คูเวต ซิตี้--31 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- โครงการใหม่ที่มุ่งเน้นในด้านการศึกษา การฝึกฝนทักษะ และความเป็นผู้ประกอบการ
- Alghanim Industries จะมอบทุน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นผู้นำการระดมทุนเพิ่มเติมอีก 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ตั้งเป้าในการเข้าถึงเด็กและเยาวชนผู้ลี้ภัย 100,000 คน ภายในปี 2563
Alghanim Industries หนึ่งในบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ในชื่อ The MENA Philanthropy Leaders Initiative for Refugee Youth and Children โดยมีเป้าหมายในการระดมทุนจากภาคเอกชนขั้นต่ำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อมอบความช่วยเหลือด้านการศึกษาและการฝึกฝนให้กับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
โครงการดังกล่าวได้รับการเห็นพ้องอย่างเป็นทางการจากนายฟิลิปโป แกรนดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และ นายโมาร์ เค อัลดานิม ประธานบริหารสูงสุดบริษัท Alghanim Industries ในระหว่างการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยประกาศดังกล่าวถูกทำเป็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง Alghanim Industries และ UNHCR ฉบับปี 2560 ภายใต้เป้าหมายในการระดมทุนและให้การสนับสนุนชุดโครงการสร้างความตระหนักทางสังคมและการศึกษา รวมทั้งกลุ่มที่คอยสนับสนุนการเสริมสร้างทักษะทางภาษาและการบ้าน เพื่อมอบความช่วยเหลือในด้านการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนชาวซีเรีย ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการเป็นสมาชิกที่มีสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่หรือแม้แต่เมื่อกลับไปยังซีเรียแล้วก็ตาม
การระดมทุนดังกล่าวมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Alghanim Industries จะมอบเงินบริจาคจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับโครงการในทันที จากนั้นจะพยายามระดมทุนเพิ่มเติมจากชุมชนธุรกิจในภูมิภาค MENA โครงการนี้จะได้รับการดูแลโดยคุณโอมาร์ เค.อัลกานิม ซึ่งจะเข้ามาช่วยระดมเงินทุนที่มีความจำเป็นอย่างมาก จากบรรดาผู้นำธุรกิจและคนใจบุญในภูมิภาคผู้มีวิสัยทัศน์ในการปกป้องกลุ่มคนต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด
เงินจากการระดมทุนตามเป้าหมาย 10 ล้านดอลลาร์นี้ จะถูกนำมากิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการศึกษาในเชิงวิชาการและการอาชีพ การฝึกฝนทักษะ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและเยาวชนพลัดถิ่นภายในภูมิภาค โครงการดังกล่าวตั้งเป้าว่าจะเข้าถึงเยาวชนผู้ลี้ภัยให้ได้ราว 100,000 คน และมอบความช่วยเหลือให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมเมื่อเดินทางกลับไปยังประเทศบ้านเกิด
คุณโอมาร์ เค.อัลกานิม กล่าวในการประกาศเปิดตัวโครงการนี้ว่า "ผู้นำภาคเอกชนในภูมิภาคของเราต้องมีบทบาทในการช่วยเหลือการซ่อมแซมเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติผู้ลี้ภัย เราต้องมุ่งความสนใจไปที่การสร้างความมั่นใจว่าเด็กและและเยาวชนพลัดถิ่นเหล่านี้จะเข้าถึงการศึกษาและสามารถฝึกฝนทักษะได้ตามที่พวกเขาต้องการ สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นหากพวกเขาจะกลายเป็นนักคิดและนักแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าของธุรกิจในรุ่นต่อไป และเป็นผู้นำทางการเมือง"
คุณโอมาร์กล่าวต่อว่า "Alghanim Industries มีประวัติยาวนานในด้านการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการจะเป็นผู้ประกอบการ และนี่แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายความพยายามของเราสู่ผู้อพยพที่ประสบความยากลำบาก และนำมาซึ่งความหวังสู่ประเทศต่างๆที่ประสบกับโศกนาฏกรรมแห่งความขัดแย้งและการต้องย้ายถิ่นฐาน นอกจากเงินจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สำหรับการเริ่มต้นโครงการนี้ ผมยังจะร่วมมือในการระดมทุนจากผู้ใจบุญรายอื่นๆ ให้ถึง 8.5 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย เราจะร่วมงานกับ UNHCR เพื่อให้มั่นใจว่าเงินจะถูกนำไปทำประโยชน์ได้เต็มที่"
คุณฟิลิปโป คานธี กล่าวชื่นชมโครงการนี้ว่า "โครงการสำคัญของ Omar Alghanim โครงการนี้มีความสอดคล้องกับทิศทางตามยุทธศาสตร์ของ UNHCR ที่มีต่อสังคมโดยรวมทั้งหมด บุคคลและบริษัทต่างร่วมมือกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ประชาชนผู้ที่ถูกบังคับให้อพยพนั้นจะสามารถสร้างชีวิตใหม่ได้และสามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ UNHCR ขอน้อมรับความมุ่งมั่นอันเป็นกุศลนี้ ที่ช่วยเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของชุมชนธุรกิจของ MENA ในการช่วยอุปถัมป์ชุมชมผู้ลี้ภัยที่อยู่ในภูมิภาค"
คุณโอมาร์ เค.อัลกานิมได้กล่าวแสดงความมุ่งมั่นต่อการสร้างพลังให้แก่ผู้ด้อยโอกาส สนับสนุนการศึกษา และส่งเสริมในด้านการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งล้วนถือเป็นเสาหลักของการทำประโยชน์เพื่อสังคมของ Alghanim Industries ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นพันธมิตรกับ UNHCR แล้ว บริษัทยังเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของโครงการ INJAZ-Kuwait และได้ร่วมมือกับ AMIDEAST ในการสนับสนุนเด็ก ๆ ด้านการเรียนภาษาที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในคูเวต
เกี่ยวกับ Alghanim Industries
Alghanim Industries เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค MENA โดยก่อตั้งขึ้นที่คูเวตมานานกว่าหนึ่งศตวรรษ ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 15,000 คน ใน 30 ธุรกิจ ทั่ว 40 ประเทศในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ยุโรปตะวันออก และเอเชีย
Alghanim Industries เป็นผู้นำตลาดในเกือบทุกภาคส่วนที่บริษัทได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งรวมถึงภาควิศวกรรม ค้าปลีก การขายและบริการยานยนต์ ฉนวนและโครงสร้างอาคารเหล็กสำเร็จรูป โลจิสติกส์และคลังสินค้า สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) อาหารและเครื่องดื่ม น้ำมันและก๊าซ สำนักงานอัตโนมัติ โฆษณา ประกัน สินเชื่อผู้บริโภค และการท่องเที่ยว บริษัทเดินหน้าขยายผลงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่พันธมิตรระดับสูงจากทั่วโลก อาทิ Avis, British Airways, British Petroleum, Cathay Pacific, Daewoo, Honda, Saint-Gobain และ Toshiba เป็นต้น นอกจากนี้ Alghanim Industries ยังสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาคมากมาย ซึ่งรวมถึง X-cite (สินค้าอิเล็กทรอนิกส์) และSafat Home (สินค้าแนวไลฟ์สไตล์และเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Alghanim Industries ได้ที่ http://www.alghanim.com
ที่มา: Alghanim Industries