มาราเนลโล, อิตาลี--28 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
อูโบลท์ (Hublot) สร้างสรรค์นาฬิกาที่เน้นดีไซน์โดดเด่นเสมอมา เฉกเช่นเดียวกับนาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง อูโบลท์ และ เฟอร์รารี มาตั้งแต่ปี 2554 โดยนาฬิการุ่นใหม่ที่ออกมาในแต่ละรุ่นนั้น ได้ผสมผสานนวัตกรรม ความยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพของสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่นี้ให้เป็นหนึ่งเดียว สำหรับนาฬิการุ่น Big Bang Ferrari ก็ไม่ได้รับการยกเว้น เพราะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์บนแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมและเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตเฟอรร์รารี โดยทั้งสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้ร่วมกันดีไซน์นาฬิกาในรุ่น Big Bang Unico ด้วยรูปแบบอันโฉบเฉี่ยว
ที่สุดแห่งสองวงการ
นาฬิการุ่นใหม่นี้เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างไอเดียล้ำสมัยของอูโบลท์ และการออกแบบในสไตล์ของเฟอร์รารี่ โดยโครงสร้างและสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบนี้เป็นจุดเด่นทางสถาปัตยกรรมบนนาฬิกา Big Bang Ferrari ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161123/442593 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161123/442595 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161123/442594 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161123/442596 )
(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161123/442597 )
ในส่วนของหน้าปัดบอกนาทีและช่องแสดงวันที่นั้น ได้รับการออกแบบพิเศษให้ดูคล้ายกับเครื่องวัดความเร็วรอบของเฟอร์รารี่ โดยจัดวางไว้ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัด ขณะที่การดีไซน์ตัวเลขแสดงวันที่ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวเลขบนหน้าปัดบอกความเร็วของรถเฟอร์รารี่ นอกจากนี้ยังได้จัดวางสัญลักษณ์ม้าลำพอง "Prancing Horse" ไว้อย่างโดดเด่น ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำหรับตำแหน่ง 9 นาฬิกานั้น เป็นช่องหน้าปัดบอกวินาที ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับเครื่องระบายอากาศ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเข็มนาฬิกาใหม่ทั้งหมด ซึ่งทำให้สามารถอ่านเวลาได้ง่ายขึ้น ขณะที่ตัวเลขแสดงเวลานั้นได้รับการจัดเรียงบนขอบหน้าปัด แทนที่การเรียงไว้ตามแนวระนาบดังเช่นนาฬิกาทั่วๆไป ทำให้ตัวเลขเหล่านี้ดูเหมือนลอยขึ้นเหนือหน้าปัด ซึ่งเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นนาฬิกาแบบ 3 มิติด้วย
เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความบางของตัวเรือนนาฬิกา Big Bang Ferrari นั้น อูโบลท์ได้ออกแบบฐานโครงของนาฬิกาใหม่โดยมีการเจาะช่องสำหรับสกรู 6 ตัว ทั้งนี้โดยคำนึงถึงหลักการใช้งาน โดยการออกแบบใหม่นี้จะช่วยปกป้องตัวสกรู และทำให้สกรูเหล่านั้นเป็นเสมือนชิ้นส่วนจากส่วนควบคุมนาฬิกา
บนปุ่มครอบเม็ดมะยม หรือ crown guard ของนาฬิกายังมีการออกแบบลายเส้นสีแดงที่คาดไว้กึ่งกลาง ซึ่งชวนให้นึกถึงรูปทรงโค้งเว้าตรงท้ายรถของรถรุ่น LaFerrari ในขณะที่เม็ดมะยมที่ติดตั้งบนแกนหมุนด้านข้างของนาฬิกานั้นก็ออกแบบมาให้คล้ายกับคันเหยียบของตัวรถ พร้อมประดับด้วยโลโก้ของอูโบลท์อย่างลงตัว การออกแบบ crown guard ได้คำนึงถึงหลักการใช้งานและการบูรณาการของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการนำจุดเด่นด้าน Turbo Performance Engineer (TPE) ที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางแผงหน้าปัดรถยนต์เฟอร์รารี่มาประยุกต์ใช้ในงานดีไซน์ของ Big Bang Ferrari ด้วย ขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆของนาฬิกานั้นก็ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถเฟอร์รารีทั้งหมด และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือตัวอักษรสีแดงสดคำว่า "Ferrari" ที่สลักอยู่บนขอบนาฬิกา
นอกจากนี้ Big Bang Ferrari ยังมาพร้อมกับนวัตกรรม Unico movement ที่อูโบลท์ได้ผสานเทคโนโลยีการจับเวลาแบบ flyback chronograph ควบคุมผ่านกลไก column wheel ที่อยู่บนหน้าปัด อีกทั้งแกนหมุนยังถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับกรอบล้อของเฟอร์รารี่ ขณะที่แผ่นรองหลักของนาฬิกา สะพาน และตุ้มน้ำหนักถูกเคลือบด้วย PVD สีดำทั้งหมด และสามารถมองเห็นได้ผ่านหน้าปัดและฝาหลังที่ทำจากกระจกแซฟไฟร์
การผลิตแบบจำนวนจำกัด
สำหรับผลงานรุ่น Big Bang Ferrari จะมาพร้อมตัวเรือนขนาด 45มิลลิเมตร โดยมีให้เลือกในรุ่นตัวเรือนไทเทเนียม ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือน รุ่นตัวเรือนคิงส์โกลด์ ผลิตเพียง 500 เรือน และรุ่นตัวเรือนคาร์บอน ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน มาพร้อมสายหนังกลับอัลคันทาราบุด้วยยางสีดำ พร้อมเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดงตามแบบสไตล์เบาะหนังของเฟอร์รารี่ หรือในรุ่นสายหนัง Shedoni ซึ่งเป็นดีไซน์ต้นแบบของเบาะรถยนต์เฟอร์รารี่
การหลอมรวมระหว่างสไตล์อันโดดเด่นและการใช้งานที่ยอดเยี่ยม
งานดีไซน์ใหม่นี้เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ตัวโครงนาฬิกา Big Bang ไปจนถึงชิ้นส่วนที่เล็กที่สุด
ที่มา: HUBLOT