นิวยอร์ก--20 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
โลกใบนี้ของเราจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ครบทั้ง 17 ประการตามที่องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดไว้ภายในปี 2573 หรือไม่? และภาคธุรกิจจะสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำในการดำเนินการด้านนี้ได้อย่างไรบ้าง? กลุ่ม DNV GL ได้เริ่มต้นหาคำตอบให้กับคำถามที่สำคัญทั้ง 2 ข้อนี้โดยใช้วิธีการคาดการณ์อนาคตของโครงการ 'Spaceship Earth' ของเรา ซึ่งรายงานดังกล่าวสรุปไว้ว่า แม้ว่าเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งไว้อาจจะมีความคืบหน้าเป็นอย่างดีในหลายภูมิภาคทั่วโลก แต่การดำเนินการอาจจะยังคงไม่เร็วพอ หรือมีน้ำหนักพอ หรือแม้กระทั่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังมีเวลาเพียงพอที่จะเริ่มต้นโครงการ 'Spaceship Earth' ใหม่ นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังได้มีการพูดถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกจำนวน 17 บริษัทที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าอันจะนำไปสู่เป้าหมายที่ UN ได้กำหนเไว้
- สามารถดูพิธีเปิดที่สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติได้ที่นี่ http://bit.ly/2ddwyFI
- เว็บไซต์โครงการ Spaceship Earth และดาวน์โหลดรายงานของได้ที่ https://www.dnvgl.com/technology-innovation/spaceship-earth/index.html
- ข้อสรุปที่สำคัญต่าง ๆ http://bit.ly/2cWp0F8
- รูปภาพ: http://bit.ly/2ck04JO
หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว SDG มาเป็นเวลา 1 ปี หน่วยงานทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐบาล องค์กรต่าง ๆ รวมไปถึงบุคลากรทั่วโลกต่างได้เริ่มทำงานเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายระดับโลกที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี การคาดการณ์อนาคตของ Spaceship Earth นั้น ชี้ให้เห็นว่า จะไม่มีเป้าหมายใดที่จะสามารถบรรลุได้ ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใดบนโลกใบนี้ และจะไม่มีภูมิภาคใดที่มีความก้าวหน้ามากพอต่อการเดินไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งระดับของความท้าทายนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องการการลงมือเป็นพิเศษในทันที
ภาคธุรกิจถือเป็นภาคที่มีจุดยืนที่แตกต่างที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความคืบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม รายงานฉบับดังกล่าวได้มีการเน้นถึงบริษัทระดับโลก 17 แห่งที่เริ่มจะมีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมาย SDG แล้ว ซึ่งประกอบด้วย บริษัท Tata บริษัท Danone บริษัท HiTechnologies บริษัท ARM บริษัท Symantec บริษัท Grundfos บริษัท SolarWorld บริษัท NYK บริษัท Hydro บริษัท Safaricom บริษัท Siemens บริษัท Marks & Spencer บริษัท Iberdrola บริษัท Cermaq บริษัท APP บริษัท Calvert Investments และบริษัท Unilever ซึ่งบริษัทผู้บุกเบิกเหล่านี้กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน โดยมีการใช้นวัตกรรม การจัดตั้งพันธมิตร และการบริหารจัดการโมเดลธุรกิจของตน ซึ่งเป้าหมายสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้กลายมาเป็นต้นแบบในการกำหนดและปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของบรรดาบริษัทต่าง ๆ
Remi Eriksen ประธานและซีอีโอของ DNV GL กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้ว ธุรกิจล้วนต้องใช้เทคโนโลยี บุคลากร และกระบวนการต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสันให้กับโลก ดังนั้น ความท้าทายจึงไม่ใช่เครื่องมืออัจฉริยะ แต่คือการเลือกใช้โซลูชั่นต่างๆ ที่ถูกนำมาเสนอและริเริ่มใช้งาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่นำมาชี้วัดการดำเนินงาน"
การเปิดตัวรายงานการคาดการณ์ครั้งจัดขึ้นพร้อมกันกับการเปิดตัวข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก การเป็นเจ้าภาพร่วมกันระหว่างกลุ่มส่งเสริม SDG ของเลขาธิการ UN และ Erna Solberg นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เป็นการนำเสนอรายงานที่มาจากในช่วงสัปดาห์ของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติวาระที่ 71
ติดต่อ
Svein Inge Leirgulen
หัวหน้าฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ของ DNV GL Group
มือถือ: +47-977-23-13
อีเมล: Svein.Inge.Leirgulen@dnvgl.com
ที่มา: กลุ่ม DNV GL