โตรอนโต--22 ธ.ค.--ซีเอ็นดับเบิลยู-เอเชียเน็ท
บริษัทมายเทค เทคโนโลยีส์ อิงค์ ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทไบโอเมทริค ไอเดนทิฟิเคชั่น อิงค์ (BII) เพื่อจัดตั้งบริษัทชั้นนำระดับโลกในตลาดไบโอเมทริคซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ โดยการซื้อกิจการครั้งนี้จะสำเร็จลงด้วยการควบกิจการของ BII เข้ากับบริษัทในเครือของมายเทคที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย BII นั้นเป็นบริษัทเอกชนที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเชอร์แมน โอคส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นผู้นำในด้านการจัดหาระบบตรวจสอบยืนยันทางไบโอเมทริคขั้นก้าวหน้า
การเข้าซื้อครั้งนี้จะชำระเป็นเงินสดและหุ้นสามัญของมายเทคโดยคิดเป็นมูลค่ารวมกันราว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งข้อตกลงนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารของบริษัททั้งสองแล้ว และกำลังรอการอนุมัติจากตลาดหุ้นโตรอนโตและจากผู้ถือหุ้นของมายเทคและ BII ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2001
ทั้งมายเทคและ BII เป็นผู้นำในเทคโนโลยีจดจำลายนิ้วมือ และครอบครองสิทธิบัตร 15 ฉบับสำหรับระบบไบโอเมทริคที่ใช้เทคโนโลยีขั้นก้าวหน้า โดย BII เป็นผู้นำในธุรกิจใบอนุญาตใช้ระบบ algorithm สำหรับลายนิ้วมือ, embedded solutions และอุปกรณ์สำหรับตลาดที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์สำหรับระบบผ่านเข้าออกและอุปกรณ์บันทึกเวลาและการเข้าร่วมงาน ในขณะที่มายเทคเน้นการดำเนินธุรกิจแอพพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ใช้สายและไร้สาย เช่น ระบบที่ใช้ในองค์การ, PDAs และโทรศัพท์มือถือ
ในการทำสัญญาเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ บริษัทมายเทคได้เสนอที่จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "ไบโอสคริปท์ อิงค์." ด้วยเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษของมายเทคและ BII ในเทคโนโลยีไบโอเมทริค โดยข้อเสนอนี้ยังต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน โดยบริษัทไบโอสคริปท์นี้จะมีสำนักงานใหญ่ในโตรอนโตและจะยังรักษาสำนักงานในเมืองเชอร์แมน โอคส์ไว้สำหรับการดำเนินงานในสหรัฐ
นายปิแอร์ โดนัลด์สัน ประธานและซีอีโอของมายเทค ซึ่งจะได้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของไบโอสคริปท์กล่าวว่า "การเข้าซื้อ BII จะทำให้เราเป็นผู้นำในเทคโนโลยีไบโอเมทริคและจะช่วยให้เราเติบโตชึ้นพร้อมกับทำกำไรได้ โดยการรวมเทคโนโลยีหลักของเราเข้าด้วยกันจะช่วยส่งเสริมความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและขยายขอบเขตการดำเนินงานของเราออกไป นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของเราในด้านการขายและการจัดจำหน่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจาก BII มีฐานที่แข็งแกร่งในตลาดสหรัฐ ซึ่งประโยชน์ที่เราได้รับในด้านเทคโนโลยีและการตลาดนี้จะส่งเสริมความสามารถของเราในการก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทไบโอเมทริคที่สามารถทำกำไรได้ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า"
บริษัท BII จัดตั้งขึ้นในปี 1995 และทำยอดขายได้ราว 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2000 ทั้งนี้ เครื่องอ่านลายนิ้วมือและเทอร์มินัลของ BII ได้รับการขายผ่านทางบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งรวมถึง ADI, ฮันนีเวลล์, นอร์เธิร์น คอมพิวเตอร์, ซิมเพล็กซ์ และไทโค ส่วนผู้ใช้ปลายทางที่ติดตั้งเครื่องมือนี้รวมถึงสำนักงานของบริษัทอีเทรด, VISA, อินเทล, NASA, GTE, IBM และเทอร์เนอร์ บรอดแคสติง นอกจากนี้ BII ยังเป็นผู้นำในตลาดไบโอเมทริคในแถบละตินอเมริกาและอเมริกาใต้ด้วย โดย BII ได้ทำการติดตั้งระบบเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 1997 ให้กับรัฐสภาของเวเนซูเอลาซึ่งใช้ระบบ Veripring(TM) 2000 ของ BII ในการตรวจสอบการเข้าร่วมประชุมและการลงคะแนนเสียง
นายโดนัลด์สันกล่าวว่า "บริษัทไบโอสคริปท์จะก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมประเภทนี้ได้อย่างมั่นคงเพราะเราเป็นเจ้าของหนึ่งในทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านไบโอเมทริคที่แข็งแกร่งที่สุด, เรามีฐานหน่วยงานด้านไบโอเมทริคกว่า 10,000 หน่วย, เรามีระบบที่สามารถนำมาใช้งานได้ในทันที และเรามีกลยุทธ์ go-to-market ที่ชัดเจน ในขณะที่อุตสาหกรรมไบโอเมทริคยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น เราเชื่อว่าการทำสัญญาครั้งนี้จะช่วยให้เราก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงได้อย่างรวดเร็ว"
