วอชิงตันและปารีส--6 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
รายงาน Aging Readiness and Competitiveness (ARC) สำรวจความท้าทายและโอกาสต่างๆ อันเป็นผลพวงมาจากการขยายตัวของจำนวนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปในทุกประเทศทั่วโลก และแนวทางที่ 12 ประเทศใช้ในการรับมือกับประเด็นดังกล่าว
AARP เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ที่ตรวจสอบระดับความพร้อมของ 12 ชาติ ได้แก่ บราซิล แคนาดา จีน เยอรมนี อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลี เม็กซิโก แอฟริกาใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในการรับมือกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ทางสังคมและเศรษฐกิจ เมื่อประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก และองค์กรอื่นๆ คาดการณ์ว่าสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นภายในปี 2593
รายงาน Aging Readiness and Competitiveness (ARC) ของ AARP (เผยแพร่ออนไลน์ที่ aarpinternational.org/arc) ซึ่งจัดทำขึ้นร่วมกับ FP Analytics ได้ตรวจสอบความพร้อมของแต่ละประเทศใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและชุมชน 2) โอกาสทางการผลิตและผลผลิตทางเศรษฐกิจ 3) การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ 4) การมีส่วนร่วมทางเทคโนโลยี โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าเชิงโครงสร้าง ประเด็นที่น่ากังวล และการพัฒนาที่สำคัญ
ARC ไม่ได้จัดอันดับหรือให้คะแนนประเทศที่ถูกประเมิน แต่ใน 4 ด้านดังกล่าวจะแบ่งประเทศออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้นำ ผู้ขับเคลื่อน (ประเทศที่มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด) และผู้ล้าหลัง หลายคนอาจคุ้นเคยว่าสหรัฐมักเป็นผู้นำในการสำรวจในลักษณะนี้ แต่ในรายงาน ARC พบว่าสหรัฐติดกลุ่มผู้นำเพียงด้านเดียวเท่านั้น (การมีส่วนร่วมทางเทคโนโลยี) ซ้ำยังเป็นผู้ล้าหลังในด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เช่นเดียวกับแอฟริกาใต้และบราซิล
Jo Ann Jenkins ซีอีโอของ AARP กล่าวถึงรายงาน ARC ที่ประเมิน 12 ประเทศว่า "ความท้าทายและโอกาสที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป คือปรากฏการณ์ระดับโลกที่ไร้พรมแดนอย่างแท้จริง"
รายงาน ARC พบว่าแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ก็มีลักษณะร่วมกันหลายอย่าง ดังนี้
- ผู้หญิงทุกชาติลำบากกว่าผู้ชาย เนื่องจากต้องดูแลทั้งเด็กๆและผู้สูงวัยในครอบครัว พร้อมกับทำงานนอกบ้านไปด้วยหากทำได้ แต่ผู้หญิงมักได้ค่าแรงน้อยกว่าผู้ชาย ข้อจำกัดด้านการเงินที่ต้องเผชิญในวัยชราจึงมีมากกว่า
- ผู้สูงอายุทุกชาติล้วนอยากอาศัยอยู่ในที่ที่ตนพอใจ แต่การทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งในระดับชุมชนและสังคม โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
- การใช้อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นประโยชน์ต่อการจ้างงานและการสื่อสาร ทว่าในหลายๆประเทศ ผู้สูงวัยกลับเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต
- ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สัดส่วนของประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยใช้อินเทอร์เน็ตเลยนั้น มีมากถึง 90%ในตุรกีและเม็กซิโก, 85% ในจีน, 75% ในบราซิล และ 30% ในสหรัฐ
Claire Casey กรรมการผู้จัดการของ FP Analytics เปิดเผยว่า "ความท้าทายในการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล อย่างเช่นความมั่นใจของผู้สูงอายุในการใช้เทคโนโลยี ถือเป็นประเด็นน่าหนักใจที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ ARC ค้นพบคือ ประเทศต่างๆทั่วโลกต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทักษะการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคโนโลยีและทางวัฒนธรรมด้วย"
รายงาน ARC ประเมินความท้าทายอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การเคลื่อนย้าย ความโดดเดี่ยว การเงิน และสุขภาพ แต่ก็ระบุถึงพัฒนาการเชิงบวกที่น่าสนใจเช่นกัน
Casey กล่าวว่า "ความท้าทายอันเกิดจากการสูงวัยเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก แต่ก็สามารถรับมือได้โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ และโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ บริการ "Watchover Service" ในญี่ปุ่น ซึ่งใช้พนักงานไปรษณีย์ร่วมกับสมาร์ทดีไวซ์ เพื่อช่วยตรวจดูผู้สูงอายุระหว่างออกปฏิบัติงาน"
"บริการดังกล่าวคิดค่าธรรมเนียมเพียงน้อยนิด แต่เป็นวิธีการที่ง่ายและได้ผลในการสร้างความมั่นใจว่าผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตตามลำพังยังสบายดีอยู่ ทั้งนี้ FP Analytics และ AARP หวังว่ารายงาน ARC จะช่วยจุดประกายให้เกิดความคิดใหม่ๆ อย่างในสหรัฐซึ่งบริษัทไปรษณีย์แห่งชาติ (USPS) มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง บริการแบบ Watchover Service ของญี่ปุ่น หรืออย่างน้อยก็แนวคิดในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิมจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ ก็ถือเป็นประเด็นที่ควรจะหยิบยกขึ้นมาหารือกัน"
เกี่ยวกับ AARP
AARP เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด โดยมีสมาชิกเกือบ 38 ล้านรายที่คอยช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนเป้าหมายและความฝันของตนให้เป็น "โอกาสที่เกิดขึ้นได้จริง" ด้วยการเปลี่ยนนิยามของการสูงวัยในสายตาของชาวอเมริกัน AARP มีสำนักงานอยู่ในทั้ง 50 รัฐ รวมถึงเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ โดยดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และส่งเสริมประเด็นที่มีความสำคัญที่สุดต่อสถาบันครอบครัว เช่น ความมั่นคงด้านสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน และการบรรลุเป้าหมายของบุคคล นอกจากนี้ AARP ยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยการอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงและมากคุณค่าได้ใช้ชื่อ AARP และในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้ AARP จึงตีพิมพ์นิตยสารยอดจำหน่ายสูงสุดในโลกอย่าง AARP The Magazine และ AARP Bulletin ทั้งนี้ AARP ไม่มีนโยบายรับรองผู้สมัครชิงตำแหน่งทางการเมือง หรือให้การสนับสนุนตัวผู้สมัครหรือการหาเสียงทางการเมือง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ www.aarp.org หรือติดตาม @aarp และซีอีโอของเรา @JoAnn_Jenkins ทางทวิตเตอร์
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/321062/aarp_logo.jpg