HSRx Biopharmaceutical เปิดตัว HSRx 431(TM) ยาต้านไวรัสชนิดออกฤทธิ์กว้าง ผลทดสอบชี้มีฤทธิ์ที่ส่งผลกับไวรัสซิกา

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 7, 2016 09:39 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

ทัคสัน, แอริโซนา--7 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ HSRx Biopharmaceutical ผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนายาสูตร polyfunctional สำหรับรักษาภาวะของโรคติดเชื้อ รวมถึงภาวะของโรคเรื้อรังที่มีความสัมพันธ์กับความชรา ได้ประกาศยืนยันว่า HSRx 431(TM) ซึ่งเป็นสารต้านไวรัสที่มีศักยภาพในการเป็นยาชนิดรับประทาน (drug candidate) แบบออกฤทธิ์กว้าง (broad-spectrum) ทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการจัดการกับไวรัสซิกา โดยบริษัท HSRx คาดว่า จะเริ่มทดสอบกับมนุษย์ได้ในช่วงต้นปี 2560 และจะเร่งการขออนุมัติตัวยาจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) รูปภาพ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20160905/404133 โลโก้ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20160905/404112LOGO โครงการศึกษาที่ผ่านการคัดกรอง ซึ่งดำเนินการโดย SRI International ที่ศูนย์ Shenandoah Valley นั้นได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพของ HSRx 431 ในการจัดการกับไวรัสซิกา ขณะที่การวิจัยประเภทเข้าสู่ร่างกาย (in vivo) ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสารดังกล่าว ในการจัดการกับการติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกเดงกีและไวรัสชิคุนกุนยา โดย SRI International จะดำเนินการวิจัยตัวยา HSRx 431 สำหรับการรักษาไวรัสซิกาเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็จะมีการวางเกณฑ์วิธีทางคลินิก และยื่นเรื่องไปยัง FDA เพื่อขอทดสอบความปลอดภัยในการจัดการไวรัสซิกากับมนุษย์ด้วย โรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่ง องค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่าเป็นโรคที่ไม่มีวัคซีนหรือยารักษานั้น มียุงลายสายพันธุ์ Aedes aegypti เป็นพาหะ ยุงลายสายพันธุ์นี้พบได้ในทวีปอเมริกา แอฟริกา แคริบเบียน เอเชีย และแปซิฟิก โดยฟลอริดาซึ่งมี ผู้ติดเชื้อซิกาหลายร้อยราย และเปอร์โตริโกอีก 5,000 รายเป็นพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้แจ้งไว้ว่า ยุงลายสายพันธุ์ Aedes นี้พบเห็นได้ในประมาณ 30 รัฐทั่วประเทศ ส่วนนพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIAID) ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในปีหน้าประชาชนชาวเปอร์โตริโกสัดส่วน 25% จากทั้งหมด 3.55 ล้านคน คาดว่า จะติดเชื้อไวรัสซิกา ดร.ฟาวซี และนพ.เดวิด เอ็ม มอเรนส์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านวิทยาศาสตร์ประจำ NIAID ได้เขียนลงในวารสาร New England Journal of Medicine ไว้ว่า: "ในแง่ของการรักษาโรค การแพร่ระบาดของไวรัสที่มีแมลงเป็นพาหะบ่งชี้ว่า แนวทางการรักษาแบบ one-bug-one-drug นั้นยังไม่เพียงพอ โดยขณะนี้มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ในการพัฒนายาต้านไวรัสชนิดออกฤทธิ์กว้าง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการจัดการกับไวรัสทุกชนิด" ดร. โจชัว คอสติน นักวิทยาไวรัสและผู้อำนวยการฝ่ายชีววิทยาของ HSRx กล่าวว่า HSRx 431 ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว โดยแสดงความเห็นว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับเหตุผลเพิ่มเติม นั่นคือ การอนุมัติวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสซิกาอาจจะมีความยุ่งยากและล่าช้า หากการวิจัยใหม่ๆพบว่า ความเกี่ยวข้องระหว่างเชื้อไวรัสซิกา/ไข้เลือดออก เป็นเรื่องจริง" ดร. ฟาวซี กล่าวว่า "อย่างเร็วที่สุดเราจะมีวัคซีนก็คือในปี 2561 หากทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น" โดยปกติ ภูมิต้านทานที่สร้างขึ้นจากการติดเชื้อจะช่วยให้สร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่ Antibody Dependent Enhancement (ADE) ซึ่งได้มีการรายงานเป็นครั้งแรกว่า ADE เป็นทฤษฎีโดยนายแพทย์สก็อตต์ อัลสเตด หัวหน้าหน่วยงานเกี่ยวกับการแพร่เชื้อไวรัสโดยยุงนั้น ADE ทำให้ไวรัสไข้เลือดออกก่อให้เกิดการติดเชื้อต่างๆตามมา ซึ่งภูมิต้านทานจะทำให้อาการเจ็บป่วยมีความรุนแรงมากขึ้น การวิจัยที่สมบูรณ์เมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า เซรั่มสำหรับมนุษย์ที่มีภูมิต้านทานไวรัสไข้เลือดออกทำให้การติดเชื้อซิกามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 200 เท่า CDC ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อไข้เลือดออก และมีประชาชนที่ติดเชื้อ 400 ล้านคนในแต่ละปี ไวรัสไข้เลือดออกมีถิ่นกำเนิดมาจากเปอร์โตริโก ละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก หมู่เกาะแคริบเบียน และคาดว่า จะแพร่ระบาดเข้าสู่สหรัฐในอีกไม่นานเช่นเดียวกับซิกา โธมัส ซัลลิแวน จูเนียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HSRx อธิบายว่า "เราได้จดสิทธิบัตรเฉพาะ HSRx 431 เท่านั้น และจดร่วมกับ Oseltamivir (Tamiflu(TM)) และยาต้านไวรัสอื่นๆ ซึ่งช่วยให้ HSRx 431 เป็นยาต้านไวรัสหลายตัวที่ดีที่สุดในการรักษาและป้องกันการติดเชื้อไวรัสหลายอย่างได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งรวมไปถึง ไวรัสซิกา ไวรัสไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ไข้หวัดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องระบุสารที่เป็นสาเหตุ CDC ระบุว่า "มีประชาชนหลายล้านคนเจ็บป่วย หลายแสนคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และหลายหมื่นคนเสียชีวิตจากไข้หวัดในสหรัฐในแต่ละปี การผสมผสานยา HSRx 431 เข้ากับ Oseltamivir จะช่วยพัฒนายาต้านทานไวรัสที่ทั่วโลกต้องการ ยารับประทาน และต่อต้านไวรัสหลายชนิดที่มีอายุการใช้งานและอายุสิทธิบัตรที่ยาวนาน" เกี่ยวกับ HSRx Biopharmaceutical HSRx Biopharmaceutical เป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์ในรัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนายาสูตร polyfunctional ที่ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหม่ในการรักษาโรคด้วยยา โดยยาสูตรผสมของ HSRx เจาะจงไปที่หลายโมเลกุลเป้าหมายที่มีความเกี่ยวเนื่องกับภาวะของโรค ไม่ใช่แค่โมเลกุลเป้าหมายเดียวเหมือนยารักษาโรคทั่วไป จึงก่อให้เกิดยาที่สามารถรักษาภาวะของโรคได้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่อาการของโรคเพียงอาการใดอาการหนึ่ง ยาสูตร polyfunctional ชนิดรับประทานนี้ ได้รับการรับรองทางคลินิกว่ามีความปลอดภัยมากกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าในการรักษาภาวะของโรคเรื้อรังและโรคติดเชื้อหลายประเภท HSRx ใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทในการค้นหาและเก็บสารอาหารที่ช่วยจัดการกับโรคทั้งหลายในอาหารที่ผ่านมาตรฐาน GRAS พร้อมผนวกรวมส่วนประกอบเหล่านี้เข้ากับกลุ่มยาสามัญที่ผ่านการรับรองจาก FDA จนก่อเกิดยาสูตรผสมอันทรงพลังที่มีอายุสิทธิบัตรยาวนาน โดยผลการวิจัยทางคลินิกซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาสูตรผสมของ HSRx กับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาสามัญที่ได้รับความนิยมในตลาดนั้น พบว่า ยาสูตรผสมของ HSRx มีประสิทธิภาพเหนือกว่าและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ติดต่อ: Matt Russell Russell Public Communications โทร. +1-520-232-9840 อีเมล: mrussell@russellpublic.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