อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์--7 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/ อินโฟเควสท์
- ADNOC เตรียมเผยโอกาสการลงทุนและความร่วมมือที่งาน Downstream Investment Forum ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงอาบูดาบี ในเดือนพฤษภาคมนี้
- พร้อมเผยโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมต้นน้ำที่งาน CERA Week
- เตรียมเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่ ๆ รับการยื่นประมูลแข่งขันในเชิงพาณิชย์ เพื่อปลดล็อกทรัพยากรที่ยังไม่เคยมีการนำมาใช้ประโยชน์ ในสุดยอดแหล่งไฮโดรคาร์บอนที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) ประกาศความตั้งใจที่จะรุกเดินหน้าธุรกิจปลายน้ำ (การกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี) ในขณะที่บริษัทปรับตัวรอบด้านเพื่อคว้าโอกาสจากความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นและปิโตรเคมีมูลค่าสูงที่กำลังขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างจีนและเอเชีย
(โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/650975/ADNOC_Logo.jpg )
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/650974/ADNOC_CERAWeek.jpg )
ที่งาน CERAWeek ซึ่งเป็นงานประชุมชั้นนำของอุตสาหกรรมพลังงาน ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ (H.E. Dr Sultan Ahmed Al Jaber) รัฐมนตรีแห่งยูเออี และซีอีโอ ADNOC Group ได้ประกาศแผนกลยุทธ์ของ ADNOC ในการที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกในอุตสาหกรรมปลายน้ำ ด้วยการดำเนินงานที่ยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นใหม่ในตลาด สำหรับหัวใจของกลยุทธ์ดังกล่าวนั้น ADNOC ตั้งเป้าที่จะสร้างโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองรูเวส ประเทศยูเออี และจะเพิ่มการผลิตปิโตรเคมีขึ้นสามเท่าเป็น 14.4 ล้านตันต่อปี ภายในปีพ.ศ.2568
ฯพณฯ ดร. อัล จาเบอร์ ยังได้ประกาศถึงแผนการจัดการประชุม Down Stream Investment Forum ณ กรุงอาบูดาบี ในวันที่ 13-14 พฤษภาคม ซึ่งที่งานนี้ ADNOC จะเปิดเผยโอกาสสำคัญ ๆ สำหรับการร่วมลงทุน เพื่อขยายและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปลายน้ำของบริษัท
"เราจะเปิดเผยให้พันธมิตรทุกรายที่พร้อมร่วมงานกับเราได้ทราบถึงโอกาสสำคัญ ๆ สำหรับการร่วมลงทุน ที่งานซึ่งจะจัดขึ้นเป็นพิเศษในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเรากำลังปรับเปลี่ยนธุรกิจปลายน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ" ฯพณฯ ดร. อัล จาเบอร์ กล่าว
"ผมขอเชิญชวนทุกท่านที่ต้องการร่วมเดินทางไปกับเรา ให้มาเข้าร่วมงานประชุม ADNOC Downstream Investment Forum ที่ซึ่งเราจะเปิดตัวโร้ดแม็ป โครงการเด่น ๆ และแผนการลงทุนโดยละเอียด ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของการพัฒนา เราขอต้อนรับพันธมิตรทุกราย ทั้งรายใหม่และรายเดิม ให้มาร่วมสร้างการเติบโตอย่างอัจฉริยะไปกับเรา เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว"
ฯพณฯ ดร. อัล จาเบอร์ อธิบายว่า กลยุทธ์ในการทำธุรกิจปลายน้ำของ ADNOC นั้น สานต่อมาจากความก้าวหน้าที่ ADNOC ได้ทำไว้ในปี 2560 โดยบริษัทได้เร่งการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มการมุ่งเน้นใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ บุคลากร ผลการดำเนินงาน ความสามารถในการทำกำไร และประสิทธิภาพ เพื่อที่จะปลดล็อกและสร้างผลประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรและทรัพย์สินของบริษัท
