กว่างโจว, จีน--1 ธ.ค.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
อดีตผู้นำรัฐและรัฐบาลกว่า 20 คน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญและผู้นำธุรกิจที่มีชื่อเสียงกว่า 80 คนจากทั่วทุกมุมโลก ได้มารวมตัวกันที่นครกว่างโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อร่วมการประชุม Imperial Springs International Forum 2017 โดยภายในงานได้มีการแบ่งการประชุมอภิปรายย่อยออกเป็น 6 รูปแบบภายใต้หัวข้อ "Reshaping Global Governance and China's Perspective" ซึ่งผู้ร่วมประชุมได้อภิปรายเกี่ยวกับความคืบหน้าของภารกิจในประเด็นต่างๆ ภายใต้ธรรมาภิบาลสากลรูปแบบใหม่ เพื่อส่งต่อภูมิปัญญาในการสร้างประชาคมที่มนุษยชาติมีอนาคตร่วมกัน
อดีตผู้นำทางการเมืองจากนานาประเทศ ซึ่งรวมถึงนายบัน คี-มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (UN), นางไวรา วิเก ไฟรแบร์กา อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐลัตเวีย และประธาน World Leadership Alliance-Club de Madrid และนายฟิลิป ไมเคิล เจฟเฟอรี อดีตผู้สำเร็จราชการของออสเตรเลีย ได้ร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยบรรดาผู้นำต่างเห็นพ้องกันว่าจุดสมดุลของมหาอำนาจโลกได้เปลี่ยนไปแล้วในปัจจุบันและความท้าทายของโลกได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การเสริมสร้างและสนับสนุนการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลโลกได้กลายเป็นกระแสมาทุกยุคทุกสมัย
นายบัน คี-มูน กล่าวในการประชุมครั้งนี้ว่า การปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลสากลนั้นจำเป็นจะต้องยกระดับความเป็นผู้นำในเวทีโลกของของชาติมหาอำนาจ โลกได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน แต่กระนั้นพิมพ์เขียวเพื่อโลกที่ดีกว่าก็ยังคงไม่บรรลุผล ความท้าทายและอุปสรรคที่เกิดจากประชานิยมได้ขัดขวางการจัดทำพิมพ์เขียวดังกล่าวให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ลัทธิก่อการร้ายกำลังขยายวงออกไป ในขณะที่ลิทธิสุดโต่งหัวรุนแรงยังคงเป็นเนื้อร้าย เราจึงต้องทำงานหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบธรรมาภิบาลสากล
ในระหว่างที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับการผลักดันความเปลี่ยนแปลงในระบบธรรมาภิบาลสากล ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ทำความเข้าใจในมุมมองที่ใกล้ชิดมากขึ้น และหลากหลายมากขึ้น เกี่ยวกับแนวคิดธรรมาภิบาลสากลรูปแบบใหม่ที่จีนเสนอ และได้หารือเชิงลึกในประเด็นความสงบสุข ความมั่นคง การค้า การเงิน การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้แบบแผนธรรมภิบาลสากลใหม่ และการวิเคราะห์ถึงแนวทางบรรลุการพัฒนาเพื่อความสงบสุขอันครอบคลุมและยั่งยืนภายใต้การจัดระเบียบธรรมาภิบาลสากลในรูปแบบใหม่
เจนนี่ ชิปลีย์ อดีตนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุม G-20 Summit ในเมืองหางโจวถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับระบบธรรมาภิบาลสากลรูปแบบใหม่ จีนมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวทีนานาชาติ ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศและเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น โดย 5 ประเทศในกลุ่ม BRICS จะมีสัดส่วนในเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น การนำแนวคิดธรรมาภิบาลในเรื่องของการแบ่งปันและการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้นั้นจะเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา ประเทศและโลกของเรา ประชาคมโลกไม่ควรย้อนกลับไปสู่เส้นทางเก่าที่โลกตะวันออกและตะวันตกเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
ผู้เข้าร่วมการประชุมจากหลายประเทศต่างแสดงความชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันถึงบทบาทที่ต่อเนื่องของจีนในฐานะมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในการปฏิรูปอย่างจริงจัง รวมไปถึงบทบาทในการสร้างระบบธรรมาภิบาลสากล ตลอดจนภูมิปัญญาและความเข้มแข็งของจีน
การประชุม Imperial Springs International Forum จัดขึ้นร่วมกันโดยสมาคม Chinese People's Association for Friendship with Foreign Countries (CPAFFC) และสมาคม Australia China Friendship and Exchange Association (ACFEA) การประชุมจัดขึ้นมาแล้วสามครั้งนับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนในปี 2558 โดยการประชุมครั้งต่อๆมาได้มีส่วนในการยกระดับความเข้าใจและฉันทามติของทุกฝ่าย รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลก ผ่านทางการอภิปรายประเด็นร้อนในสาขาการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ส่งผลให้งานนี้กลายเป็นเวทีสำคัญของจีนสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและทางการทูตที่ไม่ใช่ระดับรัฐบาล
นายโจว เซอหรง ประธานสมาคม Australia China Friendship and Exchange Association (ACFEA) กล่าวว่า ถ้อยแถลงในแนวทางที่ริเริ่มและสร้างสรรค์ของผู้เข้าร่วมประชุมได้ช่วยให้เราวิเคราะห์ความท้าทายและโอกาสที่ระบบธรรมาภิบาลโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันผ่านมุมมองที่กว้างขึ้น รวมทั้งเข้าใจและตระหนักถึงวิสัยทัศน์และข้อเสนอของจีนในการมีส่วนร่วมในธรรมาภิบาลโลก นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดความรู้ใหม่แก่ประชาคมโลก และเพิ่มแรงกระตุ้นในการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลสากล เขาได้เน้นย้ำด้วยว่า การประชุม Imperial Springs International Forum จะยังคงเดินหน้าส่งเสริมการปฏิรูปธรรมาภิบาลทั้งในจีนและทั่วโลกต่อไป เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของมวลมนุษยชาติ
ที่มา: คณะกรรมการจัดงาน Imperial Springs International Forum
AsiaNet 71330