยความไม่แน่นอนอื่นๆ ตามที่ระบุในข้อมูลที่บริษัทนำส่งให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่มา: เดลโค เรมี อินเตอร์เนชั่นแนล
ติดต่อ: จอห์น ไพซิก (John Pyzik) ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ของเดลโค เรมี อินเตอร์เนชั่นแนล +1-765-778-6607 หรือ แม็ท ทากาฮาชิ (Matt Takahashi) ฝ่ายนักลงทุนและสื่อมวลชนสัมพันธ์ของฮิตาชิ อเมริกา +1-650-244-7902
ข่าวเกี่ยวกับบริษัท: http://www.prnewswire.com/gh/cnoc/comp/111635.html
เว็บไซต์: http://www.delcoremy.com, http://global.hitachi.com
--แปลและเรียบเรียงโดย-ณท,พว,พธ,พห,รค/วบ--