เขากล่าวว่า นอกจากรวมบริษัทต่าง ๆ ในเครือให้มาอยู่ภายใต้แบรนด์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ADNOC ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจของบริษัททั้งต้นน้ำและปลายน้ำได้ต้อนรับนักลงทุนและพันธมิตรรายใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงินภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ ADNOC ยังได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อยกระดับและทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการเปิดระดมทุนเป็นครั้งแรกจากตลาดทุนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการออกหุ้นกู้วงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับท่อส่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของบริษัท ซึ่งนับเป็นการขายหุ้นกู้เอกชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง อีกทั้งบริษัทยังประสบความสำเร็จในการนำหุ้นของ ADNOC Distribution เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาบูดาบี (ADX) โดยถือเป็นหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในอาบูดาบีในรอบทศวรรษ
"มาตรการที่เราดำเนินมาแล้วจนถึงตอนนี้ ได้ช่วยวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในก้าวต่อไป" ฯพณฯ ดร. อัล จาเบอร์ กล่าว "และโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการเติบโตดังกล่าวก็คือ ธุรกิจปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่คาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 150% ภายในปี 2583 โดยได้แรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจที่เติบโตของเอเชีย"
อย่างไรก็ดี นอกจากการพัฒนาอุตสาหกรรมปลายน้ำ ซึ่งได้กลายมาเป็นภารกิจสำคัญที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายตามกลยุทธ์การเติบโตอัจฉริยะภายในปี 2573 ของ ADNOC แล้ว ฯพณฯ ดร.อัล จาเบอร์ กล่าวว่า บริษัทยังคงสืบสานมรดกอันแข็งแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมต้นน้ำ (การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม) ด้วยเช่นกัน
เขาได้กล่าวถึงการแตกโครงสร้างสัมปทานนอกฝั่งที่ ADMA มีอยู่เดิม แยกย่อยเป็นพื้นที่สัมปทานหลาย ๆ จุด เพื่อยกตัวอย่างให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการขยายขอบเขตความร่วมมือที่เปิดโอกาสให้ ADNOC สามารถดึงดูดพันธมิตรรายใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงกลยุทธ์ ในแง่ของการเข้าถึงตลาด เงินทุน เทคโนโลยี และความรู้ความเชี่ยวชาญ
เพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายตัวในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ฯพณฯ ดร.อัล จาเบอร์ เปิดเผยว่า ทาง ADNOC มีแผนที่จะเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่ ๆ เพื่อรับการยื่นประมูลแข่งขันในเชิงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งสำหรับพันธมิตรรายใหม่และรายเดิม ด้วยเทคโนโลยีการสำรวจที่เป็นเลิศที่สุด เพื่อปลดล็อกทรัพยากรที่ยังไม่เคยมีการนำไปใช้ประโยชน์ ในสุดยอดแหล่งไฮโดรคาร์บอนที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
ทั้งนี้ CERAWeek เป็นการประชุมที่ IHS Markit จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส โดยเป็นเวทีที่รวบรวมบรรดาผู้นำและผู้กำหนดนโยบาย 3,000 ราย จาก 60 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมห่วงโซ่มูลค่าทั้งหมดในภาคพลังงาน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลเชิงลึกในเรื่องตลาดพลังงาน แนวโน้มในอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และกลยุทธ์ต่าง ๆ
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุม Downstream Investment Forum ของ ADNOC ได้ที่ https://adnoc.ae/en/downstream-investment-forum
เกี่ยวกับ ADNOC
ADNOC เป็นกลุ่มบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายภาคส่วน ด้วยกำลังผลิตน้ำมันวันละประมาณ 3 ล้านบาร์เรล และก๊าซดิบอีก 9.8 พันล้านลูกบาศก์ฟุต ADNOC อาศัยกลยุทธ์ธุรกิจที่บูรณาการระหว่างกิจกรรมระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผ่านการดำเนินงานของบริษัทเฉพาะทางที่อยู่ในเครือและธุรกิจร่วมทุนรวม 14 แห่ง รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.adnoc.ae
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: media@adnoc.ae
ที่มา: ADNOC