บรัสเซลส์--15 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- เทสโก้เตรียมยกเครื่องร้านค้าปลีกกว่า 1,200 แห่งในสหราชอาณาจักร โดยเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็น Solstice(R) N40 (R-448A) ของฮันนี่เวลล์
ฮันนี่เวลล์ (NYSE: HON) ประกาศว่า เทสโก้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเชนซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเดินหน้าแผนปรับปรุงร้านค้ากว่า 1,200 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร โดยให้เปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็น Solstice(R) N40 ของฮันนี่เวลล์ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามพันธกิจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ทั้งนี้กระบวนการปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี โดยในปัจจุบันมีร้านค้าที่เปลี่ยนสารทำความเย็นเสร็จสิ้นแล้ว 60 แห่ง
เทสโก้ยึดมั่นในมติของที่ประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่กรุงปารีส (COP21) ในเดือนพ.ย. 2558 โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยแผนสนับสนุนในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากระบบทำความเย็นลง 26.5% เมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ยในปี 2549-2550 และเมื่อเทสโก้สามารถปรับปรุงร้านค้าปลีกทั้ง 1,200 แห่งโดยให้เปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็น Solstice N40 ที่มีค่าการก่อภาวะโลกร้อน (GWP) ต่ำกว่า ได้ทั้งหมดแล้ว ก็จะช่วยให้เทสโก้สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 40% หรือเทียบเท่ากับการนำรถ 70,000 คันออกจากท้องถนนในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า
สารทำความเย็น R-404A ที่เทสโก้ใช้ในปัจจุบัน เป็นสารไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) ที่มีค่า GWP สูงถึง 3,943 ขณะที่สารทำความเย็น Solstice N40 ซึ่งสามารถใช้ทดแทนสาร R-404A ในระบบทำความเย็นของซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น มีค่า GWP เพียง 1,273 ซึ่งถือเป็นสารทำความเย็นไม่ติดไฟที่มีค่า GWP ต่ำสุดที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน
"เทสโก้กำหนดเป้าหมายที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมายเหล่านั้นโดยที่ไม่กระทบต่อผู้บริโภค" แมทธิว รีฟส์-สมิธ หัวหน้าฝ่ายระบบทำความเย็นและปรับอากาศของเทสโก้ กล่าว "พวกเรามองหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการยกระดับร้านค้าทั้ง 1,200 แห่งภายในเวลา 3 ปี และเราก็ได้พบกับโซลูชั่น Solstice N40 สารทำความเย็นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างตรงจุดทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ และการบำรุงรักษา นอกจากนี้ การที่สารทำความเย็นชนิดนี้สามารถทดแทนสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ยังเป็นหลักประกันด้วยว่า กระบวนการปรับเปลี่ยนจะดำเนินไปอย่างราบรื่นตลอด 3 ปีข้างหน้า"
Solstice N40 เป็นผลิตภัณฑ์ที่อุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตเลือกใช้มากที่สุด เนื่องจากมีค่า GWP ต่ำสุด และเป็นสารทำความเย็นไม่ติดไฟที่เป็นตัวเลือกทดแทนสาร R-404A ได้ โดยสามารถนำไปใช้กับระบบที่ติดตั้งใหม่ หรือระบบเก่าที่ใช้สารทำความเย็นที่มีค่าก่อภาวะโลกร้อนสูงอย่าง R-404A, R-507 และสารทำความเย็นผสม ทั้งนี้ในปี 2558 มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปลี่ยนไปใช้ Solstice N40 แล้วกว่า 2,000 แห่ง
"ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีการยกเครื่องขนานใหญ่โดยเปลี่ยนไปใช้โซลูชั่น Solstice N40 นั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นโซลูชั่นในอุดมคติที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน" โรเบิร์ต เคบบี ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสารทำความเย็นระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ Honeywell Fluorine กล่าว "ฮันนีเวลล์ส่งเสริมให้ลูกค้าเร่งเปลี่ยนสารทำความเย็นใหม่ที่มีจำหน่ายแล้วและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ทันที โดยไม่ต้องกังวลว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะขาดตลาด"
ความสำเร็จของโครงการเปลี่ยนสารทำความเย็นของเทสโก้ ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างฮันนี่เวลล์กับพาร์ทเนอร์อย่าง A-Gas ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายสารทำความเย็นรายใหญ่ของฮันนี่เวลล์ในสหราชอาณาจักร โดยบริษัทให้บริการทั้งเรียกคืนและทดสอบสินค้า ขณะที่บริษัท Climate Center เป็นผู้ให้บริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศและเก็บสต็อกทั้งสารทำความเย็นใหม่และสารทำความเย็นที่ถูกเรียกคืน ส่วนบริษัท Carter Synergy และบริษัท Space Engineering มีความเชี่ยวชาญในด้านการเปลี่ยนสารทำความเย็น
ฮันนี่เวลล์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนา ผลิต และจัดหา สารทำความเย็น ที่มีจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ Solstice(R) และ Genetron(R) ซึ่งมีขอบข่ายการใช้งานที่กว้างขวาง ครอบคลุมทั้ง ระบบแช่เย็น ระบบปรับอากาศภายใน อาคาร และ ยานยนต์ ฮันนี่เวลล์และเหล่าซัพพลายเออร์กำลังเดินหน้า โครงการลงทุนมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงพัฒนาขีดความสามารถของโซลูชั่นด้วยสารไฮโดรฟลูโอโรโอเลฟิน (HFO) ของฮันนี่เวลล์ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.honeywell-refrigerants.com/europe/
ฮันนี่เวลล์ ( www.honeywell.com ) เป็นบริษัทอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่ติดอันดับ Fortune 100 บริษัทนำเสนอโซลูชั่นเจาะจงอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการด้านอากาศยานและยานยนต์ เทคโนโลยีควบคุมสำหรับอาคาร บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงวัสดุสมรรถนะสูงให้กับลูกค้าทั่วโลก เทคโนโลยีของเราช่วยให้อากาศยาน รถยนต์ บ้านเรือน อาคาร โรงงาน ห่วงโซ่อุปทาน และคนงาน สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้มากขึ้น เพื่อสร้างโลกที่อัจฉริยะขึ้น ปลอดภัยขึ้น และยั่งยืนขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.honeywell.com/newsroom