ASIANET: UBS Warburg เป็นเจ้าภาพจัดประชุมบริการสุขภาพระดับโลก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 6, 2001 07:15 —Asianet Press Release

นิวยอร์ค--5 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
การประชุม UBS Warburg Global Healthcare Services ประจำปีครั้งที่ 11 จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ที่โรงแรมพลาซา โฮเต็ลในนครนิวยอร์คและจะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.พ. โดยจะมีผู้จัดการพอร์ทลงทุน, นักวิเคราะห์ทางการเงิน และนักลงทุนกว่า 1,000 คนเข้าร่วมงาน
ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทที่ให้บริการสุขภาพส่วนบุคคลและสาธารณะกว่า 170 แห่งจะเข้าร่วมการประชุมที่มีระยะเวลา 4 วันนี้ โดยผู้บริหารเหล่านี้เป็นตัวแทนของบริการสุขภาพในแทบทุกด้าน ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาล, การบริหารการดูแลสุขภาพ, สถานฟื้นฟู, การให้การดูแลระยะยาว, การดูแลผู้สูงวัย, ผู้จัดหาเว็บไซท์, ผู้จัดจำหน่าย, เทคโนโลยีสารสนเทศและผู้จัดหาบริการจากภายนอก, กิจการแล็บทดลอง, ผู้จัดการสวัสดิการด้านยาตามใบสั่งแพทย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ (REITs)
เนื่องจากหุ้นในกลุ่มบริการสุขภาพบางแห่งมีราคาที่แข็งแกร่งท่ามกลางความผันผวนในตลาด นักลงทุนหลายคนจึงให้ความสนใจต่อทิศทางและแนวโน้มต่างๆในการกำหนดราคาหุ้นในกลุ่มนี้ รวมทั้งให้ความสนใจต่อการเติบโตของต้นทุนด้านค่าแรงและแรงงาน และจะตั้งคำถามเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการขยายกิจการหลังจากหุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้มีราคาพุ่งขึ้นด้วย ประเด็นสำคัญอีก 2 ประเด็นที่จะมีการหยิบยกขึ้นมาสนทนาในการประชุมคือจุดยืนของบริษัทต่างๆในการระดมทุนและในการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการผนวกกิจการหลังจากรัฐบาลให้ทุนสนับสนุนต่ำเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และแผนการปรับตัวของบริษัทเหล่านี้หลังจากมีการเริ่มต้นให้สวัสดิการสุขอนามัยสำหรับยาตามใบสั่งแพทย์
วาระการประชุมในวันจันทร์จะรวมถึงการประชุมบริษัท 14 แห่งที่เป็นผู้นำในกิจการแต่ละด้านโดยวัดจากส่วนแบ่งทางการตลาด, มูลค่าทุนตามราคาตลาด และแนวโน้มการเติบโต โดยผู้ที่จะกล่าวบรรยายเป็นรายแรกคือ Ken Freeman ซีอีโอบริษัท Quest Diagnostics ส่วนผู้บริหารรายอื่นๆที่จะขึ้นกล่าวบรรยายในระหว่างวันรวมถึง Paul Ormond ประธานกรรมการและซีอีโอบริษัท ManorCare; Richard Scruchy ผู้ก่อตั้ง, ประธานกรรมการ และซีอีโอบริษัท HEALTHSOUTH Corp.; David Colby หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท WellPoint Health Networks; Alan Miller ประธานกรรมการและซีอีโอบริษัท Universal Health Services และ Joel Germunder ประธานบริษัท Omnicare
จุดสนใจสำคัญในวันจันทร์จะเป็นการหารือในระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันกับวุฒิสมาชิก Orrin Hatch และ Tom Harkin ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงในคณะกรรมการประจำวุฒิสภาที่ดูแลด้านสวัสดิการสุขอนามัยและการรักษาสุขภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองนโยบาย "power sharing" ของคณะผู้บริหารชุดใหม่ของสหรัฐ วุฒิสมาชิกทั้งสองรายนี้จะเน้นเรื่องบทบาทที่จำเป็นและโอกาสสำหรับผู้นำภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาด้านค่าใช้จ่าย, ช่องทางการเข้าถึง และคุณภาพของการรักษาพยาบาลในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ผู้แทนบริษัทแห่งอื่นๆที่จะขึ้นกล่าวในการประชุมต่างๆซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารถึงวันพฤหัสบดีรวมถึง