ฮานอย, เวียดนาม--15 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- สนับสนุนโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และสมาคมการท่องเที่ยวชั้นนำ
Mekong Innovative Startup Tourism (MIST) ประกาศเปิดตัวโครงการบ่มเพาะธุรกิจสองโครงการใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวแนวใหม่ สามารถสร้างธุรกิจในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และ เวียดนาม ได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยโครงการ MIST Startup Accelerator จะเปิดรับสมัครธุรกิจในระยะเริ่มต้น ทั้งที่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่นำใช้เทคโนโลยีใหม่ หรือ การท่องเที่ยวรูปแบบดั้งเดิม ในขณะที่โครงการ MIST Market Access Accelerator จะเปิดรับสมัครธุรกิจท่องเที่ยวที่ดำเนินการมาแล้วระดับหนึ่ง และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแล้วในต่างประเทศ แต่ต้องการความช่วยเหลือในการเจาะตลาดภูมิภาค ทั้งนี้ ทั้งสองโครงการจะปิดรับสมัครวันที่ 19 มีนาคมนี้
ผู้สมัครจะต้องแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจของตนจะสามารถสร้างงาน สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน และมีส่วนช่วยสนับสนุน การท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืนในกัมพูชา ลาว พม่า หรือเวียดนามได้อย่างไร
"โครงการบ่มเพาะธุรกิจ MIST จะช่วยผลักดันการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ที่นำไปสู่การสร้างงาน การช่วยเหลือชุมชน ท้องถิ่น และการส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการหญิง" โดมินิก เมลเลอร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ประจำธนาคารพัฒนาเอเชีย และผู้อำนวยการ Mekong Business Initiative กล่าว
ผู้ก่อตั้งธุรกิจที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ MIST Startup Accelerator จะต้องเข้าค่ายฝึกฝน เพื่อขัดเกลาแผนธุรกิจของตนเอง โดยแผนธุรกิจที่ติดอันดับต้นๆ จากแต่ละประเทศจะได้รับทุน MIST Innovation Grants ซึ่งผู้ที่ทำคะแนนรวมดีที่สุดจะได้รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และรองชนะเลิศสามรายจะได้รับเงินรางวัล 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ MIST Market Access Accelerator จะได้ร่วมเดินทางไปทำความรู้จักคุ้นเคยกับตลาดประเทศต่างๆในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยในระหว่างการเดินทาง ผู้ร่วมโครงการจะได้รับการสอนและแนะนำ ได้ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละตลาด และจะได้ทำความรู้จักกับเครือข่ายผู้บริการท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ในแต่ละตลาด
ผู้เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจ MIST ทั้งสองโครงการ จะต้องนำเสนอแผนต่อนักลงทุน โครงการบ่มเพาะระดับโลก และผู้นำด้านการท่องเที่ยว ในกองประชุม Mekong Tourism Forum ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ที่หลวงพระบาง สปป. ลาว และ กองประชุม APEC Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ในการนี้ จะมีทีมงานแต่ละประเทศที่จะคอยให้คำปรึกษาเพิ่มเติมตามความต้องการด้านธุรกิจของผู้เข้าร่วมโครงการ
"อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Subregion) ถือเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ธุรกิจสตาร์ทอัพ สามารถฉีกกฎแบบแผนเดิมๆ เพื่อปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ขณะเดียวกัน ก็ควรส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ ที่จะช่วยส่งเสริมความน่าดึงดูดในการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ไปให้คนรุ่นหลังได้มากขึ้น" เจนส์ แธรนฮาร์ท ผู้อำนวยการบริหาร Mekong Tourism Coordinating Office กล่าว
MIST เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง Mekong Tourism Coordinating Office และ Mekong Business Initiative โดย ได้รับเงินทุน คำปรึกษา และการสนับสนุนทางวิชาการในระดับภูมิภาคจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), รัฐบาล ออสเตรเลีย, Amadeus Next, Pacific Asia Travel Association และ Village Capital นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และกลุ่มสตาร์ทอัพในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม
เกี่ยวกับ Mekong Business Initiative (MBI) - MBI เป็นโครงการให้คำปรึกษา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาคเอกชนในประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม โดยที่ MBI ส่งเสริมการพัฒนาในแวดวงนวัตกรรม ด้วยการสนับสนุนการช่วยเหลือภาคธุรกิจ แหล่งเงินทุนทางเลือก และนวัตกรรม MBI ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย และรัฐบาลออสเตรเลีย ติดตาม MBI ได้ทางเฟซบุ๊ก: MekongBusinessInitiative
เกี่ยวกับ Mekong Tourism Coordinating Office (MTCO) - MTCO ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปีพ.ศ. 2549 โดยความร่วมมือกันระหว่างหกประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และมีวิสัยทัศน์ในการช่วยเหลือองค์กรการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศต่างๆในกลุ่ม GMS ในการพัฒนาและส่งเสริมลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวครบวงจรในหนึ่งเดียว ที่รวมหลากหลายผลิตภัณฑ์คุณภาพและทำรายได้สูง เพื่อช่วยเกื้อหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในขอบเขตที่กว้างขึ้น ตลอดจนยกระดับการพัฒนาการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศในอนุภูมิภาคฯ ลดความยากจน สร้างความเท่าเทียมระหว่างเพศ ส่งเสริมบทบาทของสตรี และลดผลกระทบด้านลบของการท่องเที่ยว ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ติดตาม MTCO ได้ทางโซเชียลมีเดีย: @TourismMekonghk