กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--เกียวโด เจบีเอ็น - เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
SUS Corp. บริษัทแม่ของ SUS (Thailand) Co., LTD. ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ พัฒนา ผลิต และทำตลาดเครื่องจักรและชิ้นส่วนที่เป็นอลูมิเนียมของระบบอัตโนมัติในโรงงาน (Factory Automation หรือ FA) กำลังจะเสร็จสิ้นการก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วน FA ที่จังหวัดลำพูน ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ SUS ในประเทศไทย โดยมีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ และจะเริ่มต้นการผลิตได้ในเดือนมกราคมปีหน้า
SUS Corp. เล็งเห็นว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยมีค่าแรงถูกและสามารถดึงดูดบริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์และเซมิคอนดัคเตอร์ให้มาตั้งฐานการผลิตในประเทศได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง SUS Corp. เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี พ.ศ.2543 ด้วยการรับจ้างผลิตแหวนสกรูให้บริษัทต่างๆ หลังจากนั้นจึงก่อตั้งโรงงานขึ้นเองในปี พ.ศ.2544 ปัจจุบันบริษัทยังเป็นเจ้าของบริษัทลูกอีก 3 แห่ง ในจังหวัดลำพูน ซึ่งทำการผลิตแหวนสกรูและฉากยึด (Nuts and brackets) สำหรับการใช้งานในโรงงาน โดยโรงงานแห่งใหม่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
SUS (Thailand) Co., LTD. ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ผลิตแหวนสกรูจากผงโลหะเผา (Sintered metal) หรือผงสเตนเลส จะย้ายไปยังโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งมีความพร้อมสำหรับการผลิตแหวนสกรู ฉากยึด ผลิตภัณฑ์สำหรับเครื่องรีดพลาสติก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนย้ายอุปกรณ์การผลิตของบริษัทลูกอีก 2 แห่ง ไปยังโรงงานแห่งใหม่ภายในระยะเวลา 2 - 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตต่อปีเฉพาะในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าของกำลังการผลิตในปัจจุบัน SUS Corp. เป็นเจ้าของพื้นที่ราว 26 เฮคเตอร์ (164 ไร่) ในจังหวัดลำพูน และมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2560 โดยโรงงานที่จะใช้ชื่อว่า "Aluminum Land" จะเป็นศูนย์กลางการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่เฟรมอลูมิเนียมไปจนถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการผลิตอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่ายอดขายสินค้าซึ่งผลิตที่โรงงานแห่งนี้จะสูงถึง 200 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2551 และเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ "Aluminum Land" ยังเป็นโรงงานแห่งแรกของโลกที่เป็นมิตรกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม โดยได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้โรงงานมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งมักจะมีฝนตกหนัก นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบด้วย นับเป็นโรงงานแห่งแรกของโลก*ที่ติดตั้งผนังบานเกล็ดขนาดใหญ่ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
*จากการวิจัยของบริษัทในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550
โรงงานแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นบนยกพื้นสูงที่ล้อมรอบด้วยเขื่อนเป็นวงกลมหรือที่เรียกว่า Waju ในภาษาญี่ปุ่น และมีการสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม มาตรการป้องกันเบื้องต้นเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุน้ำท่วม และช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าโรงงานจะยังคงจัดหาสินค้าป้อนให้แก่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศแบบใด
ผนังบานเกล็ดที่สามารถเปิด-ปิดได้ทำให้โรงงานมีสภาพแวดล้อมที่โปร่งโล่งเสมือนโรงงานที่ปราศจากกำแพงกั้น และทำให้ภายในโรงงานมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตลอดทั้งปี โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
กำแพงของโรงงานแห่งใหม่นี้ใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นอลูมิเนียมชนิดที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด นอกจากนี้ อลูมิเนียมยังมีคุณสมบัติกึ่งถาวรในการทนทานต่อการกัดกร่อนได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
แหล่งข่าว: SUS Corp.
ติดต่อ: ทอม แวน บลาร์คอม และ เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์: 0-2260-5820
โทรสาร: 0-2260-5847-8
อีเมล์: tqprthai@tqpr.com
เว็บไซต์: http://global.sus.co.jp
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--