Jeffrey Barbakow ประธานกรรมการและซีอีโอของบริษัท Tenet Healthcare; Dr. William McGuire ประธานกรรมการและซีอีโอของบริษัท UnitedHealth Group; John Byrnes หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท Lincare Holdings; Norm Payson ซีอีโอบริษัท Oxford Health; Jay Gellert ซีอีโอบริษัท Health Net; Robert Martini ประธานกรรมการและซีอีโอบริษัท Bergen Brunswig; Vic Campbell รองประธานระดับสูงของบริษัท HCA- The Healthcare Company; Jack Walsh ซีอีโอบริษัท IMS Health และ Paul Klassen ประธานกรรมการและซีอีโอบริษัท Sunrise Assisted Living
บริษัทชั้นนำในด้านการให้บริการสุขภาพจากออสเตรเลีย, อังกฤษ, เยอรมนีและอินเดียจะมาแนะนำกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทด้วย ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังการบรรยายจาก Dr. Ben Lipps ประธานกรรมการและซีอีโอบริษัท Fresenius MedicalCare A; Peter Smedley จากบริษัท Mayne Nickless; Richard Clough จากบริษัท Care UK Plc; Stefan Meister จากบริษัท Gehe AG และ Geoffrey Cooper จากบริษัท Alliance UniChem Plc
Howard Capek ผู้อำนวยการบริหารของ UBS Warburg Equity Research จะกล่าวถึงโอกาสต่างๆในด้านการให้บริการสุขภาพในการแถลงเปิดงาน โดยเขาจะกล่าวว่า "การที่รัฐสภาสหรัฐปรับปรุงสวัสดิการสุขอนามัยในทางที่ดีขึ้นนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ให้บริการและสำหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งธุรกิจรักษาพยาบาลในระยะยาวจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้ และบรรยากาศที่ดีขึ้นจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับกิจการที่เติบโตเร็วเช่นกิจการด้านสถานฟื้นฟู, การผ่าตัดคนไข้นอก และการจัดจำหน่ายยา ทั้งนี้ ในช่วงปี 1997-1999 งบประมาณด้านการรักษาพยาบาลที่ต่ำเกินไปและการปรับเปลี่ยนกฎด้านการคืนเงินค่าใช้จ่ายส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการดำเนินงานครั้งใหญ่และส่งผลให้มีการปิดกิจการ แต่บริษัทชั้นนำที่สามารถปรับตัวและลดรายจ่ายในช่วงดังกล่าวก็สามารถอยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบันนี้ พร้อมกับมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงขึ้น, มีงบดุลที่แข็งแกร่ง และมีโครงสร้างการดำเนินงานที่คล่องตัว ซึ่งบริษัทที่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้นี้ มีแนวโน้มว่าจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นได้ในระดับสูงมาก"
Matthew Ripperger ผู้อำนวยการบริษัท UBS Warburg Equity Research จะแถลงว่า "อุตสาหกรรมโรงพยาบาลยังคงมีแนวโน้มพื้นฐานที่ดีที่สุดเหมือนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การคืนค่ารักษาพยาบาลของทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลมีแนวโน้มในทางบวกและอัตราการเติบโตของจำนวนคนไข้ในเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และภาวะการแข่งขันสูงในตลาดยังคงเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดสำหรับโรงพยาบาลเอกชนเนื่องจากโรงพยาบาลที่ไม่หวังผลกำไรหลายแห่งกำลังประสบปัญหาในหลายๆด้าน และภาวะดังกล่าวนี้ทำให้อัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นและระดับการเข้าซื้อกิจการพุ่งสูงขึ้นในภาคธุรกิจนี้ด้วย นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าการทำสัญญารับบริการจากบริษัทภายนอก (outsourcing) จะยังคงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วขึ้นไปอีกในปี 2001 ในขณะที่โรงพยาบาลและผู้ให้บริการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของตัวเองและทำสัญญากับบริษัทที่ 3 เพื่อรับบริการบางด้าน เช่นด้าน imaging, การบริหารแพทย์, การบริหารโรค และการจัดหาพยาบาลชั่วคราว โดยรวมแล้วเรายังคงคาดว่าธุรกิจทั้งภาคนี้มีแนวโน้มที่สดใส"
