มะนิลา--6 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท
โครงการชลประทานและพลังงานมูลค่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐที่ริเริ่มโดยบริษัท ซีอี แคสเซคแนน วอเตอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์จี (CE Casecnan Water and Energy Company) ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วในเดือนนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความพยามของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่จะสร้างความเจริญให้กับระบบเกษตรกรรมในประเทศและลดการนำเข้าข้าว
ทั้งนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เสนอรายจ่ายจำนวนถึง 368 ล้านเหรียญสหรัฐภายใต้กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาเกษตรกรรมและการประมงของประเทศ เพื่อใช้สำหรับกิจการชลประทาน การดำเนินการภายหลังการเก็บเกี่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และการวิจัยด้านเกษตรกรรม ทางรัฐบาลหวังว่าการเพิ่มจำนวนเงินทุนจะสามารถทำให้ประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มการผลิตข้าวได้จำนวน 1 ล้านเมตริคตัน รวมถึงการผลิตข้าวโพดจำนวน 100,000 เมตริคตัน
บริษัท มิดอเมริกัน เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ (MidAmerican Energy Holdings Company) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซีอี แคสเซคแนน เปิดเผยว่า โครงการชลประทานและพลังงานที่กำลังจะแล้วเสร็จของแคสเซคแนนแสดงให้เห็นถึงพลวัตของประชาชนและความร่วมมือของภาคเอกชนในประเทศ โดยองค์กรว่าด้วยการบริหารระบบชลประทานแห่งชาติของรัฐบาลฟิลิปปินส์ (National Irrigation Administration (NIA)) เป็นผู้สนับสนุนซีอี แคสเซคแนนในโครงการดังกล่าว
" กลยุทธ์ระหว่างแรงผลักดันของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่จะสร้างความเจริญให้กับระบบเกษตรกรรมและการเข้ามามีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชนนั้น จะเป็นแรงผลักดันให้กับผลสะท้อนของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ตามที่ได้มีการคาดหวังไว้ " นายเดวิด โซโคล (David Sokol) ประธานและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท มิดอเมริกัน กล่าว
นายโซโคลได้ย้ำถึงความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีกลอเรีย แมคคาเพกัล-ออโรโย (President Gloria Macapagal-Arroyo) และการให้ความสำคัญกับการลงทุนจากต่างประเทศของประธานาธิบดี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ช่วยสร้างความมั่นใจของนักลงทุนในฟิลิปปินส์
" ประธานาธิบดีออโรโยกำลังเอาจริงกับเรื่องดังกล่าว และผมคิดว่าเธอคำนึงถึงความต้องการที่จะรักษาสภาพเศรษฐกิจที่มีความต่อเนื่อง เพื่อการลงทุนในการอนาคต " นายโซโคลกล่าว
โครงการแคสเซคแนนเป็นโครงการแบบสร้าง-ดำเนินการและส่งมอบ (Build-Operate-and-Transfer)ที่เริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ.2538 โดยจะมีการส่งมอบความเป็นเจ้าของโครงการให้กับประเทศฟิลิปปินส์ภายหลังระยะเวลา 20 ปี โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ และเอ็นไอเอคาดหวังว่าจะดำเนินการโครงการดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 30 ปี
การก่อสร้างของโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้วและการมอบหมายยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยอุโมงค์ใต้ดินที่มีความยาว 26 กิโลเมตรอยู่ในขั้นตอนของการเติมน้ำจากเขื่อนขนาดเล็กภายในโครงการที่สามารถส่งน้ำจากแม่น้ำแคสเซคแนนและแม่น้ำแทนในนูเอว่า วิซคาย่า (Nueva Vizcaya) เข้าไปภายในอุโมงค์ เพื่อส่งไปยังอ่างเก็บน้ำพันตาบันกัน (Pantabangan Reservoir) ในนูเอว่า เอซิจา (Nueva Ecija) ที่เอ็นไอเอได้บริหารงานอยู่ส่วนการทดสอบส่วนประกอบของโครงการพลังงานยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยสถานที่ผลิตพลังงานใต้ดินซึ่งมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 150 เมกกะวัตต์ที่จะทำให้สามารถนำพลังงานไฮโดรอิเลคทรมาใช้ได้ใหม่นั้นได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการทดสอบของหน่วยการผลิตพลังงาน
นายโซโคลกล่าวว่า การส่งมอบงานก้าวหน้าไปด้วยดีและการดำเนินการจะแล้วเสร็จสำหรับการเปิดใช้งานในวันที่ 28 กันยายน
บริษัท มิดอเมริกัน เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ ได้ลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์มหาศาลตั้งแต่ปีพ.ศ.2537 ซึ่งรวมถึงโครงการแคสเซคแนน โดยปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในประเทศฟิลิปินส์ ทั้งนี้บริษัทมีโรงงานพลังงานที่ผลิตจากความร้อนภายในโลกจำนวน 3แห่งในจังหวัดเลย์เท (Leyte province) ซึ่งผลิตพลังงานจำนวน 540 เม็กกะวัตต์ให้กับเมืองลูซอน (Luzon) และคิวบู (Cebu)
" บริษัทได้ดำเนินการที่นี่มาเป็นเวลา 8 ปี และสามารถกล่าวได้ว่าประธานาธิบดีออโรโยได้นำระบบการบริหารที่ดีที่สุดที่บริษัทเคยประสบมาเข้ามาใช้ในประเทศฟิลลิปปินส์ บริษัทยินดีที่ได้อยู่ที่นี่และมั่นใจว่าสภาพธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงที่ดีขึ้น " นายโซโคลกล่าว
แหล่งข้อมูล : ซีอี แคสเซคแนน วอเตอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์จี (CE Casecnan Water and Energy)
ติดต่อ : โรเบิร์ต ยูจีนิโอ (Robert Eugenio)
ซีอี แคสเซคแนน วอเตอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์จี
โทรศัพท์ : +63-32-892-0276
--แปลและเรียบเรียงโดย-สพ/ณท--