ผลการสำรวจตลาดครั้งล่าสุดโดยบริษัทฟรอสท์ แอนด์ ซุลลิแวนระบุว่าเป็นที่คาดกันว่าตลาดอุปกรณ์ยืนยันตัวผู้ใช้ในสหรัฐขณะนี้จะขยายจากระดับ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1999 สู่ระดับ 2.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2006
นายโรเจอร์ นอร์ดบี ซึ่งเป็นประธานและซีอีโอของ BII กล่าวว่า "ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรวมธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยอุตสาหกรรมของเรามีการเติบโตอย่างมากทั้งในตลาดดั้งเดิมเช่นระบบรักษาความปลอดภัยในการผ่านเข้าออกและในตลาดเกิดใหม่สำหรับอุปกรณ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไร้สาย เช่นเพจเจอร์ 2 ทาง, อุปกรณ์ดิจิตัลส่วนบุคคล และโทรศัพท์มือถือ โดยไบโอสคริปท์จะให้บริการระบบที่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์มีสายและไร้สายได้ดีกว่า BII หรือมายเทคเพียงลำพัง ซึ่งการรวมเข้าด้วยกันจะช่วยให้เราให้บริการต่อลูกค้าได้ดีกว่าบริษัทไบโอเมทริคแห่งอื่นๆ"
นายโดนัลด์สันกล่าวว่า "เราคาดว่าจะผนวกกิจการได้อย่างราบรื่นเนื่องจากแต่ละบริษัทสามารถสร้างความสมบูรณ์ให้แก่อีกฝ่ายทั้งในด้านวัฒนธรรม, เทคโนโลยี และการตลาด โดยเราตั้งใจจะผนวกผลิตภัณฑ์ของเราเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว และจะดำเนินกลยุทธ์ในการตั้งเป้าไปที่ OEMs ทั้งในตลาดอุปกรณ์มีสายและไร้สายต่อไป ซึ่งการทำสัญญาครั้งนี้จะนำไปสู่การเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและการสร้างงานในช่วงหลายปีข้างหน้า"
บริษัทไบโอเมทริค ไอเดนทิฟิเคชั่น, อิงค์. (www.biometricid.com) มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเชอร์แมน โอคส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นผู้นำในการจัดหาระบบยืนยันตัวผู้ใช้ขั้นก้าวหน้า โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทรวมถึง authorization software readers ที่ใช้ลายนิ้วมือ, ระบบบัตรสมาร์ท การ์ด และโมดุลในการยืนยัน OEM แบบ standalone โดยทางบริษัทแยกตัวออกมาจากบริษัท Arete Associates ในปี 1995 โดย Arete นั้นเป็นสถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีของสหรัฐที่เน้นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
บริษัทมายเทค เทคโนโลยีส์ อิงค์. (www.mytec.com)พัฒนาและให้ใบอนุญาตในการใช้เทคโนโลยีไบโอเมทริคขั้นก้าวหน้าทั้งในซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์แบบ standalone แก่ผู้ผลิตอุปกรณ์และลูกค้ารายอื่นๆที่ต้องการระบบยืนยันตัวผู้ใช้ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งการใช้ลายนิ้วมือและไบโอเมทริคอย่างอื่นๆทำให้เทคโนโลยี Bioscrypt(TM) และผลิตภัณฑ์ของมายเทคมีระบบการยืนยันตัวที่ดีกว่าระบบดั้งเดิมเช่นการให้รหัสผ่านหรือการใช้บัตรผ่านเพื่อการใช้งานอุปกรณ์ไร้สาย, เครือข่าย หรือในการผ่านเข้าออกของบุคคล บริษัทมายเทคมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา และมีหุ้นจดทะเบียนในตลาดหุ้นโตรอนโตภายใต้สัญลักษณ์ MYT
ทั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดเสียงจากการประชุมหารือเรื่องการเข้าซื้อกิจการ โดยนายปิแอร์ โดนัลด์สัน ประธานและซีอีโอ กับนายชามิท คอสลา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเป็นเจ้าภาพการประชุม ซึ่งผู้สนใจสามารถรับฟังได้จากเว็บไซท์ www.mytec.com ณ เวลา 1100 EST วันพฤหัสบดีที่ 21 ธ.ค. และจะมีการเก็บบันทึกเสียงจากการประชุมไว้ที่เว็บไซท์เป็นเวลา 60 วัน
ผู้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ปิแอร์ โดนัลด์สัน ประธานและซีอีโอ บริษัทมายเทค เทคโนโลยีส์ อิงค์.โทร. (416) 467-3300
หรือติดต่อโรเจอร์ นอร์ดบี ประธานและซีอีโอบริษัทไบโอเมทริค ไอเดนทิฟิเคชั่น อิงค์. โทร. (818) 501-3908
ผู้ต้องการข้อมูลสำหรับสื่อ กรุณาติดต่อ:
เดวิด เทอร์รี ประธาน ITPR โทร. (416) 642-6357
จูเลีย เว็บบ์ รองประธานฝ่ายการขายและการตลาด บริษัทไบโอเมทริค ไอเดนทิฟิเคชั่น อิงค์. โทร. (818) 501-3908--จบ--
--แปลและเรียบเรียงโดย-จพ/กก(โทร. 637-5500 ต่อ 450)--