William McKeever นักวิเคราะห์การบริหารการพยาบาลของ UBS Warburg จะแถลงว่า "พื้นฐานการบริหารการพยาบาลยังคงแข็งแกร่งมากในปี 2001 โดยได้รับแรงหนุนจากการกำหนดค่าเบี้ยประกันที่ระดับสูงและค่าเบี้ยประกันนี้มีแนวโน้มจะเติบโตรวดเร็วกว่าแนวโน้มต้นุทนค่ารักษาพยาบาล โดยอุตสาหกรรมนี้กำลังนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการติดต่อกับผู้จัดหา, นายจ้าง, สมาชิก และโบรกเกอร์ และเราคาดว่าจะมีโอกาสสูงมากในการลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับองค์ประกอบต่างๆที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ ด้านคณะผู้บริหารชุดใหม่จากพรรครีพับลิกันและจำนวนสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาจะทำให้ร่างกฎหมายสิทธิคนไข้หรือร่างกฎหมายในทางลบฉบับอื่นๆมีโอกาสลดน้อยลงที่จะผ่านการพิจารณา และเราคาดว่าปี 2001 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นเนื่องจากในปีนี้อุตสาหกรรมสุขภาพจะยังคงมีอัตราผลกำไรเติบโตขึ้น และจะยังคงมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ รวมทั้งจะมีการจ่ายผลตอบแทนที่แข็งแกร่งให้กับนักลงทุน"
การประชุม UBS Warburg Global Healthcare Services ที่จัดขึ้นในช่วง 11 ปีที่ผ่านมาได้พัฒนาขึ้นจากการประชุมที่มุ่งเน้นไปที่โรงพยาบาลและหน่วยงานรักษาพยาบาลภายในประเทศตามรูปแบบดั้งเดิมมาเป็นการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้านของบริการรักษาพยาบาลทั่วโลกเพื่อให้นักลงทุนและลูกค้ามีช่องทางเข้าถึงผู้บริหารและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งที่หวังผลกำไรและไม่หวังผลกำไรในขอบเขตที่กว้างที่สุด
ผู้ต้องการฟังการประชุมเพียงอย่างเดียวสามารถโทรไปรับฟังการประชุมสดได้ทางหมายเลข (719) 457-2605 และ (888) 515-2781 ส่วนผู้ต้องการฟังซ้ำ (รีเพลย์) สามารถโทรไปรับฟังได้ที่หมายเลข (402) 220-0705 และ (877) 803-5524 โดยสายรีเพลย์นี้จะเปิดให้บริการเป็นเวลาราว 4 สัปดาห์หลังการประชุมเสร็จสิ้นลง
UBS Warburg เป็นกลุ่มธุรกิจในเครือ UBS AG ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจำนวนพนักงานราว 78,000 คนในกว่า 40 ประเทศ ทั้งนี้ UBS Warburg ดำเนินกิจการหลักทรัพย์ในสหรัฐผ่านทางบริษัท UBS Warburg LLC และ PaineWebber Incorporated ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ที่จดทะเบียนในสหรัฐ บริษัท UBS Warburg เป็นผู้นำในด้านหุ้น, ไฟแนนซ์เอกชน, การให้คำแนะนำและให้ทุนสำหรับการควบกิจการและเข้าซื้อกิจการ, การปรับโครงสร้างทางการเงิน, การออกตราสารที่ให้ผลตอบแทนคงที่และการค้าตราสารดังกล่าว, การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ, ตราสารอนุพันธ์ และการบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ UBS Warburg ยังให้บริการรูปแบบใหม่ในด้านการบริหารสินทรัพย์อย่างเต็มที่โดยผ่านทางบริษัท PaineWebber อีกทั้งยังจัดหาเงินทุนสำหรับหุ้นเอกชนผ่านทางบริษัท UBS Capital
แหล่งข่าว : UBS Warburg
ติดต่อ : Jim Galvin จาก UBS Warburg โทร.212-821-5503
เว็บไซท์ : http://www.ubswarburg.com (ยังมีต่อ)
--แปลและเรียบเรียงโดย-จพ/กก(โทร. 637-5500 ต่อ 450)--

แท็ก e service   AsiaNet   asian   ก.พ.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